บทที่ 1 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
- 2. ทบทวนความจา ระบบนิเวศ คือ อะไร การจะเป็นระบบนิเวศได้ต้องมีอะไรบ้าง โลกเราใช่ระบบนิเวศมั้ย? เพราะเหตุใด
- 4. สรุปความรู้ การจะเป็นระบบนิเวศได้ต้องมีอะไรบ้าง สิ่งมีชีวิต : Organism ประชากร : Population กลุ่มสิ่งมีชีวิต : Community ระบบนิเวศ : Ecosystem โลกสิ่งมีชีวิต : Biosphere
- 5. จากองค์ประกอบทั้ง 5 อย่างให้นักเรียนสรุปเนื้อหาจากหนังสือเรียนหน้าที่ 3 ว่าแตกต่างกันอย่างไร??? ลงสมุดให้เรียบร้อย
- 6. สิ่งมีชีวิต : Organism อะตอม อวัยวะ โมเลกุล ระบบอวัยวะ สิ่งมีชีวิต : Organism มีขั้นตอนการกาเนิดสิ่งมีชีวิต ดังนี้ เซลล์ เนื้อเยื่อ
- 7. ประชากร : Population อาศัยอยู่ร่วมกัน การรายงานประชากร “ประชากรของวัวกระทิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงเดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2557 ให้แหล่งที่อยู่เดียวกัน สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน
- 9. ระบบนิเวศ : Ecosystem โลกสิ่งมีชีวิต : Biosphere กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธ์กันเอง และสัมพันธ์กับแหล่งที่อยู่ ระบบนิเวศหลายๆแบบที่ร่วมกันเป็นโลกที่เราอาศัยอยู่
- 10. ระบบนิเวศ : Ecosystem โลกสิ่งมีชีวิต : Biosphere กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธ์กันเอง และสัมพันธ์กับแหล่งที่อยู่ ระบบนิเวศหลายๆแบบที่ร่วมกันเป็นโลกที่เราอาศัยอยู่
- 19. งานกลุ่ม แบ่งกลุ่มกลุ่มละ 2 คน ศึกษาระบบนิเวศในชุมชน ลงใบงานที่ 1 และตอบคาถาม พร้อมทั้งวาดภาพประกอบมาให้เรียบร้อย ส่งภายในวันที่ 1o มิ.ย. 2557
- 21. ระบบนิเวศในน้า แบ่งเป็น ระบบนิเวศแหล่งน้าจืด แหล่งน้าเค็ม และแหล่งน้ากร่อย อาศัยค่าความเค็มเป็นตัวกาหนด น้าจืดมีเกลือ < 0.1 % น้าเค็ม ประมาณ 3.5%
- 22. ระบบนิเวศแหล่งน้าจืด แบ่งเป็น แหล่งน้านิ่ง และแหล่งน้าไหล ในแหล่งน้านิ่ง ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ บริเวณชายฝั่ง บริเวณผิวน้า และน้าชั้นล่าง
- 24. ระบบนิเวศแหล่งน้าจืด ในแหล่งน้าไหล ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ บริเวณน้าไหลเชี่ยวและบริเวณแอ่งน้า
- 25. คาถามระหว่างเรียน นักเรียนคิดว่า สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้าจืด ระหว่างน้านิ่ง และน้าไหล แบบไหนที่ต้องมีการปรับตัวมากกว่า และคิดว่าการปรับตัวนั้นมีอะไรบ้าง ระบบนิเวศแหล่งน้าจืดในท้องถิ่นของนักเรียน เป็นระบบนิเวศแบบใด และมี ความสัมพันธ์ต่อท้องถิ่น อย่างไร นักเรียนคิดว่า มีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ แหล่งน้าจืด
- 26. เฉลยคาถามระหว่างเรียน นักเรียนคิดว่า สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้าจืด ระหว่างน้านิ่ง และน้าไหล แบบไหนที่ต้องมีการปรับตัวมากกว่า และคิดว่าการปรับตัวนั้นมีอะไรบ้าง ตอบ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้าไหล ต้องมีการปรับตัวมากกว่าเพื่อความอยู่รอด เช่น มีรูปร่างเพรียวเพื่อลดแรงต้านของน้า หรือการสร้างอวัยวะสาหรับยึดเกาะพื้นผิวที่ อาศัยอยู่
- 27. คาถามระหว่างเรียน ระบบนิเวศแหล่งน้าจืดในท้องถิ่นของนักเรียน เป็นระบบนิเวศแบบใด และมี ความสัมพันธ์ต่อท้องถิ่น อย่างไร คาตอบ เป็นแหล่งน้าสาหรับใช้อุปโภค และบริโภค ใช้ในการเกษตร การคมนาคม แหล่งประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้า การท่องเที่ยวและพักผ่อน
- 28. คาถามระหว่างเรียน นักเรียนคิดว่า มีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ แหล่งน้าจืด คาตอบ แก๊สออกซิเจนในน้า, ความเป็นกรด-เบส, อุณหภูมิ, สิ่งปนเปื้อน ปริมาณพืชน้า
- 29. ระบบนิเวศแหล่งน้ากร่อย เป็นบริเวณที่มีน้าจืดมาบรรจบกับน้าเค็ม พบบริเวณปากอ่าว ปากแม่น้า เป็นต้น มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารสูง จึงพบสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย
- 30. คาถามระหว่างเรียน เหตุใดบริเวณระบบนิเวศน้ากร่อยจึงมีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารสูง คาตอบ เพราะน้ากร่อย เป็นบริเวณรอยต่อของน้าจืดและน้าเค็มจึงมีการพัดพา สารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆมาตกตะกอนบริเวณปากแม่น้า และการเกิดน้าขึ้น - น้าลงทาให้มีการหมุนเวียนของสารอาหารนั้น ทาให้แหล่งน้าอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ธาตุอาหารนั่นเอง
- 31. ระบบนิเวศแหล่งน้าเค็ม ได้แก่ ทะเลและมหาสมุทร จัดเป็นแหล่งน้าไหล เพราะมีกระแสคลื่นตลอดเวลา มีพื้นที่ 3/4 ของผิวโลก แบ่งเป็นบริเวณชายฝั่งทะเล และบริเวณทะเลเปิด บริเวณชายฝั่ง ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เพราะมีน้าขึ้นน้าลง จึงเกิดการชะล้างธาตุอาหาร
- 32. ระบบนิเวศแหล่งน้าเค็ม บริเวณทะเลเปิด บริเวณที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง แบ่งเป็น เขตที่แสงส่องถึง เขตที่มีแสงน้อย และเขตที่ไม่มีแสง
- 35. หาดหิน บริเวณที่โขดหิน มีซอกและแอ่งน้าสาหรับการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต น้าขึ้น น้าลงมีผลต่อการดารงชีวิต โดยเฉพาะช่วงน้าลงที่จะทาให้ขาดน้าและความชื้น
- 36. หาดหิน สิ่งมีชีวิตจึงต้องมีการปรับตัวคือ สร้างเปลือกหุ้มเพื่อเก็บน้าและความชื้น เช่น เพรียงหิน หอยนางรม ส่วนสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่ได้ ก็จะไปหลบตามซอกหิน เช่นปู ปลิงทะเล
- 37. หาดหิน
- 38. หาดหิน
- 40. แนวปะการัง
- 41. คาถามระหว่างเรียน สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บริเวณหาดหิน พบกับปัญหาใดบ้าง และมีการปรับตัวอย่างไร ในการดารงชีวิต คาตอบ จะมีปัญหาเมื่ออยู่ในสภาวะน้าลง จะเกิดการขาดแคลนน้าและความชื้น รวมถึงการ เปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ วิธีการแก้คือ มีการสร้างสารคิวทินเคลือบที่ตัวเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิ และ ความชื้น ในช่วงน้าขึ้นก็ต้องมีที่ยึดเกาะไม่ให้ลอยไปกับกระแสน้า หรือมีการสร้างเปลือกและรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อนเก็บความชื้น และรักษาอุณหภูมิ
- 42. ระบบนิเวศบนบก
- 45. ป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) ป่าดิบชื้น (Tropical rain forest) พบในพื้นที่ที่ฝนตกชุก เช่นภาคใต้ ชายฝั่งทะเล ความชื้นสูง ใบกว้าง เขียวครึ้มตลอดปี พืชที่พบได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะเคียน ตีนเป็ดแดง ปาล์ม หวาย ไผ่
- 46. ป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) ป่าดิบชื้น (Tropical rain forest)
- 47. ป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) ป่าดิบชื้น (Tropical rain forest)
- 48. ป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) ป่าดิบชื้น (Tropical rain forest)
- 49. ป่าดิบแล้ง (dry evergreen forest) พบทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงหนือ บริวณที่ราบ มีช่วงแห้งแล้ง 3-4 เดือน มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง พืชที่พบ ยางแดง กะบาก ตะเคียนหิน พลอง กระเบาเล็ก
- 50. ป่าดิบแล้ง (Tropical rain forest)
- 51. ป่าดิบแล้ง (Tropical rain forest)
- 52. ป่าดิบแล้ง (Tropical rain forest)
- 53. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest) อยู่ในพื้นที่สูงเหนือระดับน้าทะเล 1,000 ม.ขึ้นไป พบแถบภาคเหนือ เป็นต้นน้าลาธาร พืชที่พบ นางพญาเสือโคร่ง มะขามป้อม อบเชย สนเขา กุหลาบป่า
- 54. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 55. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 56. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 57. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 58. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 59. ป่าดิบเขา (Hill evergreen forest)
- 60. ป่าสน (Coniferous forest) พบตามภูเขาสูง แถบภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน พืชที่พบได้แก่ สนต่างๆ ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ สัตว์ที่พบได้แก่ แมวป่า หมาป่า ชะมด เม่น กระรอก นก
- 64. ป่าชายเลน (Mangrove forest) ขึ้นตามแนวชายฝั่งทะเลและปากแม่น้า เป็นรอยต่อระหว่างระบบนิเวศในน้าและบนบก มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพสูง ต้นไม้ที่พบ โกงกาง แสม ลาพู
- 68. ป่าพรุ (Peat swamp forest) พบตามที่ลุ่ม มีน้าขัง เป็นดินอินทรีย์หรือดินพรุ น้ามีความเป็นกรดสูง เป็นป่าทึบ ป่าพรุที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด คือ พรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส พืชที่มักพบคือ หวาย หมากแดง หลุมพี
- 69. ป่าพรุ (Peat swamp forest)
- 70. ป่าผลัดใบ (Diciduous Forest) ป่าเบญจพรรณ(Mixed deciduous forest) เป็นป่าโปร่ง พบทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ มักเป็นดินร่วนปนทราย พืชหลักที่พบได้แก่ สัก มะค่า แดง ประดู่ และชิงชัน ปะปนกับไผ่และหญ้า
- 71. ป่าผลัดใบ (Diciduous Forest) ป่าเบญจพรรณ(Mixed deciduous forest)
- 72. ป่าผลัดใบ (Diciduous Forest) ป่าเบญจพรรณ(Mixed deciduous forest)
- 73. ป่าผลัดใบ (Diciduous Forest) ป่าเบญจพรรณ(Mixed deciduous forest)
- 74. ป่าเต็งรัง (Dry dipterocarp forest) เป็นป่าโปร่ง พบในเขตพื้นที่แห้งแล้งของทุกภาค ยกเว้นภาคใต้และตะวันออก พืชหลักที่พบได้แก่ เต็ง รัง ไผ่เพ็ก พะยอม ประดู่แดง มะขามป้อม
- 75. ป่าเต็งรัง (Dry dipterocarp forest)
- 76. ป่าเต็งรัง (Dry dipterocarp forest)