17. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (17)
เมื่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟาเคลื่อนที่ทํามุมใดๆ กับสนามไฟฟา (ไมขนานกับสนามไฟฟา) จะเกิดความเรง
ในแนวเดียวกับสนามไฟฟา แตมีความเร็วคงที่ในแนวตั้งฉากกับสนามไฟฟา ซึ่งลักษณะการเคลื่อนที่แบบนี้ คือ
โพรเจกไทล
+
E
v
-
เคลื่อนที่โคงพาราโบลา
เคลื่อนที่แนวตรง
34. A, B และ C เปนแผนวัตถุ 3 ชนิด ที่ทําใหเกิดประจุไฟฟาโดยการถู ซึ่งไดผลดังนี้ A และ B ผลักกัน สวน
A และ C ดูดกัน ขอใดตอไปนี้ถูกตอง
1) A และ C มีประจุบวก แต B มีประจุลบ 2) B และ C มีประจุลบ แต A มีประจุบวก
3) A และ B มีประจุบวก แต C มีประจุลบ • 4) A และ C มีประจุลบ แต B มีประจุบวก
35.
จากรูป แสดงเสนสนามไฟฟาที่เกิดจากวัตถุ A และ B ที่มีประจุไฟฟา ขอใดไมถูกตอง
1) วัตถุ A และวัตถุ B ผลักกัน •
2) บริเวณใกลวัตถุ A จะมีศักดิ์ไฟฟาสูงกวาวัตถุ B
3) วัตถุ A และวัตถุ B มีแรงดูดกับวัตถุที่เปนกลางทางไฟฟา
4) วัตถุ A มีประจุไฟฟาเปนบวก และวัตถุ B มีประจุไฟฟาเปนลบ
36. จุด A และ B อยูภายในเสนสนามไฟฟาที่มีทิศตามลูกศรดังรูป ขอใดตอไปนี้ถูกตอง
A B
1) วางประจุลบลงที่ A ประจุลบจะเคลื่อนไปที่ B 2) วางประจุบวกลงที่ B ประจุบวกจะเคลื่อนไปที่ A
3) สนามไฟฟาที่ A สูงกวาสนามไฟฟาที่ B 4) สนามไฟฟาที่ A มีคาเทากับสนามไฟฟาที่ B •
BA
19. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (19)
แมเหล็กไฟฟา
แมเหล็ก นําแทงแมเหล็กที่สามารถเคลื่อนที่ไดอยางอิสระ ดังรูป ปลายของแทงแมเหล็กที่ชี้ไปประมาณ
ทิศเหนือ เรียกปลายของแมเหล็กวาเปนขั้วเหนือแมเหล็ก (N) และ ปลายตรงขามเรียกวา ขั้วใตแมเหล็ก (S)
N N
S
N
S
S
N
N
S
• ขั้วแมเหล็กชนิดเดียวกันจะเกิดแรงผลักกัน
• ขั้วแมเหล็กชนิดตรงขามจะเกิดแรงดูดกัน
สนามแมเหล็กโลก
เข็มทิศ คือ แทงแมเหล็กขนาดเล็กที่มีทั้ง ขั้วเหนือและขั้วใต
ในภาวะปกติที่วางในสนามแมเหล็กโลก ขั้วเหนือของเข็มทิศจะชี้ทิศ
เหนือภูมิศาสตรเพราะถูกขั้วใตของสนามแมเหล็กโลกดูด แตถานํา
เข็มทิศไปวางในสนาม แมเหล็กใด ขั้วเหนือของเข็มทิศจะชี้ทิศของ
สนามแมเหล็กลัพธที่จุดนั้น
ขั้วโลกเหนือจะเปนขั้วใตสนามแมเหล็กและที่ขั้วโลกใตจะเปนขั้วเหนือสนามแมเหล็กโลก ดังรูป
Earth's
magnetic pole
Geographic
North Pole
Earth's
magnetic pole
Geographic
South Pole
Earth's axis
S
N
Magnetic
equator
s
n
ss
s
s
s
s
s s
nnn
n
n
n
n
n
เสนแรงแมเหล็ก หมายถึง เสนที่แสดงทิศของแรงลัพธที่แทงแมเหล็กกระทําตอเข็มทิศ
เสนแรงแมเหล็กรอบๆ แทงแมเหล็กจะมีลักษณะโคง 3 มิติ และพุงจากขั้วเหนือไปขั้วใตของแมเหล็ก
เสนแรงแมเหล็กโลกบนพื้นที่เล็กๆ จะมีลักษณะเปนเสนขนาน ทิศพุงไปทางทิศเหนือภูมิศาสตร
เสนแรงแมเหล็กไมตัดกัน
บริเวณที่ไมมีเสนแรงแมเหล็กผาน บริเวณนั้นจะไมมีสนามแมเหล็กและเรียกจุดนั้นวา จุดสะเทิน
(Neutral Point)
20. วิทยาศาสตร ฟสิกส (20)______________________________ โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013
แรงที่กระทําตออนุภาคที่มีประจุ ซึ่งเคลื่อนที่ในบริเวณที่มีสนามแมเหล็ก
อนุภาคที่มีประจุจะถูกแรงแมเหล็กกระทําตออนุภาคก็ตอเมื่ออนุภาคนั้น ตองเคลื่อนที่โดยไมขนานกับ
ทิศสนามแมเหล็ก ถาเคลื่อนที่ตั้งฉากกับทิศสนามแมเหล็กจะถูกแรงกระทําใหเคลื่อนที่เปนวงกลม ทิศทางของแรง
ที่กระทําตออนุภาคที่มีประจุ ใช “Right hand rule” หลักมือขวา
ทิศแรง
ทิศประจุบวก
ทิศสนามแมเหล็ก
40. โดยปกติเข็มทิศจะวางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต เมื่อนําเข็มทิศมาวางใกลๆ กับกึ่งกลางแทงแมเหล็กที่ตําแหนง
ดังรูป เข็มทิศจะชี้ในลักษณะใด
เข็มทิศ
N S
1)
N
S
2)
N
S
3) N S
4) NS •
41. จงพิจารณาขอความตอไปนี้ ขอใดผิด
1) ทิศเหนือภูมิศาสตรและทิศใตภูมิศาสตรจะเปนขั้วใตและขั้วเหนือของสนามแมเหล็กโลกตามลําดับ
2) เข็มทิศคือแทงแมเหล็กขนาดเล็ก เมื่อวางในสนามแมเหล็กโลกขั้วเหนือของเข็มทิศจะชี้ทิศเหนือภูมิศาสตร
3) ทั้งขั้วเหนือและขั้วใตของแทงแมเหล็กจะดูดสารแมเหล็ก เชน เหล็ก นิเกิล เสมอ
4) บริเวณเสนศูนยสูตรจะมีความหนาแนนของเสนแรงแมเหล็กโลกมากกวาบริเวณขั้วโลกทั้งสอง •
21. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (21)
42. จากแผนภาพแสดงลักษณะของเสนสนามแมเหล็กที่เกิดจากแทงแมเหล็กสองแทง
C D
A B
ขอใดบอกถึงขั้วแมเหล็กที่ตําแหนง A, B, C และ D ไดถูกตอง
1) A และ C เปนขั้วเหนือ B และ D เปนขั้วใต
2) A และ D เปนขั้วเหนือ B และ C เปนขั้วใต
3) B และ C เปนขั้วเหนือ A และ D เปนขั้วใต •
4) B และ D เปนขั้วเหนือ A และ C เปนขั้วใต
43. A, B และ C เปนแทงแมเหล็ก 3 แทง วางไวดังรูป ถาขั้ว 1 ดูดกับขั้ว 2
CA B
S 1 2 3 4 N
จงพิจารณาขอความตอไปนี้ ขอใดผิด
1) ขั้ว 3 จะดูดกับขั้ว 4
2) ขั้ว 1 และ ขั้ว 3 ตางเปนขั้วเหนือ
3) ถานําแทงแมเหล็กขั้วใตไปวางใกลๆ ขั้ว 3 จะดูดกับขั้ว 3
4) ถานําแทงแมเหล็กขั้วเหนือไปวางใกลๆ ขั้ว 2 จะผลักกับขั้ว 2 •
44. ในรูปซาย A และ B คือเสนทางการเคลื่อนที่ของอนุภาค 2 อนุภาคที่ถูกยิงมาจากจุด P ไปทางขวาเขาไป
ในบริเวณที่มีสนามแมเหล็ก (ดูรูปซาย) ถานําอนุภาคทั้งสองไปวางลงในบริเวณที่มีสนามไฟฟาดังรูปขวา
จะเกิดอะไรขึ้น (ด แทนสนามแมเหล็กที่มีทิศพุงเขาและตั้งฉากกับกระดาษ)
P
ด ด ด ด ด ด ด
สนามไฟฟา
ด ด ด ด ด ด ด
ด ด ด ด ด ด ด
ด ด ด ด ด ด ด
A
B
1) A เคลื่อนที่ไปทางขวา สวน B เคลื่อนที่ไปทางซาย •
2) A เคลื่อนที่ไปทางซาย สวน B เคลื่อนที่ไปทางขวา
3) ทั้ง A และ B ตางก็เคลื่อนที่ไปทางขวา
4) ทั้ง A และ B ตางก็อยูนิ่งกับที่
22. วิทยาศาสตร ฟสิกส (22)______________________________ โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013
45. วางลวดไวในสนามแมเหล็กดังรูป เมื่อใหกระแสไฟฟาเขาไปในเสนลวดตัวนําจะเกิดแรงเนื่องจากสนามแมเหล็ก
กระทําตอลวดนี้ในทิศทางใด
N S
I
1) ไปทางซาย (เขาหา N)
2) ไปทางขาว (เขาหา S)
3) ลงขางลาง
4) ขึ้นดานบน •
46. เสนลวดโลหะ AB กําลังตกลงมาในแนวดิ่ง ขณะที่เสนลวดดังกลาวกําลังเคลื่อนที่เขาใกลขั้วเหนือ (N)
ของแมเหล็กดังรูป อิเล็กตรอนในเสนลวดโลหะจะมีสภาพอยางไร
ทิศความเร็ว
ในแนวดิ่ง
A
B
N S
1) เคลื่อนที่จากปลาย A ไป B •
2) เคลื่อนที่จากปลาย B ไป A
3) อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ไปที่ปลาย A และ B ในสัดสวนพอๆ กัน
4) อิเล็กตรอนจากปลาย A และ B เคลื่อนที่มารวมกันที่กึ่งกลางเสนลวด
64. วิทยาศาสตร ฟสิกส (64)______________________________ โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013
23. กลองสองใบมีมวล m1 และ m2 ตามลําดับ วางซอนกันบนพื้นราบลื่นไรความฝด มีแรง F กระทําตอกลอง m1
ทําใหกลองทั้งสองเคลื่อนไปทางขวาดวยความเรง a ถา f เปนแรงเสียดทานสูงสุดที่มีไดระหวางผิวสัมผัส
ของกลองทั้งสอง F มีคาไดมากที่สุดเทาใด มวล m2 จึงไมไถลไปบน m1 (ระบบใหม ป 2546/1)
F
a
m2
m1
f
1)
1
2
m
m
f 2)
21
2
mm
m
+
f
3)
2
1
m
m
f *4)
2
21
m
mm +
f
24. มวล 2 กอน มีมวลกอนละ 1 กิโลกรัม ผูกติดเชือกน้ําหนักเบาและแขวนติดกับเพดานของลิฟตดังรูป ถาลิฟต
เคลื่อนที่ลงดวยความเรง 2 เมตรตอวินาที2 จงหาแรงตึงในเสนเชือก T1 และ T2 (ระบบใหม มีนาคม 2543)
1 kg
1 kg
2
T1
T2 2m/s
*1) T1 = 16 N และ T2 = 8 N 2) T1 = 20 N และ T2 = 10 N
3) T1 = T2 = 20 N 4) T1 = 24 N และ T2 = 12 N
25. มวล m วางบนพื้นเอียงที่ทํามุม 30° กับพื้นราบถูกโยงกับมวล 10 กิโลกรัม ดวยเชือกไรน้ําหนัก ซึ่งพาดอยู
บนรอกดังรูป ถามวล m กําลังเคลื่อนที่ขึ้นดวยความเรง 2.0 เมตรตอวินาที2 และสัมประสิทธิ์ความเสียด
ทานจลนระหวางมวล m กับพื้นเอียง คือ 0.5 มวล m จะใกลเคียงกับคาใด (ระบบใหม มีนาคม 2543)
30o
m
10 kg
*1) 7 kg 2) 9 kg
3) 10 kg 4) 11 kg
65. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (65)
26. นักกระโดดรมมวล 65 kg ลงถึงพื้นดินดวยการยอตัว ขณะยืดตัวขึ้นจุดศูนยกลางมวลของรางกายมีขนาด
ของความเรง 30 เมตรตอวินาที2 แรงที่พื้นกระทําตอเทาของนักกระโดดรมคนนี้เปนเทาใด
(ระบบใหม ตุลาคม 2542)
1) 650 N
2) 1,300 N
3) 1,950 N
*4) 2,600 N
27. จากรูปพื้นไมมีแรงเสียดทาน รอกคลองและเบามาก มวล 10 kg มีความเรงเทาใด
1) 5.25 m/s2
*2) 6.25 m/s2
3) 8.75 m/s2
4) 7.25 m/s2
28. จากรูปวัตถุมวล A หนัก 20 kg และวัตถุมวล B หนัก 5 kg ผูกติดกันดวยเชือกเสนหนึ่ง แลวคลองผานรอก
ซึ่งติดอยูกับรอก C จงหาความเรงของรถ C ที่ทําใหวัตถุ A และ B อยูนิ่งเมื่อเทียบกับรถ C ถาคิดวาทุก
ผิวสัมผัสไมมีแรงเสียดทาน
1) 1.0 เมตรตอวินาที2
*2) 2.5 เมตรตอวินาที2
3) 5.0 เมตรตอวินาที2
4) 10.0 เมตรตอวินาที2
75. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (75)
22. แทงวัตถุขนาดไมสม่ําเสมอยาว L = 1.4 เมตร ถูกแขวนอยูในสมดุลดวยสปริงเบาที่ปลายทั้งสองของแทง
วัตถุ ดังรูป ถาแรงดึงสปริง F1 = 60 นิวตัน และ F2 = 20 นิวตัน จงหาตําแหนงจุดศูนยกลางมวลวัดจาก
ปลาย A ของแทงวัตถุในหนวยเมตร (ระบบใหม ตุลาคม 2542) ตอบ 0.35 เมตร
F1 =60 N F2 =20 N
L = 1.4 m
Xc
CM
BA
23. ทอน้ํายาว 2 ทอ แตละทอหนัก 40 กิโลกรัม วางชิดกันตามยาวบนพื้นเกลี้ยง ถานําทอลักษณะเหมือนกันวาง
ซอนสองทอแรกดังรูป แรง H ในแนวราบจะตองมีคาอยางนอยเทาไร ที่จะทําใหทอไมแยกจากกัน
(กําหนด sin 30° = 0.50, cos30° = 0.87)
*1) 115 N
2) 240 N
3) 350 N
4) 460 N
24. คานสม่ําเสมอ AB ยาว 4 เมตร มีมวล 60 กิโลกรัม วางดพาดอยูบนเสา A และเสา C ซึ่งอยูหางกัน 3
เมตร ชายคนหนึ่งมีมวล 75 กิโลกรัม เดินจาก A ไป B ดังรูป จงหาวาเขาจะเดินไดไกลจาก A มากที่สุด
เทาไร คานจึงคงสภาพสมดุลอยูได
A C
B
600 N
1 m
3 m
1) 3.2 m
2) 3.4 m
3) 3.6 m
*4) 3.8 m
76. วิทยาศาสตร ฟสิกส (76)______________________________ โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013
เรื่อง งานพลังงาน
1. ปลอยวัตถุกอนหนึ่งใหแกวงลงมาดังรูป ความเรงที่ตําแหนงต่ําสุดมีขนาดเทาใด (มีนาคม 2554) ตอบ 2g
gv
R
2gR
2. มวลกอนหนึ่งถูกปลอยจากที่สูงตกลงมากระทบกับสปริงตัวหนึ่ง ซึ่งเบามากและตั้งอยูบนพื้นแข็งแรง ผลของ
การกระทบทําใหสปริงหดสั้นเปนระยะทาง h หลังจากนั้นมวลกอนนี้ก็ถูกสปริงดันขึ้นทําใหมวลเคลื่อนที่กลับมา
ที่ความสูงที่ปลอยขอใดถูก (ตุลาคม 2552)
มวล m มีอัตราเร็ว v
ขณะเริ่มสัมผัสปลายสปริง
มวล m อยูที่ตําแหนงต่ําที่สุด
สปริงหดเปนระยะทาง h
m
m
v h
*1) ขณะอยูที่ตําแหนงต่ําสุด มวลไมอยูภายใตสภาวะสมดุลแรง
2) ระยะหดของสปริงสามารถคํานวณไดจากการอนุรักษของผลรวมระหวางพลังงานจลน และพลังงานศักย-
โนมถวง
3) ขณะอยูที่ตําแหนงต่ําสุด พลังงานศักยยืดหยุนในสปริงมีคาเปนศูนย
4) ขณะอยูที่ตําแหนงต่ําสุด มวลมีความเรงเปนศูนย
3. วัตถุมวล 80 กิโลกรัม มีความเร็วตน 10 เมตร/วินาที มีแรง 20 นิวตัน กระทําในทิศเดียวกับการเคลื่อนที่
ของมวลเปนเวลา 20 วินาที อัตราการทํางานเฉลี่ยในชวงเวลา 20 วินาทีนี้เปนเทาใดในหนวยวัตต
(ระบบใหม ป 2548/1) ตอบ 250 วัตต
77. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (77)
4. สปริงที่มีคาคงที่สปริงเปน k1 และ k2 ผูกตอกันเอง และยืดติดกับกําแพงและมวล m บนพื้นราบที่ตําแหนง
สมดุล ดังรูป ตอมาดึงมวลไปทางขวามือเปนระยะ d สปริง k1 จะยืดออกเทาใด (ระบบใหม ป 2548/1)
1k
m
2k
1)
2
1
k
k
d
2)
1
2
k
k
d
*3)
21
2
kk
k
+
d
4)
21
1
kk
k
+
d
5. ยกวัตถุมวล m จากหยุดนิ่งดวยแรงคงที่ ขึ้นในแนวดิ่งเปนระยะทาง h ใชเวลา T กําลังเฉลี่ยในการทํางาน
ยกวัตถุนั้นในชวงเวลาดังกลาวเปนเทาใด (ระบบใหม ป 2547/2)
*1) T
mgh
2) 2T
mgh
3) m
+
2T
2hg
T
2h
4) m
+
2T
2hg
T
h
6. รถบรรทุกมวล 5,000 กิโลกรัม เคลื่อนที่บนพื้นราบในแนวเสนตรงดวยความเร็ว 20 เมตร/วินาที ถาตองการ
ใหรถนี้หยุดสนิทในระยะทาง 50 เมตร จะตองใชแรงตานเทาใด (ระบบใหม ป 2547/1)
1) 5,000 N
2) 10,000 N
*3) 20,000 N
4) 40,000 N
83. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (83)
27. เชือกยาว l ที่ปลายผูกมวล m ถาปลอยใหมวลเคลื่อนที่ตามสวนโคงแนวเชือกปะทะตะปูที่จุด A แลว
เคลื่อนที่เปนวงกลม ดังรูป ตะปูอยูหางจากจุด B เทาใด
x
x
1) 0.3l
2) 0.4l
3) 0.5l
*4) 0.6l
28. มวล 10 กิโลกรัม แขวนไวกับสปริงในแนวดิ่ง ปรากฏวาสปริงยืดออกจากเดิม 10 cm ถาเรายกมวลขึ้นมา
จนสปริงไมยืดและไมหดแลวปลอยมือทันที อยากทราบวาสปริงจะยืดออกมากที่สุดกี่เซนติเมตรจากจุดสมดุล
ของสปริง
10 cm
ปลอยมือ
k = 1000 cn/m
1) 5 cm
2) 10 cm
3) 15 cm
*4) 20 cm
85. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013_______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (85)
2. ความดัน
ความดัน คือ ขนาดของแรงที่กดทับลงบนพื้นที่ 1 หนวยซึ่งสามารถเขียนเปนสมการไดงายๆ คือ...
P = A
F
P = ความดันเปนปริมาณสเกลาร มีหนวยเปน N/m2 หรือ Pascal
ความดันของของเหลว เนื่องจากของเหลวมีน้ําหนักดังนั้นเมื่อนองพิจารณาภาชนะอันหนึ่งใสน้ําที่มีความสูง H
นองจะพบวาที่กนภาชนะจะมีแรงกดจากน้ําหนักของของเหลวที่บรรจุอยู นั่นก็คือ...
P = A
F = A
mg
= A
V)g(ρ
= A
Ah)g(ρ
= ρgh
“สําหรับหลักการคํานวณเรื่องนี้ มีหลักแคขอเดียว
คือ “ของเหลวชนิดเดียวกันที่ระดับเดียวกันจะมีความ
ดันตองเทากัน””
หลอดรูปตัว U
117. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (117)
13. เชือกยาว 1 เมตร ปลายขางหนึ่งถูกตรึง ปลายอีกขางหนึ่งติดกับเครื่องที่สั่นในแนวตั้งฉากกับเสนเชือกและ
สั่นดวยความถี่ 80 เฮิรตซ ถาเกิดคลื่นนิ่งมีปฏิบัพ 4 แหง อัตราเร็วของคลื่นในเชือกเปนเทาใด
(ระบบใหม ป 2546/1)
1) 20 m/s
2) 27 m/s
*3) 40 m/s
4) 53 m/s
14. ถาสะบัดปลายเชือกยาว L ใหเกิดคลื่นดลในเสนเชือก 2 ลูก โดยใหคลื่นลูกที่ 2 เริ่มเคลื่อนที่ออกไป เมื่อ
เคลื่อนลูกแรกอยูที่จุดกึ่งกลางของความยาวเชือก ถาปลายเชือกอีกดานหนึ่งถูกตรึงแนนอยูกับที่บนผนังจุดที่
คลื่นทั้งสองปรากฏหายไปชั่วขณะคือตําแหนงที่หางจากผนังเทาใด (ระบบใหม ตุลาคม 2544)
1) 8
L
*2) 4
L
3) 3
L
4) 4
3L
15. ลูกตุม A B C D และ E แขวนกับเชือกที่ขึงตึง ดังแสดงในรูป เมื่อผลักลูกตุม A ใหแกวงลูกตุมใดจะแกวง
ตามลูกตุม A อยางเดนชัด (ระบบใหม ตุลาคม 2544)
C
A
B D
E
1) ลูกตุม B
2) ลูกตุม C
3) ลูกตุม D
*4) ลูกตุม E
118. วิทยาศาสตร ฟสิกส (118) _____________________________ โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013
16. ในการศึกษาปรากฏการณดอปเพลอรโดยใชถาดคลื่น เมื่อนักเรียนจุมปลายดินสอที่ผิวน้ําดวยจังหวะสม่ําเสมอ
พรอมดวยเคลื่อนปลายดินสอ ถาการทดลองของนักเรียนใหหนาคลื่นดังรูปขอสรุปใดตอไปนี้ถูกตอง (ระบบใหม
ตุลาคม 2544)
1) การทดลองมีการเคลื่อนปลายดินสอไปทางซายดวยอัตราเร็วเทากับอัตราเร็วของคลื่น
*2) การทดลองมีการเคลื่อนปลายดินสอไปทางขวาดวยอัตราเร็วเทากับอัตราเร็วของคลื่น
3) การทดลองมีการเคลื่อนปลายดินสอไปทางซายดวยอัตราเร็วมากกวาอัตราเร็วของคลื่น
4) การทดลองมีการเคลื่อนปลายดินสอไปทางขวาดวยอัตราเร็วมากกวาอัตราเร็วของคลื่น
17. ในการทดลองเรื่องการเคลื่อนที่ของคลื่นโดยใชถาดน้ํากับตัวกําเนิดคลื่น ซึ่งเปนมอเตอรที่หมุน 4 รอบตอ
วินาที ถาคลื่นบนผิวน้ําเคลื่อนที่ดวยอัตราเร็ว 12 เซนติเมตร/วินาที จงหาความยาวคลื่นบนผิวน้ําที่เกิดขึ้น
(ระบบใหม มีนาคม 2544)
1) 1.5 cm
*2) 3.0 cm
3) 4.5 cm
4) 6.0 cm
18. ในการทดลองการแทรกสอดของคลื่นน้ําโดยจุดกําเนิดคลื่นอาพันธ 2 จุด ผูทดลองสังเกตเห็นวามีแนวปฏิบัพ
หลายแนวเกิดขึ้นระหวางจุดกําเนิดทั้งสองนั้นและถาลดระยะระหวางจุดกําเนิดลงทุกๆ 6 มิลลิเมตร จํานวน
แนวปฏิบัพจะลดลง 2 แนว คลื่นน้ํามีความยาวคลื่นเทาใดในหนวยมิลลิเมตร (ระบบใหม มีนาคม 2544)
ตอบ λ = 6 มิลลิเมตร
19. ในการทดลองเรื่องการหักเหของคลื่นผิวน้ํา เมื่อคลื่นผิวน้ําเคลื่อนที่จากบริเวณน้ําลึกไปน้ําตื้นความยาวคลื่น
λ ความเร็ว v และความถี่ f ของคลื่นผิวน้ําจะเปลี่ยนอยางไร (ระบบใหม ตุลาคม 2543)
*1) λ นอยลง v นอยลง แต f คงที่
2) λ มากขึ้น v มากขึ้น แต f คงที่
3) λ นอยลง f มากขึ้น แต v คงที่
4) λ มากขึ้น f นอยลง แต v คงที่
119. โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2013______________________________ วิทยาศาสตร ฟสิกส (119)
20. จากรูป แสดงหนาคลื่นตกกระทบและหนาคลื่นหักเหของคลื่นผิวน้ําที่เคลื่อนที่จากเขตน้ําลึกไปยังเขตน้ําตื้น
เมื่อ กข คือเสนรอยตอระหวางน้ําลึกและน้ําตื้น จงหาอัตราสวนความเร็วของคลื่นในน้ําลึกตอความเร็วของ
คลื่นในน้ําตื้น (ระบบใหม มีนาคม 2543)
55
35 30
o
o
o
บริเวณน้ําตื้น
บริเวณน้ําลึก
ก
60o
ข
1) sin 60° / sin 35°
2) sin 35° / sin 60°
*3) sin 55° / sin 30°
4) sin 30° / sin 55°
21. เสนดายปลายดานหนึ่งผูกติดกับปลายของสอมเสียงที่สั่นดวยความถี่ 250 Hz สวนปลายอีกดานหนึ่งผาน
รอกลื่นและมีมวลถวงใหเสนดายดึง เมื่อสอมเสียงสั่นปรากฏวาเกิดคลื่นนิ่งดังรูป แสดงวาความเร็วคลื่นใน
เสนดายมีคาเทาใด (ระบบใหม ตุลาคม 2542)
m
0.6 m
1) 50 m/s
*2) 100 m/s
3) 150 m/s
4) 200 m/s