นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
โดยนายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ
ตุลาคม ๒๕๕๖
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
คาอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
โดยนายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น ตาแหน่งนิติกรชานาญการ
ส่วนนโยบายการคลังและพัฒนารายได้ สานักบริหารการคลังท้องถิ่น
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
คาปรารภ
แนวความคิดในการเขียนคาอธิบายพระราชบัญญัติป้ายนี้ เนื่องจากเห็นว่า องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น (ยกเว้น องค์การบริหารส่วนจังหวัด) มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีที่ท้องถิ่นจัดเก็บเอง มีภาษี หลักๆ
๓ ประเภท ได้ แก่ภาษีบารุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีป้าย
รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสาคัญกับการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่นและที่ผ่าน
มาได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้ท้องถิ่นจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น เช่น การให้เงินรางวัลในการ
จัดเก็บรายได้ท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นไม่สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร ซึ่งสาเหตุนั้นมีหลายประการตาม
ลักษณะของท้องถิ่นที่มีความหลากหลายมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของสังคมและพื้นที่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่
ข้าพเจ้าคิดคือกรณีที่เราให้ความสาคัญกับงานอย่างหนึ่งแล้ว สิ่งที่จะต้องคิดต่อไปว่าจะให้ใครมาทางานอันสาคัญนี้
ให้สาเร็จ คนที่มาทาจะต้องมีคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนี้เพียงใด ความรู้ ความสามารถระดับใด เพื่อให้งาน
นั้นสาเร็จตามเป้าหมาย
ในปัจจุบันมีหลายงานที่มีความสาคัญที่ท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติ เช่น ด้านการพัสดุที่เกี่ยวข้อง
กับการจัดซื้อ จัดจ้าง ด้านการจัดเก็บภาษี ซึ่งงานที่สาคัญดังกล่าวนี้กลับกลายเป็นว่าการรับสมัครเจ้าหน้าที่ที่มา
รับผิดชอบงานในตาแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ ๑ วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวมทั้งการจัดเก็บ
ภาษีก็เช่นกัน ตาแหน่งที่รับสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ ๑ วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่ความ
แตกต่างของเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้นั้นจะต้องมาปฏิบัติงานที่ต้องใช้กฎหมายกับประชาชนทั่วไปเป็นการเฉพาะ
อย่างต่าจะต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย ๓ ฉบับ ซึ่งข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานนั้นนอกจากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
แล้วในบางครั้งยังต้องเกี่ยวข้องกับการที่จะต้องไปดาเนินคดีตามกฎหมายด้วยงานดังกล่าวนี้ควรที่จะมีวุฒิ
การศึกษาด้านกฎหมายมาดาเนินการ
ข้าพเจ้าจึงได้แรงบันดาลใจจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยรามคาแหง คณะนิติศาสตร์ จะมี
คาอธิบายวิชากฎหมายต่างๆให้ศึกษาด้วยตนเอง และจากการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีของท้องถิ่น
ได้พบเห็นปัญหาและความจริงในเรื่องนี้ และเข้าใจเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะที่บรรจุใหม่ จึงได้จัดทา
คาอธิบายกฎหมาย พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ขึ้น
หวังว่าคาอธิบายนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้และผู้สนใจ และหากมีสิ่งใดที่
จะเสนอแนะ ข้าพเจ้าขอน้อมรับด้วยความเคารพและขอขอบคุณยิ่ง
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
คาอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐”
อธิบาย
เดิมภาษีป้ายนั้น เป็นภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรจะมีหน้าที่ในการ
จัดเก็บภาษีป้าย ในเวลาต่อมาเมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติรายได้เทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๗1
และ
พระราชบัญญัติรายได้สุขาภิบาล พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๖2
ได้กาหนดเทศบาลและสุขาภิบาลมีอานาจหน้าที่ในการ
จัดเก็บภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร เหตุผลในการออกพระราชบัญญัติภาษีป้าย เนื่องจากภาษีป้ายเป็นภาษีของ
ราชการส่วนท้องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ควรแยกออกจากประมวลรัษฎากร และมอบให้ราชการส่วน
ท้องถิ่น โดยกาหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และสุขาภิบาลเป็นผู้จัดเก็บ จึงได้มีการตรากฎหมาย
ภาษีป้ายขึ้นโดยเฉพาะ
เมื่อมีการกาหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)มีหน้าที่ในการจัดเก็บ
รายได้แล้ว ภาษีป้ายที่จัดเก็บได้ในราชการส่วนท้องถิ่นก็ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (มาตรา ๙ )
ปัจจุบันราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ที่จัดเก็บภาษีประกอบด้วย เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล
กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา สาหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีพื้นที่ทับซ้อนกับเทศบาล องค์การบริหาร
ส่วนตาบล และเมืองพัทยา ซึ่งตามพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๓ 3
ไม่ได้กาหนดให้เป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นต้นไป
อธิบาย
ในการตรากฎหมายจะมีการกาหนดวันที่ใช้บังคับไว้ ซึ่งการกาหนดวันบังคับใช้นั้นก็มีการ
กาหนดที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็กาหนดไว้สองลักษณะคือ
๑. มีการกาหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งตัวบทกฎหมายนั้นๆว่าใช้บังคับในวัน เดือน ปีอะไร
เช่น กาหนดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้น
๒. มีการกาหนดวันให้ใช้บังคับไว้ภายหลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเช่น
กาหนดว่าภายในหนึ่งวันนับจากวันที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เหตุผลที่กาหนดว่านับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากในทางกฎหมายหากมี
การประกาศแล้วถือว่าประชาชนได้รับทราบตัวบทกฎหมายนั้นแล้ว (ตามหลักกฎหมายนั้นบุคคลจะอ้างเอาความ
ไม่รู้กฎหมายนั้นมาต่อสู้ทางคดีให้ตนเองพ้นผิดไม่ได้ กล่าวคือจะอ้างว่าตัวเองไม่รู้กฎหมายในการกระทาผิดไม่ได้)
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกหมวด ๕ ภาษีป้ายในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร
บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่ง
ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
1
มาตรา ๗ ภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร สาหรับป้ายซึ่งแสดงไว้ในเขตเทศบาลใด ให้เทศบาลนั้นจัดเก็บเป็นรายได้ของเทศบาลตามประมวลรัษฎากร ตั้งแต่ปีภาษี
2
มาตรา ๖ ภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากรสาหรับป้ายซึ่งแสดงไว้ในเขตสุขาภิบาลใด ให้สุขาภิบาลนั้นจัดเก็บเป็นรายได้ของสุขาภิบาลตามประมวลรัษฎากร ตั้งแต่ปีภาษี 2498 เป็น
ต้นไป
3
พระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๒๓ เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตาบลอาจมีรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และเงินรายได้ดังต่อไปนี้
(๑) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(๒) ภาษีบารุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบารุงท้องที่
(๓) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย
ฯลฯ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒-
อธิบาย
เป็นบทบัญญัติให้ยกเลิกหมวด ๕ ภาษีป้ายในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร แล้วให้ใช้
พระราชบัญญัตินี้แทน
ในมาตรา ๓ วรรคสอง เป็นลักษณะการกาหนดสภาพบังคับให้ใช้บทบัญญัติกฎหมายนั้นๆ
หากมีกฎหมายอื่นขัดแย้งกับกฎหมายหรือพระราชบัญญัติที่ตราขึ้นก็ให้ใช้บทบัญญัติกฎหมายที่ตราขึ้น
มาตรา ๔ เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เทศบาลใดอยู่ในความควบคุมดูแลของกระทรวง
มหาดไทยตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล บรรดาอานาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็น
อานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
อธิบาย
มาตรานี้เป็นการกาหนดอานาจหน้าที่ระหว่างรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมายกับผู้ว่า
ราชการจังหวัดในการควบคุมดูแลเทศบาล
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้กับให้มีอานาจ
ออกกฎกระทรวงกาหนดอัตราภาษีป้ายไม่เกินอัตราที่กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ และ
กาหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
อธิบาย
ได้กาหนดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติป้ายได้
และสามารถออกกฎกระทรวงต่างๆ และกฎกระทรวงมหาดไทยจะใช้บังคับได้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
หมวด ๑
บททั่วไป
..........................................
มาตรา ๖ ในพระราชบัญญัตินี้
“ป้าย” หมายความว่า ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือ
ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่
วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น
อธิบาย
ในการศึกษาพระราชบัญญัติป้ายนี้ ก่อนอื่นจะต้องทาความเข้าใจว่า ป้ายนั้นเมื่อเราวิเคราะห์
ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๕๑๐ จะแบ่งป้ายออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ
ประเภทที่หนึ่ง ป้ายที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งมีลักษณะทั่วๆไป เช่น ป้ายบอกชื่อหน่วยงาน
ราชการ ป้ายประชาสัมพันธ์ผลงานของหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ป้ายบอกชื่อถนน
ซึ่งไม่ก่อให้เกิดหรือการหารายได้จากป้ายนั้น
ประเภทที่สอง ป้ายที่ต้องเสียภาษี ซึ่งมีลักษณะโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยมีจุดประสงค์
หรือเป้าหมายเพื่อให้เกิดรายได้หรือหารายได้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
-๓-
ป้ายที่จะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ นี้ ต้องเข้าลักษณะตามความ
ในมาตรา ๖ ดังนี้
๑. จะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อเพื่อหารายได้
๒. จะต้องเป็นป้ายแสดงยี่ห้อเพื่อหารายได้
๓. จะต้องเป็นป้ายแสดงเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้
๔. จะต้องเป็นเครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้
๕. จะต้องเป็นการโฆษณาการค้าเพื่อหารายได้
๖. จะต้องเป็นการโฆษณากิจการอื่นเพื่อหารายได้ การบริการ
ไม่ว่าป้ายนั้นจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน
แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น
ลักษณะของป้ายในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมากมีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เป็น
ส่วนประกอบของป้ายที่สาคัญ นอกจากนั้นยังมีการจัดทาป้ายอีเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
การประกอบการค้าของตน หรือเพื่อรับจ้างในการโฆษณากิจการค้าของผู้ประกอบการค้าอื่นๆและมีจานวนหลาย
ราย ซึ่งมีลักษณะเป็นระบบไฟฟ้าเป็นอักษรวิ่งตลอดเวลา ซึ่งพระราชบัญญัติป้ายนี้ได้บัญญัติขึ้นใช้มาหลายปีไม่มี
การแก้ไขปรับปรุงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน และยังมีปัญหาประการหนึ่งคือ ไม่ได้ให้
คาจากัดความ บทวิเคราะห์ศัพท์ หรือคาอธิบายของคาว่า ป้ายแสดงชื่อ คือ อะไร ยี่ห้อ คือ อะไร และเครื่องหมาย
ที่ใช้ในการประกอบการค้า คืออะไร จึงทาให้ยากต่อการตีความ และขณะเดียวกันผู้ประกอบการค้าก็พยายามหา
ช่องว่างของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหรือทาให้เสียภาษีน้อยลง ในที่นี้จะขออธิบายได้ดังนี้
หลักเกณฑ์ที่เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาว่าลักษณะสิ่งใดคือป้ายพระราชบัญญัติป้าย
พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ สรุปได้ดังนี้
องค์ประกอบประการที่หนึ่ง ลักษณะป้ายจะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดง
เครื่องหมาย
องค์ประกอบประการที่สอง ป้ายที่แสดงนั้นเป็นการประกอบกิจการค้า เพื่อหารายได้ หรือ
ประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้
องค์ประกอบประการที่สาม ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดงเครื่องหมายนั้น ไม่ว่า
จะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วย
วิธีอื่น
องค์ประกอบประการที่หนึ่ง ลักษณะป้ายจะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้าย
แสดงเครื่องหมาย
ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ นั้นหมายถึงป้ายที่บอกชื่อกิจการที่ใช้ประกอบการค้าหรือ
ประกอบกิจการนั้นเอง
ตัวอย่างป้ายชื่อ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔-
ตัวอย่างป้ายแสดงยี่ห้อ
ป้ายแสดงเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้า คืออะไร เป็นอย่างไร
เนื่องจากพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ไม่ได้กาหนดบทวิเคราะห์ศัพท์คาว่า
เครื่องหมายไว้จึงต้องวิเคราะห์ตามความหมายธรรมดาปกติและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้อธิบายคาว่าเครื่องหมาย คือสิ่งที่ทาขึ้น แสดงความหมายเพื่อจดจา
หรือกาหนดรู้ กรณีป้ายนี้เป็นการแสดงสินค้าให้คนจดจาว่าเป็นสินค้าประเภทใด และมีคาพิพากษาฎีกาที่
๑๒๕/๒๕๑๗ ได้อธิบายความหมายของคาว่าเครื่องหมายในทานองเดียวกันกับพจนานุกรมฉบับ
ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ดังกล่าว
ดังนั้นตามคาพิพากษาดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงขึ้นเพื่อให้เกิดการจดจาหรือกาหนดรู้ไม่ว่า
สิ่งนั้นจะทาขึ้นเป็นรูปภาพใดๆก็ตาม เช่นรูปภาพสัตว์ รูปภาพสิ่งของ รวมถึงรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง จะอยู่
ในความหมายของคาว่าเครื่องหมายทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ลืมองค์ประกอบของป้ายอีกประการหนึ่งซึ่งเป็น
องค์ประกอบที่สาคัญคือ เพื่อหารายได้
ตัวอย่าง เครื่องหมาย
การวินิจฉัยว่าสิ่งใดคือป้ายที่จะต้องเสียภาษีป้ายจะต้องเป็นป้ายที่เข้าลักษณะดังกล่าวข้างต้น
ไม่ใช่เป็นการยึดวัสดุที่เป็นส่วนประกอบเป็นป้ายหรือติดตั้งป้าย เช่น กรณีมีป้ายติดกับฝาผนัง ป้ายก็คือข้อความที่
ติดฝาผนังนั้นไม่ใช่ฝาผนัง
องค์ประกอบประการที่สอง ป้ายที่แสดงนั้นเป็นการประกอบกิจการค้า เพื่อหารายได้
หรือประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้
จากมาตรา ๖ ดังกล่าว มีหลักที่สาคัญในการที่จะพิจารณาว่าจะเป็นป้ายที่จะต้องเสียภาษี
ป้ายตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ หรือไม่ คือจะต้องพิจารณาดูว่าป้ายที่จัดทาขึ้นเพื่อการหารายได้เป็น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
-๕-
หลักการสาคัญ หากมีไม่การหารายได้แล้ว ก็จะไม่เป็นป้ายตามพระราชบัญญัตินี้ เช่นป้ายมีข้อความว่าห้องน้า
สะอาด ไม่มีการเก็บค่าบริการการเข้าใช้ห้องน้าไม่ถือว่าเป็นป้าย
ตัวอย่างป้ายประกอบกิจการค้าเพื่อหารายได้
นอกจากนี้ป้ายตามมาตรา ๖ ได้กาหนดไว้ว่า
เครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ หรือ
โฆษณากิจการอื่นเพื่อหารายได้
ซึ่งจากบทบัญญัติดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีแต่กิจการค้าอย่างเดียวที่เข้าลักษณะป้าย
หากแต่ยังมีการประกอบกิจการอื่น หรือโฆษณากิจการอื่น ผู้ศึกษาต้องทาความเข้าใจต่อไปว่าเครื่องหมายที่ใช้
ประกอบกิจการอื่นหรือโฆษณากิจการอื่น คืออะไร
ดังนั้นเมื่อกฎหมายได้กาหนดว่าการหารายได้นั้นไม่ใช่การประกอบการค้าอย่างเดียว หากแต่
ยังมีสิ่งอื่นๆอีก ในที่นี้ขอให้ความเห็นว่าการให้บริการที่มีการจัดเก็บค่าบริการ หรือการประกอบอาชีพอิสระ หาก
มีเครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการหรือโฆษณากิจการก็เข้าองค์ประกอบของป้ายที่ต้องเสียภาษีป้ายตาม
พระราชบัญญัตินี้ กิจการที่ให้บริการ หรือการประกอบอาชีพอิสระ เช่น สานักงานทนายความ ร้านเสริมสวย
หอพักให้เช่ารายวันหรือรายเดือน เป็นต้น
ตัวอย่าง ป้ายประกอบกิจการอื่น (กรณีนี้เป็นการบริการ)
องค์ประกอบประการที่สาม ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดงเครื่องหมายนั้น ไม่
ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้
ปรากฏด้วยวิธีอื่น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๖-
องค์ประกอบนี้ในทางกฎหมายได้เปิดกว้างไว้ว่า ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ
เป็นการเน้นย้าความหมายของคาว่า “ป้าย” หมายถึง ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมาย ซึ่งไม่ใช่วัสดุที่นามาใช้
ในการจัดทาป้ายดังที่อธิบายมาดังกล่าวแล้วข้างต้น
ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ก็ต้องเสียภาษี (ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ)
จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่รับผิดชอบในเรื่องการพัฒนารายได้ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับ
กฎหมายภาษีที่ท้องถิ่นที่จัดเก็บเอง พบว่าปัญหาการจัดเก็บภาษีป้าย ในกรณีป้ายที่จัดทาบนวัสดุผ้าหรือผ้า
พลาสติก ผ้าใบ หรือที่เรียกว่าป้ายไวท์นิว ที่ติดตั้งไว้หน้าสถานประกอบการค้า เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ยังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจว่า ป้ายที่จัดเก็บภาษีได้นั้นต้องเป็นป้ายถาวรหรือมี
ลักษณะมั่นคงแข็งแรง ป้ายในลักษณะนี้เข้าใจว่าเป็นป้ายชั่วคราว ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ โดยเข้าใจผิดใน
ข้อยกเว้นป้ายที่ไม่ต้องเสียภาษี ตามมาตรา ๘ เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับป้ายดังต่อไปนี้
ฯลฯ
(๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
สาหรับประชาชน ก็จะแจ้งว่าติดตั้งไว้กันแสงแดดสาดส่องเข้าสถานประกอบการ
หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่เป็นคาอธิบายและสนับสนุนว่าไม่มีป้าย
ชั่วคราวคือมาตรา ๗ ที่ระบุว่า ให้เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้ายโดยเสียเป็นรายปี ยกเว้นป้ายที่เริ่มติดตั้ง
หรือแสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิดภาษีป้ายเป็นรายงวด
งวดละสามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปีการจัดเก็บภาษีป้าย
ในเมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าป้ายที่จัดเก็บภาษีป้ายได้จะต้องเป็นป้ายถาวรหรือเป็นการ
ชั่วคราว ดังนั้นแม้ว่าป้ายที่เป็นการแสดงไว้เป็นการชั่วคราว หากมีวัตถุประสงค์เข้าองค์ประกอบของป้าย
ดังกล่าวข้างต้นแล้วจะต้องเป็นป้ายที่ต้องเสียภาษีป้าย และจะต้องเสียภาษีตั้งแต่ติดตั้งจนถึงสิ้นปี หรือเก็บทั้งปี
ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ไม่ใช่ป้ายตาม มาตรา ๘ (๓) จะต้องเสียภาษี
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
-๗-
คาพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวกับป้ายตามมาตรา ๖
คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๕/๒๕๑๗
ตามบทวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ป้ายอาจแสดง
ตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดก็ถือว่าเป็นป้าย ดังนั้น ป้ายมีอักษรไทยล้วนตามบัญชีอัตรา
ภาษี ประเภท (๑) ย่อมหมายถึงป้ายที่ไม่มีสิ่งอื่นใดเลยนอกจากตัวอักษรไทย
คาว่าเครื่องหมาย นั้น ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ หมายความว่า
สิ่งที่ทาขึ้นแสดงความหมาย ป้ายโฆษณาภาพยนตร์ที่มีอักษรไทย ภาพดาราภาพยนตร์ ภาพสัตว์ และภาพวัตถุ
อื่นๆ จึงเป็นป้ายที่มีอักษรไทยปนกับเครื่องหมายตามบัญชีอัตราภาษีป้ายประเภท (๒)
คาพิพากษาฎีกาที่ ๙๙๕/๒๕๓๑
ตามบทบัญญัติมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มิได้ระบุว่า ป้ายจะต้อง
แสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์เฉพาะ ดังนั้นป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่มีลักษณะทั่วไป
ก็เป็นป้ายตามความหมายแห่งมาตราดังกล่าว ป้ายของโจทก์ที่มีข้อความว่า “สานักงานแพทย์ สิว ฝ้า โรคผิวหนัง
และโรคทั่วไป” เป็นป้ายแสดงชื่อซึ่งมีลักษณะทั่วไป จึงเป็นป้ายซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
เมื่อนายกเทศมนตรีได้แจ้งเตือนให้โจทก์ไปชาระภาษีป้ายย้อนหลัง ๕ ปี โจทก์มอบอานาจให้
อ. เป็นผู้นาเงินไปชาระภาษีป้าย อ. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายประจาปี เอกสารทุกฉบับระบุว่า อ. เป็นผู้มา
ยื่นแทนโจทก์ผู้เป็นเจ้าของป้าย การกระทาของ อ. ดังกล่าวจึงเป็นการกระทาแทนโจทก์ หรือในนามของโจทก์
ด้านหลังเอกสารดังกล่าวทุกฉบับมีรายการประเมินภาษีป้ายลงนามโดย ร. ผู้รักษาการแทนสมุห์บัญชี ซึ่ง
นายกเทศมนตรีมีคาสั่งให้สมุห์บุญชีหรือผู้รักษาการแทนเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินภาษีป้าย ร. จึงเป็นพนักงาน
เจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจประเมินภาษีป้ายและถือว่ามีการประเมินภาษีป้ายโดยชอบแล้ว
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๖๘/๒๕๔๖
แม้ป้ายข้อความยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO และเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้า
ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสถานี บริการน้ามันของโจทก์จะอยู่ในกรอบพลาสติกนูนแยกขอบเขตของแต่ละป้ายได้
แต่ก็อยู่ในโครงเหล็กแผ่นเดียวกันถือว่าเป็นป้ายแผ่นเดียวกัน โจทก์ทาขึ้นเพื่อเชิญชวนลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกบัตร
SYNERGY เข้าใช้บริการของโจทก์ จึงเป็นการใช้ป้ายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาและหารายได้ ถือว่าเป็นป้าย
ตามคานิยามศัพท์ มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ต้องเสียภาษีป้าย
ป้ายแสดงราคาน้ามันนั้นต้องเสียภาษีหรือไม่
ในเรื่องนี้ได้มีคาพิพากษาเป็นแนวทางไว้ว่าไม่ต้องเสียภาษีป้าย เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขตาม
มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ สรุปได้ดังนี้
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๑๘/๒๕๕๔
ระหว่าง บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย)จากัด (มหาชน) โจทก์ กับเทศบาลนครปากเกร็ด กับพวก
จาเลย
ป้ายใหญ่ซึ่งติดตั้งด้านหน้าสถานีบริการน้ามันในส่วนที่แสดงราคาน้ามันเป็นป้ายที่แสดง
ประเภท ชนิด และราคาจาหน่ายปลีกน้ามันซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๘-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๕๕) เรื่อง กาหนดลักษณะและเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ
รายย่อย การออกใบกากับภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียน ตามมาตรา ๘๖/๘ แห่งประมวลรัษฎากร และการ
เก็บรักษารายงานตามมาตรา ๘๗/๓ แห่งประมวลรัษฎากรข้อ ๗ กับประกาศคณะกรรมการกลางกาหนดราคาสินค้า
และป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ ๒๐๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ เรื่อง ให้ผู้จาหน่ายปลีกแสดงราคาจาหน่ายปลีกสินค้าควบคุม
ลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๓๕ และฉบับที่ ๒๔๙ พ.ศ. ๒๕๔๑ ลงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๑ จึงไม่ใช่ป้ายแสดงชื่อ
ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือ
กิจการอื่นเพื่อหารายได้ของโจทก์ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐ มาตรา ๖ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี
ป้ายในส่วนนี้ แม้ในส่วนที่แสดงราคาน้ามันจะอยู่ใต้ส่วนที่มีข้อความ “ESSO” และอยู่ในโครงสร้างเดียวกันก็ตาม
แต่เมื่อป้ายในส่วนนี้ไม่ใช่ป้ายตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๓๓๒/๒๕๔๗
โจทก์ซึ่งทาธุรกิจสถานีบริการน้ามันมีหน้าที่ต้องจัดทาแผ่นป้ายที่มีข้อความ"เก็บภาษี
มูลค่าเพิ่ม จากมิเตอร์หัวจ่าย" และป้ายแสดงประเภท ชนิด และราคาจาหน่ายปลีกน้ามันซึ่งเป็นสินค้าควบคุมตาม
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งออกตาม ป.รัษฎากร และประกาศคณะกรรมการกลางกาหนดราคาสินค้าและ
ป้องกันการผูกขาด (ซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการกาหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดประกอบด้วย
กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ) ป้ายดังกล่าวข้างต้นจึงไม่ใช่ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการ
ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้า หรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของโจทก์
ตามบทบัญญัติในมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้าย
“ราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด
กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นราชการ
ส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้
ราชการส่วนท้องถิ่น ในปัจจุบันได้มีการยกเลิก มีการจัดตั้งขึ้นมาใหม่ และบางองค์กรไม่มี
หน้าที่ในการจัดเก็บภาษีป้ายแล้ว ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไปเช่น มีการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตาบล มี
การยกฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาลเป็นผลให้สุขาภิบาลสิ้นสภาพไปโดยผลของกฎหมาย องค์การบริหารส่วน
จังหวัดไม่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีป้าย เป็นต้น
“เขตราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า
(๑) เขตเทศบาล
(๒) เขตสุขาภิบาล
(๓) เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(๔) เขตกรุงเทพมหานคร
(๕) เขตเมืองพัทยา
(๖) เขตองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น
“ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า
(๑) นายกเทศมนตรี สาหรับในเขตเทศบาล
(๒) ประธานกรรมการสุขาภิบาล สาหรับในเขตสุขาภิบาล
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๙-
(๓) ผู้ว่าราชการจังหวัด สาหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(๔) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สาหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
(๕) ปลัดเมืองพัทยา สาหรับในเขตเมืองพัทยา
(๖) หัวหน้าผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็น
ราชการส่วนท้องถิ่น สาหรับในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
เขตราชการส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น ก็จะต้องมีการปรับปรุงทานองเดียวกันกับ
ราชการส่วนท้องถิ่น ดังกล่าวข้างต้น
“ปี” หมายความว่า ปีปฏิทิน
ปีปฏิทิน คือตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา แต่ในทาง
ปฏิบัติ การจัดเก็บภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งไปยึดติดกับปีงบประมาณ ซึ่งนับเริ่มจากวันที่ ๑
ตุลาคม ถึงวันที่ ๓๐ กันยายนของปีถัดไป จึงเกิดปัญหาในการออกใบเสร็จรับเงินภาษีป้าย ในการออก
ใบเสร็จรับเงินนี้ต้องออกตามปีปฏิทิน แต่เรื่องเงินภาษีที่จัดเก็บมาได้นั้นจะเป็นรายได้ของปีงบประมาณนั้น
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๗4
ให้เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้ายโดยเสียเป็นรายปี ยกเว้นป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือ
แสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิดภาษีป้ายเป็นรายงวด งวดละ
สามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปี ทั้งนี้ ตามอัตราที่กาหนดใน
กฎกระทรวงซึ่งต้องไม่เกินอัตราที่กาหนดในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้
การคานวณพื้นที่ภาษีป้าย ให้คานวณตามบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ (๗) ท้าย
พระราชบัญญัตินี้
ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตารางเมตรต้องมีชื่อและที่
อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษี
ป้ายตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวง
อธิบาย
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย
เมื่อทราบแล้วว่าป้ายลักษณะใดต้องเสียภาษีป้าย ข้อที่ต้องพิจารณาต่อไปคือใครมีหน้าที่
เสียภาษีป้าย มีการคิดภาษีอย่างไร หรือเสียอย่างไร
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ชัดเจนว่า เจ้าของป้าย
มีหน้าที่เสียภาษีป้าย
เจ้าของป้ายตามหลักทั่วไปคาว่า “เจ้าของ”ก็คือผู้มีกรรมสิทธิ์หรือผู้ที่มีการจัดทาป้ายนั้น
ขึ้นมา
4
มาตรา ๗๙๗ อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าตัวแทน มีอานาจทาการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะ
ทาการนั้น
อันความเป็นตัวแทนนั้นจะเป็นโดยแต่งตั้งแสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ย่อมได้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๐-
หลักที่กาหนดว่าเจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย แต่มีข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้
พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่ไม่ได้มีการจัดเก็บภาษีป้ายจากเจ้าของป้ายดังนี้
มาตรา ๑๒ ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบ
และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด ภายในเดือนมีนาคมของปี
ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย
อธิบาย
ในกรณีมาตรา ๑๒ วรรค ๒ นี้ เป็นเรื่องตัวแทนและผู้แทนที่อยู่ในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้ายซึ่งอยู่นอกประเทศ
ข้อที่ต้องพิจารณาต่อไปว่า ตัวแทน ในที่นี้จะเป็นตัวแทนลักษณะใด เป็นตัวการ ตัวแทน
ตัวแทนนายหน้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในเรื่องการทานิติกรรมสัญญา ที่มีการแต่งตั้งตัวแทน
หรือมอบอานาจกันไว้หรือไม่เพียงใด
หรือจะเป็นตัวแทน หรือผู้แทนที่ใช้เรียกขานกันในการประกอบกิจการค้า ว่าเป็นผู้แทน
หรือตัวแทนจาหน่ายสินค้า ซึ่งมีข้อตกลงกันไว้ในการประกอบการค้า
นอกจากนี้คาว่าผู้แทนนั้นในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้มีการกาหนดไว้ใน
เรื่องเกี่ยวกับผู้เยาว์ ซึ่งผู้เยาว์จะมีผู้แทนโดยชอบธรรม ได้แก่บิดา มารดาของผู้เยาว์นั้นเอง
อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ให้ตัวแทนหรือผู้แทนใน
ประเทศไทยมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย ดังนั้นการจัดเก็บภาษีก็สามารถจัดเก็บ
จากตัวแทนหรือผู้แทนได้
ในทางปฏิบัติกระบวนการจัดเก็บภาษีป้ายไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงการยื่นแบบแต่จะต้องมีการ
ประเมินและแจ้งการประเมิน การจัดเก็บภาษีและออกใบเสร็จรับเงิน ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
จะดาเนินการอย่างไร แจ้งการประเมินไปให้ใคร ออกใบเสร็จให้กับใคร
ในกรณีดังกล่าวผู้เขียนมีความเห็นว่า การแจ้งการประเมินก็ต้องแจ้งเจ้าของทรัพย์สิน และ
การออกใบเสร็จรับเงินก็ต้องออกในนามของเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการดาเนินการตามมาตรา ๗ แห่ง
พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ชัดเจนว่า เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย
มาตรา ๑๓ ถ้าเจ้าของป้ายตาย เป็นผู้ไม่อยู่ เป็นคนสาบสูญ เป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็น
คนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ผู้จัดการมรดก ผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือผู้อื่น ผู้จัดการ
ทรัพย์สิน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา ๑๒ แทนเจ้าของป้าย
อธิบาย
กรณีตามมาตรา ๑๓ เป็นเรื่องของสภาพบุคคล หรือความสามารถของบุคคล ตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้กาหนดถึงกรณีการเสียชีวิต การเป็นคนสาบสูญ การเป็นคนไร้
ความสามารถหรือการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งมีการกาหนดผู้กระทาการแทนไว้ ดังนี้ผู้กระทาการ
แทนก็จะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย เช่น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๑-
๑. กรณีเจ้าของมรดกเสียชีวิต (ในที่นี้หมายถึงเจ้าของป้าย) ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการเสียภาษี แต่ในกรณีไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี
คือทายาทโดยธรรมของเจ้าของมรดกที่มีสิทธิ์รับมรดกตามกฎหมาย
๒. กรณีเจ้าของป้ายเป็นผู้ไม่อยู่ ผู้ครอบครองป้ายหรือครอบครองทรัพย์สินมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการเสียภาษี
๓. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนสาบสูญ ผู้จัดการทรัพย์สินมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ
เสียภาษี
๔. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสีย
ภาษี
๕. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์มีหน้าที่ยื่นแบบแสดง
รายการเสียภาษี
การแจ้งการประเมิน และการออกใบเสร็จรับเงิน ก็ดาเนินการทานองเดียวกันกับมาตรา
๑๒ วรรค ๒ ดังกล่าวข้างต้น
ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า การที่กฎหมายได้กาหนดให้มีผู้มายื่นแบบแทนเจ้าของป้ายใน
กรณีต่างๆ ก็เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย กล่าวคือมีการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้ายตามระยะเวลา
ที่กาหนด (ภายในเดือนมีนาคม) ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งผู้จัดเก็บภาษี (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)ได้รับเงิน
ภาษี เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหรือเสียค่าปรับกรณีกรณียืนแบบเกินกาหนดเวลา
นอกจากนี้ผู้เขียนมีความเห็นว่าในทางปฏิบัติในบางครั้งเรายึดหลักนิติศาสตร์อย่างเดียวก็
ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จาเป็นต้องใช้หลักรัฐศาสตร์เข้ามาร่วมด้วย
มาตรา ๑๘5
ในกรณีที่ปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการสาหรับ
ภาษีป้ายใด เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสีย
ภาษีป้าย ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้ง
หรือแสดงอยู่ เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลาดับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษีป้ายเป็น
หนังสือไปยังบุคคลดังกล่าว
อธิบาย
ผู้ที่มีหน้าที่ในการเสียภาษี ตามมาตรา ๑๘ ซึ่งไม่ใช่กรณีเป็นเจ้าของป้าย เนื่องจากไม่มีผู้
ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย หรือหาเจ้าของป้ายไม่ได้ ให้จัดเก็บจากบุคคลดังนี้
๑. ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย
๒. ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่
๓. ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่
5
มาตรา ๑๓๖๗ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง
มาตรา ๑๓๖๘ บุคคลอาจได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยผู้อื่นยึดถือไว้ให้
มาตรา ๑๓๖๙ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๒-
ปัญหาในการจัดเก็บภาษีป้ายจากผู้ครอบครองนี้ หากมีการพิจารณาคาว่าผู้ครอบครอง
นั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การครอบครองนั้นจะต้องเป็นการครอบครองเพื่อตน คือ
ครอบครองเพื่อเป็นเจ้าของ
แต่กรณีป้ายนี้ไม่ได้ยึดถือหรือครอบครองเพื่อตน เป็นลักษณะการให้เช่าติดตั้งป้าย จึงไม่
ใช้ผู้ครอบครองป้าย
คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๕๑/๒๕๔๙
ระหว่าง กรุงเทพมหานคร โจทก์
บริษัทแปซิฟิค แบรนด์ส จากัด จาเลย
ป้ายพิพาทเป็นป้ายที่จาเลยได้รับสิทธิติดตั้งโฆษณาในศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางตาม
สัญญา เพื่อประโยชน์ในทางการค้าของจาเลย จึงเป็นทรัพย์สินของจาเลยโดยตรง ซึ่งจาเลยยื่นแบบแสดงรายการ
ภาษีป้ายพิพาทต่อโจทก์ตลอดมา แม้มีข้อตกลงตามสัญญาข้อ ๓ ว่า ให้ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางตลอดจน
ส่วนควบตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ทันทีที่ก่อสร้างเสร็จ แต่ป้ายพิพาทที่จาเลยติดตั้งไว้นั้นไม่มีสภาพเป็นส่วนควบ
และแม้จะมีข้อสัญญาระบุว่า ถ้าโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วให้บรรดาวัสดุก่อสร้างและสิ่งก่อสร้างที่ดาเนินการแล้ว
ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทันทีนั้น สิ่งก่อสร้างคือ ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางส่วนวัสดุก่อสร้างคือ วัสดุที่
ใช้ก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทาง แต่ป้ายโฆษณาเป็นสิ่งที่จาเลยนามาติดตั้งเพื่อโฆษณา หาใช่วัสดุ
ก่อสร้างไม่ จาเลยจึงยังคงเป็นเจ้าของป้ายดังกล่าว หาได้ตกเป็นของโจทก์ไม่ เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว จาเลย
ในฐานะเจ้าของป้ายพิพาทย่อมมีหน้าที่ต้องรื้อถอนป้ายพิพาทออกไป แต่จาเลยละเว้นเสียยังคงติดตั้งป้ายโฆษณา
ของตนจนล่วงเข้าปี ๒๕๔๔ จาเลยจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายประจาปี ๒๕๔๔ ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ มาตรา ๗
เมื่อโจทก์แจ้งการประเมินภาษีป้ายให้จาเลยทราบแล้ว จาเลยไม่อุทธรณ์การประเมินต่อผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานครตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง การประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่
จึงเป็นอันยุติ จาเลยจึงต้องเสียภาษีป้ายตามที่โจทก์ประเมินพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๕ (๓)
กรณีมีการทาโครงป้ายที่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ลักษณะอักษรวิ่ง) แล้วรับจ้างโฆษณา
ป้ายจากผู้ประกอบกิจการค้าต่างๆ ในกรณีนี้จะแตกต่างกับกรณีแรก เพราะเป็นการครองครองป้าย จึงถึงได้
ว่าบุคคลดังกล่าวนี้เป็นผู้ครอบครองป้าย
แต่ทั้งนี้ผู้เขียนเห็นว่าเจตนารมณ์ของการตราพระราชบัญญัติมาตรานี้ขึ้นก็เพื่อให้สามารถ
จัดเก็บภาษีป้ายได้ ดังจะเห็นได้ว่าได้มีการระบุคาว่า “ให้ถือว่า” ซึ่งเป็นคาในลักษณะเหมารวมความ
รับผิดชอบดังกล่าว
ตามมาตรา ๗ การเสียภาษีป้ายหรือการจัดเก็บภาษีป้ายจะมีการจัดเก็บทั้งปี แต่มีข้อยกเว้น
ในกรณี ป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือแสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิด
ภาษีป้ายเป็นรายงวด งวดละสามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปี
การคิดภาษีป้ายปกติคิดทั้งปี แต่ป้ายที่ติดตั้งระหว่างปีให้คิดภาษีเป็นรายงวด งวดละสาม
เดือนดังนั้นปีหนึ่งๆก็จะมีการแบ่งออกเป็นสี่งวดดังนี้
งวดที่หนึ่งป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ %
งวดที่สองป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ %
งวดที่สามป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ %
งวดที่สีป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ %
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๓-
ตัวอย่าง
คิดคานวณภาษีได้จานวนเงิน ๑,๐๐๐ บาท
๑. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่หนึ่งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ % เสีย
ภาษี ๑,๐๐๐ บาท
๒. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สองระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ % เสีย
ภาษี ๗๕๐ บาท
๓. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สามระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ % เสีย
ภาษี ๕๐๐ บาท
๔. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สี่ระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ % เสียภาษี ๒๕๐
บาท
ตามมาตรา ๗ วรรคสอง
การคานวณพื้นที่ภาษีป้าย ให้คานวณตามบัญชีอัตราภาษีป้าย(๖) และ (๗) ท้าย
พระราชบัญญัตินี้
บัญชีอัตราภาษีป้าย
(๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๑๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
ฯลฯ
(๖) พื้นที่ของป้ายไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือลักษณะอย่างไร ให้คานวณดังนี้
(ก) ถ้าเป็นป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ให้เอาส่วนกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขต
ป้ายเป็นตารางเซนติเมตร
(ข) ถ้าเป็นป้ายที่ไม่มีขอบเขตกาหนดได้ ให้ถือว่าตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุด
เป็นขอบเขตสาหรับกาหนดส่วนกว้างที่สุดและยาวที่สุด แล้วคานวณตาม (ก)
(๗) ป้ายตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) เมื่อคานวณพื้นที่ของป้ายแล้ว
(ก) ถ้ามีเศษเกินกึ่งหนึ่งของห้าร้อยตารางเซนติเมตร ให้นับเป็นห้าร้อยตารางเซนติเมตร ถ้า
ไม่เกินกึ่งหนึ่ง ให้ปัดทิ้ง
(ข) ถ้ามีอัตราที่ต้องเสียภาษีต่ากว่าป้ายละ ๒๐๐ บาท ให้เสียภาษีป้ายละ ๒๐๐ บาท
ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย การคานวณพื้นที่ป้าย
การคานวณพื้นที่ป้ายนั้นหากพิจารณาตามข้อบัญญัติท้ายบัญชีนี้จะเห็นว่ามีการวัดขนาด
ของป้ายก่อน ซึ่งการวัดป้ายไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะใด จะมีการวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมทั้งหมด แล้วคานวณหา
พื้นที่มี ๒ กรณีดังนี้
(ก) กรณีป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ คือป้ายที่มีการติดตั้งบนโครงสร้าง หรือมีการจัดทา
ป้ายขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ให้วัดเอาส่วนที่กว้างที่สุดและส่วนที่ยาวที่สุดของโครงสร้างหรือป้ายที่ทาขึ้นมานั้น
ว่ามีขนาดความกว้างจานวนกี่เซนติเมตร และมีขนาดความยาวจานวนกี่เซนติเมตรแล้วคิดคานวณพื้นที่ โดย
เอาความกว้างคูณด้วยความยาวของป้าย ในการวัดป้ายไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะอย่างใด เช่น วงกลม วงรี
ทรงกระบอก สามเหลี่ยม ฯลฯ จะวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างคูณยาวทั้งหมด
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๔-
ตัวอย่าง การวัดป้ายมีขอบเขตกาหนดได้
(ข) ป้ายที่ไม่มีขอบเขต ให้เอาส่วนที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดมาคูณกันเพื่อคิดจานวนพื้นที่
ไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะใดๆก็ตาม
ตัวอย่าง การวัดป้ายไม่มีขอบเขต วัดส่วนกว้างที่สุดคูณส่วนที่ยาวที่สุด
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๕-
คาพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๑๗/๒๕๑๙
บัญชีอัตราภาษีป้าย พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ กาหนดวิธีคานวณเนื้อที่ป้ายไว้
สองแบบ คือ แบบ ก. เป็นป้ายมีขอบเขตกาหนดได้ ให้เอาส่วนกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขตป้าย
และแบบ ข. เป็นป้ายไม่มีขอบเขตกาหนดได้ ให้ถือเอาตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขต
สาหรับกาหนดส่วนกลางที่สุดและยาวที่สุดแล้วคานวณตาม ก. พระราชบัญญัติภาษีป้ายเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ
ภาษีอากร เมื่อกฎหมายไม่แจ้งชัดก็จะต้องตีความโดยเคร่งครัดในทางที่ไม่เป็นโทษแก่ผู้เสียภาษีอากร ซึ่งพอ
อนุมานได้ว่าเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะต้องประเมินภาษีป้ายโดยเลือกคานวณเนื้อที่ป้ายเฉพาะ
แบบใดแบบหนึ่ง มิใช่รวมคานวณทั้งแบบ ก. และ ข. เข้าด้วยกัน
ปัญหาที่ปรากฏขึ้นในกรณีป้ายไม่มีขอบเขตกาหนดได้ คือกรณีมีตัวเลข ไม่ว่าเลขไทย
หรือเลขตัวเลขเป็นเครื่องหมายหรือตัวเลขเป็นเครื่องหมายหรืออักษรหรือไม่ ในกรณีนี้จะเกิดปัญหาในการ
วัดป้ายกรณีไม่มีขอบเขตกาหนดได้จะวัดรวมตัวเลขหรือไม่เพราะในข้อความป้ายจะมีหมายเลขโทรศัพท์อยู่ใต้
ข้อความอักษร แต่กรณีป้ายมีกรอบไม่มีปัญหาเพราะวัดตามขอบเขตของป้าย หากคิดว่าตัวเลข เป็น
เครื่องหมายหรืออักษร และเลขอารบิคหากถือเป็นภาษาต่างประเทศหรือไม่จะส่งผลต่อประเภทภาษีและการ
คิดภาษีที่อาจจะเพิ่มขึ้น
ในเรื่องตัวเลขนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบคณะ) เสียงข้าง
มากเห็นว่าเลขอารบิคไม่เป็นอักษรไทย และไม่ได้เป็นเครื่องหมาย การคิดประเภทภาษีกรณีมีปนตัวเลข คิด
ภาษีตาม (๑) ของบัญชีอัตราภาษีป้าย (ตามหนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ สร.๐๒๐๓/๕๔๗๔ ลง
วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๖ เรื่องหารือตัวเลขอารบิค ถือเป็นอักษรไทยหรือไม่)
ผู้เขียนเห็นว่าตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบ
คณะ) เสียงข้างมากดังกล่าวข้างต้น หากมีแต่ตัวเลขอารบิคอย่างเดียวก็ไม่ถือว่าเป็นป้ายตามมาตรา ๖ แห่ง
พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ และกรณีป้ายที่ไม่มีขอบเขตกาหนดและมีเลขอารบิคอยู่ด้านใต้การวัดป้าย
ก็ไม่ควรวัดพื้นที่ตัวเลขอารบิครวมเข้าไปด้วย
หลักการคานวณพื้นที่ป้ายตามบัญชีอัตราภาษีป้าย
ตามที่กล่าวมาแล้วว่าการคานวณพื้นที่ป้ายให้คิดคานวณเป็นเซนติเมตร เอาส่วนกว้าง
ที่สุดคูณด้วยด้านยาวที่สุด ได้จานวนที่พื้นที่ป้ายเป็นตารางเซนติเมตร ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย ได้กาหนดให้
คิดภาษีป้าย ห้าร้อยตารางเซนติเมตร ต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายในการจดจาของ
ผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บภาษีให้คิดว่าห้าร้อยตารางเซนติเมตรเป็นหนึ่งหน่วย เพราะเนื่องจากการคิดคานวณการ
จัดเก็บภาษีป้ายจะมีการปัดเศษของห้าร้อยตารางเซนติเมตรปัดขึ้นและปัดลง กล่าวคือ
กรณีเมื่อคิดคานวณพื้นที่ป้ายได้จานวนเท่าไรแล้วต้องหารด้วยห้าร้อยตารางเซนติเมตร
ผลลับที่ได้เป็นจานวนหน่วย หากมีเศษเกินครึ่งหนึ่งให้คิดเป็นหนึ่งหน่วย เช่น เศษเหลือ ๒๕๑ ตาราง
เซนติเมตรขึ้นไปถือว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วย
แต่กรณีมีเศษ ๒๕๐ ตารางเซนติเมตร ให้ปัดทิ้ง
ตัวอย่างที่ ๑
วัดและคานวณพื้นที่ป้ายได้ ๕,๒๕๑ ตารางเซนติเมตร พรบ.ป้ายกาหนดให้คิด ๕๐๐
ตารางเซนติเมตรต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท
วิธีการคิด
= ๑๐
๒๕๑
๕๐๐
หน่วย เหลือเศษ ๒๕๑ ต.ร.ซม. เกินกึ่ง
หนึ่ง คิดเพิ่มอีก ๑ หน่วย รวมเป็น ๑๑
หน่วย
๕๒๕๑
๕๐๐
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๖-
ตัวอย่างที่ ๒
วัดและคานวณพื้นที่ป้ายได้ ๕,๒๕๐ ตารางเซนติเมตร พรบ.ป้ายกาหนดให้คิด ๕๐๐
ตารางเซนติเมตรต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท
วิธีการคิด
๕๒๕๐
๕๐๐
การคานวณพื้นที่ป้าย ขณะนี้มีผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางท่านมีความ
เข้าใจว่าการคิดพื้นที่ป้ายกรณีป้ายที่มีหลายด้าน เช่นมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เป็นต้น และมี
ข้อความในแต่ละด้านเป็นข้อความเดียวกัน หรือมีข้อความต่างกันแต่ข้อความนั้นไม่เกี่ยวเนื่องกัน และมีการคิดว่า
ป้ายนั้นเป็นป้ายเดียว ในการวัดป้ายได้มีการวัดรอบป้ายนั้นแล้วคานวณมาเป็นพื้นที่ป้าย
ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ มีหลักในการพิจารณาดังนี้
๑. ต้องทาเข้าใจว่าความหมายของป้าย ตามมาตรา ๖ หมายถึงอะไร ซึ่งป้ายนั้นไม่ได้
หมายถึงวัตถุที่ใช้ในการติดตั้งป้าย แต่เป็นสิ่งที่แสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือ
ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณา
ไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ดังนั้นป้าย
ตามมาตรา ๖ นี้ไม่ใช่กรอบ หรือวัสดุที่นามาทาป้าย
๒. ป้ายที่แสดงนั้นมีข้อความที่สามารถเข้าใจได้ในด้านเดียวกัน หรือมีความหมายในด้าน
เดียวกันนั้น ไม่มีความต่อเนื่องไปยังอีกด้านหนึ่ง หรือข้อความนั้นเป็นอิสระแก่กัน ไม่เกี่ยวข้องกัน
คาพิพากษาฏีกาที่ ๑๒๖๙/๑๕๑๙
วินิจฉัยว่า ป้ายโฆษณาสินค้าของโจทก์มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีสี่ด้านติดตั้งบนหลังคา
ตึกป้ายทั้งสี่ด้านเป็นผืนเดียวติดต่อกัน แต่ก็อยู่คนละด้าน เครื่องหมาย อักษร ในแต่ละด้านเป็นอิสระจากกัน ดังนี้
ไม่นับว่าเป็นป้ายเดียวกัน
ตัวอย่างลักษณะป้ายที่คิดเป็นสองป้ายตามนัยคาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๖๙/๑๕๑๙
ตัวอย่าง ๑ (ด้านหน้า) (ด้านหลัง)
= ๑๐ หน่วย เหลือเศษ ๒๕๐ ต.ร.ซม. ไม่เกินกึ่ง
หนึ่ง ให้ปัดทิ้ง
๒๕๐
๕๐๐
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๗-
ตัวอย่าง ๒ ตัวอย่าง ๓
นอกจากนี้ปัญหาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือผู้เป็น
เจ้าของป้ายนั้นต้องการที่จะโฆษณาสินค้าให้มีความโดดเด่นด้วยการนาสีมาเป็นส่วนประกอบในพื้นที่ที่จัดทาหรือ
ติดตั้งป้าย จนทาผู้คนที่พบเห็นเข้าใจว่านี้คือสีของประจาของสินค้านั้นเช่น ผู้ค้าน้ามันหรือปั้มน้ามันต่าง ๆ จะนา
สีมาทาบริเวณแถบชายหลังคาที่สร้างปกคลุมหัวจ่ายน้ามัน
ในกรณีดังกล่าวนี้จะถือว่าแถบสีนั้นเป็นป้ายด้วยหรือไม่
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ตามเรื่องเสร็จที่ ๑๔๓/๒๕๔๕ ซึ่ง
กรุงเทพมหานครได้หารือว่าแถบสีขาวแดงและมีคาว่า ESSO บนหลังคาคลุมแท่นปั้มภายในสถานีบริการจาหน่าย
น้ามันบริษัทเอสโซ่ฯเป็นกิจอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ไม่ว่าจะได้แสดงหรือ
โฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่นใด ซึ่ง
คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นสรุปได้ว่าหากไม่มีคาว่า ESSO แล้ว แถบสีขาวแดงนั้นก็มิได้ซื่อความหมาย
ของชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหายที่ใช้ในการประกอบการค้าของสถานีจาหน่ายน้ามันเอสโซ่ฯตามบทนิยาม “ป้าย”
มาตรา ๖ เมื่อได้มีความหมายว่าป้ายแล้วจึงไม่สามารถวัดแถบสีนั้นเพื่อคานวณภาษีได้
สรุปตามคาเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาคือแถบสีไม่ได้เป็นป้ายตามพระราชบัญญัติป้าย
พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ นั้นเอง
ก่อนที่จะอธิบายในวรรคต่อไปผู้เขียนเห็นว่าเมื่อมีการคิดพื้นที่ป้ายแล้วก็ขอโยงไปถึงประเภท
ของป้ายที่จะต้องเสียภาษีตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕) เพื่อให้การคิดภาษีป้ายได้เชื่อมโยง
เป็นเนื้อหาเดียวกันดังนี้
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีป้าย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้
ให้กาหนดอัตราภาษีป้ายดังต่อไปนี้
(๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๓ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
(๒) ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศและหรือปนกับภาพและหรือเครื่องหมายอื่น
ให้คิดอัตรา ๒๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๘-
(๓) ป้ายดังต่อไปนี้ ให้คิดอัตรา ๔๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
(ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่
(ข) ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ากว่าอักษรต่างประเทศ
(๔) ป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้คิดอัตราตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแต่
กรณี และให้เสียเฉพาะจานวนเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น
(๕) ป้ายตาม (๑) (๒) หรือ (๓) เมื่อคานวณพื้นที่ของป้ายแล้ว ถ้ามีอัตราที่ต้องเสียภาษีต่า
กว่าป้ายละ ๒๐๐ บาท ให้เสียภาษีป้ายละ ๒๐๐ บาท
ตามกฎกระทรวงดังกล่าวได้แบ่งประเภทป้ายไว้ ๓ ประเภทแต่ละประเภทมีการคิดภาษี
ต่างกัน ผู้เขียนได้มีการศึกษาและสอบถามถึงที่มาของประเภทป้ายที่มีการแบ่งเป็น ๓ ประเภทและมีการจัดเก็บ
อัตราภาษีที่ต่างกันว่า เพื่อต้องการรักษาเอกลักษณ์ของอักษรไทย ต้องการให้ใช้อักษรไทยจึงได้กาหนดอัตราภาษี
ไว้น้อยกว่า ประเภทของป้ายแต่ละชนิดอธิบายความหมายได้ดังนี้
(๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๓ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
ป้ายประเภท(๑) นี้ไม่ยุ่งยากในการวินิจฉัยประเภทป้าย เพราะมีอักษรไทยอย่างเดียวใน
ข้อความป้าย
ตัวอย่าง ป้ายประเภท(๑)
ป้ายประเภท (๒) ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศและหรือปนกับภาพและหรือ
เครื่องหมายอื่นให้คิดอัตรา ๒๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
ป้ายประเภท (๒) นี้จะมีลักษณะดังนี้
๑. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ
๒. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับภาพ
๓. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับเครื่องหมายอื่น
๔. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ ภาพ และเครื่องหมายอื่น
ในการวินิจฉัยว่าเป็นป้ายประเภท(๒) นี้จะมีปัญหาเฉพาะกรณีที่อักษรไทยปนอักษร
ต่างประเทศซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับประเภทที่ (๓) ข
ป้ายประเภทที่ (๓) ข ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ากว่าอักษร
ต่างประเทศ
ซึ่งสามารถแยกประเภท (๓) ข ได้ดังนี้
๑. อักษรไทยบางส่วนอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๑๙-
๒. อักษรไทยทั้งหมดอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ
๓. อักษรไทยบางส่วนอยู่ต่ากว่าอักษรต่างประเทศ
๔. อักษรไทยทั้งหมดอยู่ต่ากว่าอักษรต่างประเทศ
ขอทาความเข้าใจคาวา “ ใต้” กับ “ต่า”หมายถึงอย่างไร
คาว่า ใต้ ขอให้เข้าใจว่าตาแหน่งอักษรไทยที่ปรากฏในป้ายนั้นอยู่เหนือหรือใต้
คาว่า ต่า ขอให้เข้าใจว่าตาแหน่งอักษรไทยที่ปรากฏในป้ายนั้นอยู่ในระดับเดียวกันแต่ตัว
อักษรไทยมีความสูงต่ากว่าอักษรต่างประเทศ
เมื่อเราพิจารณาระหว่างความหมายของป้ายประเภท (๒) กับประเภท (๓) ข ดังกล่าว
ข้างต้นจะเห็นได้ว่าจะมีความแตกต่างตรงตาแหน่งอักษรไทยกับอักษรต่างประเทศ หากป้ายนั้นมีอักษรไทยไม่ว่า
จะทั้งหมดหรือแม้แต่เป็นบางส่วนหากอยู่ในตาแหน่งใต้หรือต่ากว่าอักษรต่างประเทศก็จะเป็นป้ายประเภท (๓) ข
ดังนั้นประเภทที่ (๒) จะมีได้ ๒ กรณีเท่านั้นคือ
๑ อักษรไทยทั้งหมดจะต้องอยู่เหนือหรือบนอักษรต่างประเทศ จะมีภาพหรือ
เครื่องหมายอยู่บริเวณใดก็ตาม
๒. อักษรไทยทั้งหมดจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันและมีขนาดเท่ากันกับอักษรต่างประเทศ
ตัวอย่างที่ ๑ ป้ายประเภท (๒) ภาษาไทยอยู่เหนือหรือบนอักษรต่างประเทศ
ตัวอย่าง ป้ายประเภทที่ (๒) อักษรไทยอยู่ในระดับเดียวกันกับอักษรต่างประเทศ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๐-
ตัวอย่างที่ ๒ ป้ายประเภทที่ (๒) ภาษาไทยปนภาพ
คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๔๓/๒๕๔๕
ป้ายที่มีข้อความ “เอสโซ่ ESSO รูปเสือ Welcome to tiger Mart ล้าง – อัดฉีด ห้องน้า
สะอาด” เป็นป้ายประเภทที่ ๒ ที่มีอักษรไทยปนอักษรต่างประเทศและเครื่องหมาย ซึ่งอยู่ในโครงป้ายเดียวกัน
ทั้งหมดไม่อาจแยกจากกันได้ โจทก์ต้องเสียภาษีในส่วนนี้
คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๔๓๗/๒๕๕๕
ระหว่างบริษัทโตโยต้าหนองคายผู้จาหน่ายโตโยต้าจากัด โจทก์ กับเทศบาลตาบลโพธิ์ชัย
จาเลย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๑-
ป้ายรายการที่ ๘ มีข้อความอักษรไทยว่า “โชว์รูม ทางเข้า โชว์รูมรถใหม่อุปกรณ์ประดับยนต์
ศูนย์บริการตัวถังและสี อะไหล่ ที่จอดรถ” อยู่ใต้และต่ากว่าอักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” จึงถือเป็นป้าย
ประเภท (๓) (ข) ตามบัญชีอัตราภาษีป้ายโดยไม่ต้องคานึงว่าจะมีอักษรไทยอยู่ที่ส่วนใดของป้าย
ส่วนการที่ป้ายดังกล่าวมีข้อความอักษรไทยอีกหนึ่งข้อความคือคาว่า “โตโยต้า” อยู่เหนือ
อักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” ก็ไม่ทาให้ป้ายดังกล่าวกลายเป็นป้ายประเภท (๒) ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย
ไปได้
ป้ายรายการที่ ๑,๒ และ ๖ ส่วนบนมีอักษรไทยว่า “โตโยต้า” มีอักษรต่างประเทศว่า
“TOYOTA” และมีสัญลักษณ์ส่วนล่างมีอักษรไทยว่า “โตโยต้าหนองคาย” แผนกขายศูนย์บริการ แผนกอะไหล่
ศูนย์บริการตัวถังและสี อยู่บนวัสดุปิดผิวเรียบประเภทอลูมิเนียม แม้ส่วนบนและส่วนล่างข้อความจะอยู่บนวัสดุ
ปิดผิวที่ต่างระดับกันและมีขนาดต่างกันก็ตามแต่ข้อความทั้งส่วนบนและส่วนล่างต่างก็อยู่บนวัสดุปิดผิวเรียบ ซึ่ง
เป็นอลูมิเนียมชนิดและสีเดียวกันและอยู่บนโครงสร้างที่ได้ทาในคราวเดียวกัน ตามที่โจทก์ได้ขออนุญาตก่อสร้าง
และแบบแปลนโครงสร้างป้าย ทั้งในส่วนของข้อความหรือสัญลักษณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ล้วนเป็นข้อความ
และสัญลักษณ์แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าของโจทก์ ทาให้ป้ายส่วนบนและป้าย
ส่วนล่างมีลักษณะเป็นป้ายที่มีความต่อเนื่องกันทั้งในเรื่องวัสดุปิดผิว โครงสร้างและข้อความหรือสัญลักษณ์ที่
ปรากฏในป้ายบนวัสดุปิดผิวอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ แม้ข้อความหรือสัญลักษณ์จะไม่ติดเต็มวัสดุปิดผิวก็
เพื่อความสวยงามและอ่านข้อความได้ง่ายในโครงสร้างชิ้นเดียวกันทุกข้อความในโครงสร้างนั้น เพื่อประโยชน์ใน
การโฆษณาการค้าของโจทก์ แต่ถือว่าเป็นป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ตามวัสดุปิดผิวซึ่งเป็นอลูมิเนียมดังกล่าว
จึงถือว่าป้ายราชการที่ ๑,๒ และ ๖ เป็นป้ายเดียวกันไม่อาจแยกการคานวณภาษีป้ายออกจากกันได้ และ
ปรากฏว่าป้ายดังกล่าวมีข้อความอักษรไทยว่า “โตโยต้าหนองคาย แผนกขาย ศูนย์บริการ แผนกอะไหล่
ศูนย์บริการตัวถังและสี” อยู่ใต้และต่ากว่าอักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” จึงถือเป็นป้ายประเภท (๓)
(ข) ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย โดยไม่ต้องคานึงว่าจะมีอักษรไทยอยู่ส่วนใดของป้าย สาหรับการคานวนพื้นที่ป้าย
โจทก์ยอมรับในการอุทธรณ์แล้วโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ ๑ ประเมินภาษีป้ายโดยการนาเอาความกว้าง
คูณด้วยความยาว แล้วนามาคูณด้วยอัตราภาษี จึงถูกต้อง
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๒-
ตัวอย่าง ๓ ประเภท(๓) ข ภาษาไทยบางส่วนอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ
ป้ายที่ ๑ ป้ายที่๒
ป้ายที่ ๓
ป้ายประเภท ๓ (ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่
ป้ายประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาต่างประเทศ จะมีภาพหรือเครื่องหมายหรือไม่ก็ได้
ตัวอย่างป้ายประเภท (๓)
อักษรไทยบางส่วน
อยู่ใต้อักษร
ต่างประเทศ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๓-
มาตรา ๗ วรรคสาม ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตาราง
เมตรต้องมีชื่อและที่อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความ
ดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้ายที่กาหนดในตามหลักเกณฑ์กฎกระทรวง
อธิบาย
ตามมาตรา ๗ วรรคสามนี้เป็นการกาหนดให้ผู้ติดตั้งป้ายต้องปฏิบัติ ในกรณีที่ติดตั้งบน
อสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มีพื้นที่ป้ายมากกว่าสองตารางเมตร จะต้องจัดทาหรือเขียนชื่อและที่อยู่ของ
เจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้าย
มาตรา ๘ เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับป้ายดังต่อไปนี้
(๑) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณามหรสพ
(๒) ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้าหรือที่สิ่งห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้า
(๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
(๔) ป้ายที่แสดงไว้ที่คน หรือสัตว์
(๕) ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือภายในอาคาร
ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้ เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่รวมถึงป้ายตาม
กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
(๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่า
ด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
(๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตาม
กฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ
(๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคาร
เพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบัน
อุดมศึกษาเอกชนนั้น
(๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
(๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ
โดยเฉพาะ
(๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ
(๑๓) ป้ายตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
อธิบาย
จากที่อธิบายมาแล้วจากจัดเก็บภาษีป้ายจะต้องเป็นป้ายตามมาตรา ๖ และเป็นผู้มีหน้าที่
เสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗ แต่ทั้งนี้ก็จะมีข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษีป้ายตามมาตรา ๘ ดังนี้
มาตรา ๘.(๑) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณา
มโหรสพ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๔-
จากบทบัญญัติดังกล่าวจะพิจารณาตีความป้ายที่ได้รับการยกเว้นจะต้องประกอบหลักเกณฑ์
ดังนี้
๑. จะต้องเป็นป้ายที่แสดงหรือติดตั้งไว้ ณ โรงมหรสพนั้น
๒. จะต้องเป็นป้ายที่แสดงหรือติดตั้งไว้บริเวณโรงมหรสพนั้น
๓. และจะต้องเป็นป้ายเพื่อโฆษณามหรสพนั้น
ดังนั้น ป้ายที่จะได้รับการยกเว้นตามหลักกฎหมายตามข้อนี้คือข้อ (๑) + (๓) หรือ (๒) + (๓) เท่านั้น
จากบทบัญญัตินี้จะพิจารณาได้ว่ากฎหมายให้สิทธิเฉพาะป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ โรง
มหรสพ หรือบริเวณโรงมหรสพเท่านั้น และจะต้องเป็นป้ายที่ใช้ในการโฆษณามหรสพเท่านั้นจึงจะได้รับการ
ยกเว้น
ข้อพิจารณาต่อไปคือว่าหากเป็นป้ายที่ใช้โฆษณาการประกอบกิจการค้าอื่นเพื่อหารายได้ และ
ติดตั้งไว้ ณ โรงมหรสพ หรือบริเวณมหรสพจะได้รับการยกเว้นหรือไม่ ในกรณีดังกล่าวนี้ พระราชบัญญัติป้ายพ.ศ.
๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๑) กาหนดไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นการโฆษณามหรสพถึงจะได้รับการยกเว้น
ดังนั้นป้ายประกอบการค้าอื่นๆไม่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๘(๑) นี้ไม่ ถึงแม้นว่าป้ายนั้น
เจ้าของโรงมหรสพเป็นเจ้าของป้ายก็ตาม เช่น ป้ายโฆษณาขายเครื่องดื่ม ก็ต้องเสียภาษี
มาตรา ๘ (๒) ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้าหรือที่สิ่งห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้า
กรณีป้ายตาม มาตรา ๘ (๒) ที่ได้รับการยกเว้นนี้ ต้องมีลักษณะดังนี้
๑. ป้ายที่แสดงไว้ที่ตัวสินค้า
๒. เป็นเป็นป้ายที่แสดงไว้บนสิ่งที่ห่อหุ้มสินค้า
๓. เป็นป้ายที่แสดงไว้ในวัสดุที่บรรจุสินค้า
จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้ว่าการจัดเก็บภาษีป้ายจากสินค้าเหล่านี้
อาจเป็นไปได้ยากที่หน่วยงานจะจัดเก็บเพราะสภาพของสินค้าจะมีการเคลื่อนย้ายเช่นมีสถานที่ที่แหล่งต้นทางที่
ผลิต ส่งไปยังสถานที่ผู้จาหน่าย ต่อมามีผู้ซื้อไปใช้ ซึ่งถ้าหากจะจัดเก็บแล้วจะมีความซ้าซ้อน ยุ่งยาก อีกประการ
หนึ่งป้ายที่ปรากฏบนสินค้าเหล่านี้เมื่อนาไปจาหน่ายก็จะเป็นป้ายที่อยู่ภายในที่รโหฐาน ซึ่งจะได้รับการยกเว้น
เช่นกัน ขณะเดียวกันผู้ที่ซื้อสินค้าที่มีป้ายปรากฏอยู่ซึ่งอาจจะอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบครองป้ายซึ่งมีหน้าที่เสียภาษี
ป้ายก็คงไม่ยอมเสียภาษีป้ายเช่นกัน อีกประการหนึ่งหลักการจัดเก็บภาษีป้ายก็เพื่อรักษาความสะอาดเรียบร้อย
ของบ้านเมือง สถานที่ต่างๆรวมทั้งถนน และทางเท้าต่างๆ
ตัวอย่างป้ายห่อหุ้มสินค้า
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๕-
มาตรา ๘ (๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
กรณีป้ายตาม มาตรา ๘ (๓) ที่ได้รับการยกเว้นนี้ ต้องมีลักษณะดังนี้
(๑) จะต้องเป็นป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ในบริเวณงาน
(๒) งานที่จัดขึ้นนั้นเป็นการชั่วคราว
จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้ว่า ป้ายที่จะต้องได้รับการยกเว้นจะต้อง
เป็นป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงในอาณาเขตของบริเวณงานนั้นเป็นสาคัญ หากไปติดหรือแสดงไว้นอกอาณาเขตบริเวณ
งานจะต้องเสียภาษี เช่น งานประจาปีที่จัดขึ้น ณ วัดใดวัดหนึ่ง สนามกีฬาของจังหวัด เป็นต้น
นอกจากติดตั้งหรือแสดงบริเวณงานแล้ว เงื่อนไขของกฎหมายงานนั้นจะต้องเป็นงานที่จัดขึ้น
ชั่วคราวมีการกาหนดวันเริ่มต้นงานและสิ้นสุดงานที่แน่นอนเช่น ๓ วัน ๕ วัน ๑๐ วันเป็นต้น
ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘ (๓)
มาตรา ๘. (๔) ป้ายที่แสดงไว้ที่คน หรือสัตว์
จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้เช่นเดียวกันกับ มาตรา ๘ (๒) มี
ความยุ่งจากในการจัดเก็บเพราะป้ายที่แสดงไว้ที่คนหรือสัตว์นั้น ไม่ได้อยู่ ณ ที่หนึ่งที่ใดเป็นประจา เช่นป้ายที่
ปักติดไว้ที่เสื้อผ้าที่บุคคลสวมใส่ กฎหมายจึงได้ยกเว้นป้ายประเภทนี้ให้
ตัวอย่าง ป้ายแสดงที่คน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๖-
มาตรา ๘ (๕) ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือ
ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้ เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่
รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
อธิบาย ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคาร คาว่าอาคารในที่นี้มีความหมายครอบคลุมเพียงใด
พรบ.ป้ายไม่ได้ให้คากาจัดความไว้ว่าหมายถึงอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีคาพิพากษาศาลฏีกาดังนี้
คาพิพากษาฏีกาที่ ๑๗๔๓ /๒๕๔๔
พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ไม่มีบทวิเคราะห์ศัพท์คาว่า "อาคาร" แต่เนื่องจากพระราช
บัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร หากจะต้องตีความเพราะตัวบทกฎหมายไม่ชัดแจ้ง ก็ต้องตีความ
โดยเคร่งครัดในทางที่ไม่เป็นโทษแก่ราษฎรผู้ที่จะต้องเสียภาษี อากร คาว่า "อาคาร" ตามพจนานุกรมได้ให้
ความหมายไว้ว่า หมายความถึง เรือน โรง สิ่งที่ก่อสร้างขึ้นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น สถานีบริการน้ามันโดย
ปกติแล้วจะมีส่วนประกอบที่สาคัญ คือ ตัวอาคารที่เป็นที่ทาการ ตู้จาหน่ายน้ามันและหลังคาที่ปกคลุมตู้จาหน่าย
น้ามัน รวมทั้งจะต้องเปิดโล่งให้รถยนต์เข้าไปเติมน้ามันได้ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้รวมกันเป็นสถานีบริการน้ามัน
จึงถือว่าเป็นอาคาร ป้ายที่มีข้อความว่า "ซูพรีม 97 ซูพรีม 92" และ "ESSO รูปเสือ" อยู่ใต้หลังคาที่ปกคลุมตู้
จาหน่ายน้ามัน เป็นป้ายที่อยู่ภายในอาคารของสถานีบริการน้ามันที่ใช้ประกอบการค้า ทั้งเป็นป้ายที่มีพื้นที่ไม่เกิน
หนึ่งตารางเมตร ย่อมเข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๕) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.
ภาษีป้าย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ จึงไม่ต้องเสียภาษีป้าย ป้ายที่มีข้อความว่า "AMERICAN EXPRESS"
ซึ่งติดตั้งอยู่ในอาคารของโจทก์ ไม่ใช่ป้ายที่โจทก์เป็นเจ้าของ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของเทศบาลจาเลยไม่ได้สืบหา
เจ้าของป้ายผู้มีหน้าที่ เสียภาษีป้าย จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๑๘ พนักงาน
เจ้าหน้าที่ของจาเลยจึงไม่มีอานาจแจ้งการประเมินภาษีป้ายดังกล่าวไป ยังโจทก์
จากบทบัญญัติของข้อกฎหมาย ๘ (๕) ที่จะได้รับการยกเว้นจะต้องมีลักษณะดังนี้
๑. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้า
๒. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบกิจการอื่น
๓. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน
๔. ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ๓. ต้องเป็นป้ายเพื่อหารายได้ตามมาตรา ๖.
๕. ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ ๓. จะต้องมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง
ปัจจุบันกาหนดมีพื้นที่ ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร)
๖. แต่ไม่รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
สิ่งที่จะต้องพิจารณาทาความเข้าใจว่าป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคาร ตาม ข้อ ๑ และ ๒ นั้น
ทาไมกฎหมายถึงได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีป้าย
ในกรณีผู้เขียนมีความเห็นว่าอาจจะมองได้ ๓ กรณี
๑. วัตถุประสงค์ในการออกพระราชบัญญัติป้ายนั้นมีจุดประสงค์ เพื่อความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย และความสะอาดของบ้านเมือง แต่ในกรณีนี้เป็นการติดตั้งภายในอาคารของเขาเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่
ไม่ต้องไปเก็บภาษีของเขา
๒. มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของผู้ประกอบการค้าในการกระทาใดๆภายใน
อาคารของเขาในการติดตั้งป้าย เพื่อโฆษณาสินค้า หรือบอกตาแหน่งสินค้า เพื่อความสะดวกของผู้เข้ารับบริการ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๗-
๓. เจตนาของการติดตั้งป้ายภายในอาคารนั้นมีเจตนาเพื่อให้ผู้เข้ามาซื้อทราบถึงการบริการ
ต่างๆ เท่านั้น บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้ ปัจจุบันป้ายที่ติดตั้งภายในอาคารที่มีลักษณะเป็นตัวอักษร
พลาสติก ที่ติดกับกระจกภายในอาคารแต่ไม่สามารถอ่านข้อความป้ายเมื่ออยู่ภายในอาคารแต่มองเห็นจากด้าน
นอกอาคารเท่านั้น ในกรณีนี้จะเห็นว่าเจตนาของการติดตั้งป้ายต้องการสื่อความหมายกับบุคคลภายนอก จึงไม่
เข้าข้อยกเว้นนี้ ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๖ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้มีคาพิพากษาศาลฎีกาที่สามารถนามา
สนับสนุนความคิดดังกล่าวดังนี้
คาพิพากษาฏีกาที่ ๘๒/๒๕๓๙
ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๕) ป้ายที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้าย
จะต้องเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบกิจการอื่น
เพื่อหารายได้หรือเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน เว้นแต่จะเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วย
ทะเบียนพาณิชย์จะก็ไม่ได้รับยกเว้น เพราะข้อความตอนท้ายของมาตรา ๘ (๕) ไม่รวมถึงป้ายดังกล่าว ดังนั้น หาก
ไม่ใช่ป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อ หารายได้หรือภายในอาคารซึ่งเป็น
ที่รโหฐานแล้ว แม้จะเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่ต้องเสีย
ภาษีป้ายมาตรา ๘ (๕) ดังกล่าว ป้ายพิพาทสามารถมองเห็นได้จากภายนอกสถานที่ประกอบการค้าหรือสถานที่
ประกอบ กิจการอื่นเพื่อหารายได้และเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายนอกอาคาร ป้ายดังกล่าวแม้จะติดตั้งไว้ภายในรั้วของ
โจทก์ บนหลังคาอาคาร ผนังภายนอกอาคารหรือบริเวณของสถานที่ประกอบการค้าหรือสถานที่ประกอบกิจการอื่น
เพื่อหารายได้ ก็หาเป็นป้ายที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๘ (๕) แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
เพราะบทมาตราดังกล่าวมุ่งประสงค์ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้ายเฉพาะป้ายที่แสดง ไว้ภายในสถานที่ประกอบการ
ค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือภายใน อาคารอันเป็นที่รโหฐานเท่านั้น กล่าวคือ ต้องเป็นป้ายที่ไม่
สามารถมองเห็นได้จากภายนอกของสถานที่ประกอบการค้าหรือ ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือจาก
ภายนอกอาคาร ส่วนปัญหาที่จาเลยทั้งสองอุทธรณ์คัดค้านคาพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางที่ วินิจฉัยว่า ป้าย
พิพาทไม่เป็นป้ายตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๑๕ นั้น เมื่อวินิจฉัยแล้วว่าป้ายพิพาทไม่ใช่
ป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือภายในอาคารซึ่งเป็นที่
รโหฐานแล้ว จึงไม่จาเป็นต้องวินิจฉัยว่าป้ายพิพาทเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์อีก เพราะไม่ทา
ให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างป้ายที่ติดกระจกภายในอาคาร ไม่ถือว่าเป็นป้ายภายในอาคารที่จะได้รับการยกเว้น
ตามมาตรา ๘ (๕) แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
ดูจากภายในอาคาร ดูจากภายนอกอาคาร
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๘-
ตัวอย่าง ป้ายภายในอาคารมีพื้นที่ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร
ดังนั้น กฎหมายจึงกาหนดให้บุคคลที่ติดตั้งป้ายหรือแสดงป้ายได้รับการยกเว้นภาษีป้าย
ดังกล่าว
ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน
ความสาคัญในการยกเว้นป้ายในกรณีนี้ คือที่รโหฐาน
ที่รโหฐานหมายถึงสถานที่ของบุคคลใดๆ ซึ่งบุคคลอื่นจะเข้าไปไม่ได้ เป็นการคุ้มครองสิทธิ
เสรีภาพของบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่นั้นที่จะทาการใดๆรวมทั้งเขาผู้นั้นจะติดป้ายโฆษณาการประกอบการค้า
ใดๆก็ได้ เช่น บ้านพักอาศัย เป็นต้น
ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ ๓. จะต้องมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง
ปัจจุบันกาหนดมีพื้นที่ ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร)
กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงกาหนดขนาดของป้ายที่จะต้องเสียภาษีป้ายในกรณีที่
แสดงไว้หรือติดตั้งไว้ภายในอาคารมีขนาดพื้นที่เกินสามตารางเมตร
ป้ายที่ติดตั้งภายในอาคาร ตามข้อ ๑. ๒. และข้อ ๓. ถ้าหากเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วย
ทะเบียนพาณิชย์ จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีป้าย
ลักษณะของกฎหมายในกรณีนี้ เป็นการบัญญัติข้อยกเว้นซ้อนข้อยกเว้น กล่าวคือไม่ให้ได้รับ
สิทธิในข้อยกเว้นนั้น
สิ่งที่ต้องตีความพิจารณาต่อไปก็คือ ป้ายทะเบียนพาณิชย์มีลักษณะเป็นอย่างไร
ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๕๕
มาตรา ๑๕ เมื่อได้จดทะเบียนพาณิชย์แล้ว ให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจจัดให้มีป้ายชื่อที่ใช้ใน
การประกอบพาณิชยกิจไว้ที่หน้าสานักงานแห่งใหญ่ และสานักงานสาขาโดยเปิดภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้
จดทะเบียน ป้ายชื่อนี้ให้เขียนเป็นอักษรไทยอ่านได้ง่ายและชัดเจน และจะมีอักษรต่างประเทศด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่า
จะกระทาบนแผ่นไม้แผ่นโลหะแผ่นกระจกกาแพงหรือผนัง
ชื่อในป้ายก็ดี ในเอกสารใดๆ ก็ดี ต้องใช้ให้ตรงกับชื่อที่จดทะเบียนไว้ และถ้าเป็นสานักงาน
สาขา ต้องมีคาว่า “สาขา” ไว้ด้วย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๒๙-
ตัวอย่าง ป้ายทะเบียนพาณิชย์
ซึ่งจากมาตรา ๑๕ ดังกล่าวนี้ได้กาหนดบังคับไว้ว่าเมื่อได้มีการจดทะเบียนพาณิชย์แล้ว
ผู้ประกอบการพาณิชย์จะต้องจัดให้มีการจัดทาป้ายชื่อที่ใช้ในการประกอบกิจการพาณิชย์ติดไว้ที่หน้าสานักงาน
ใหญ่หรือสานักงานสาขาโดยเปิดเผย ภายใน ๓๐ วัน นับจากวันได้มีการจดทะเบียนพาณิชย์ นอกจากนี้จะเห็นได้
ว่าป้ายทะเบียนพาณิชย์นี้มีการบังคับให้ชื่อภาษาไทยอ่านได้ง่ายและชัดเจนจะมีภาษาต่างประเทศด้วยก็ได้
ปัญหาในการจัดเก็บป้ายทะเบียนพาณิชย์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือผู้ประกอบ
กิจการพาณิชย์ไม่ยอมติดป้ายตามมาตรา ๑๕ แล้วถือว่าตนเองไม่มีป้ายที่จะต้องเสียภาษี
กรณีดังกล่าวได้มีการกาหนดบทลงโทษไว้ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๕๕
มาตรา ๒๐ ผู้ประกอบพาณิชยกิจผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง หรือวรรค
สาม หรือมาตรา ๑๕ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองร้อยบาท และในกรณีอันเป็นความผิดต่อเนื่องกัน
ให้ปรับอีกวันละไม่เกินยี่สิบบาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งผู้ประกอบกิจการพาณิชย์บางรายไม่ทราบ
หรือไม่ได้สนใจ
มาตรา ๘ (๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่น
ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
ในการพิจารณาตีความของป้ายตามมาตรา ๗ (๖) ก่อนอื่นต้องทาความเข้าใจก่อนว่าป้าย
ที่ต้องเสียภาษีต้องเป็นป้ายมาตรา ๖ กรณีป้ายของหน่วยงานราชการฯ อาจจะเป็นป้ายชื่อ หรือป้ายที่
หน่วยงานราชการจัดทาขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ จะได้รับการยกเว้นตามมาตรานี้
ปัจจุบันหน่วยงานราชการบางแห่งอาจจะมีป้ายที่เกี่ยวการบริการที่มีการจัดเก็บค่าบริการ
และเป็นการหารายได้ เช่น อุทยานแห่งชาติ มีป้ายบอกค่าเข้าไปใช้บริการ ซึ่งเป็นป้ายที่ต้องเสียภาษีตาม
มาตรา ๖ แต่จะได้รับการยกเว้น ตามมาตรา ๘ (๖) ดังกล่าว
ข้อสังเกตคาว่าป้ายของราชการฯ นั้นอาจจะเป็นได้ทั้งป้ายชื่อและป้ายอื่นของหน่วยงาน
ราชการเพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า “ป้ายของราชการ” ไม่ได้ระบุว่าป้ายชื่อ ถ้าหากเป็นป้ายชื่ออย่างเดียว
จะต้องมีการเขียนว่าป้ายชื่อของราชการฯ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๐-
ตัวอย่าง ป้ายหน่วยงานราชการ ตัวอย่าง ป้ายของราชการส่วนท้องถิ่น
มาตรา ๘ (๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล
หรือตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ
ข้อพิจารณาป้ายตามมาตรา ๘ (๗) ที่จะได้รับการยกเว้นต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้
๑. เป็นป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล
๒. เป็นป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ
๓. ป้ายของหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ
การที่จะดูว่าองค์กรที่จัดตั้งขึ้นนั้นจะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘ (๗) หรือไม่อาจจะต้องดูเป็น
รายหน่วยงานเป็นหน่วยๆไป หากเข้าตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นก็จะได้รับการยกเว้น
ข้อสังเกต ผู้เขียนมีข้อคิดเห็นให้พิจารณาว่า เมื่อพิจารณาดูบทบัญญัติของกฎหมายใน
บทนี้แล้วมีความเห็นว่าหน่วยงานที่จะได้รับการยกเว้นตามมาตรานี้ จะต้องเป็นหน่วยงานตามข้อ ๑ หรือข้อ
๒ ประกอบด้วยข้อ ๓ ด้วยหรือไม่ จึงจะได้รับการยกเว้น หรือ ป้ายของหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐก็เป็นอีก
หน่วยงานหนึ่ง เหตุผลเพราะมีการใช้คาว่า หรือ ระหว่างหน่วยงานในข้อ ๑ กับ ๒ แต่ในข้อที่ ๓ ใช้คาว่าและ
จึงอาจจะคิดได้ว่า หน่วยงานตามข้อ ๑ หรือ ๒ จะต้องรวมกับข้อ ๓ คือหน่วยงานนั้นนารายได้ส่งรัฐ
มาตรา ๘ (๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ป้ายที่ได้รับการยกเว้นตามความในบทบัญญัตินี้มีดังนี้
๑. ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย
๒. ธนาคารออมสิน
๓. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
๔. ธนาคารเพื่อการสหกรณ์
๕. บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ในบทบัญญัติในมาตรานี้ผู้ศึกษาจะต้องใช้ความจาเป็นหลักสาคัญเพราะธนาคารนั้นมีหลาย
ธนาคารแต่มีข้อบัญญัติยกเว้นไว้เฉพาะ ๔ ธนาคารนี้เท่านั้น และบางธนาคารรัฐบาลก็มีถือหุ้นอยู่ด้วย เช่น
ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เป็นต้น
มาตรา ๘ (๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดม
ศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๑-
เอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้นองค์ประกอบของป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่
ได้รับการยกเว้นมีดังนี้
๑. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษา
เอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และ
๒. ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคาร หรือ
บริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
จากองค์ประกอบดังกล่าวการจะพิจารณาว่าป้ายนั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีป้ายจะต้อง
เข้าองค์ประกอบทั้งข้อ ๑ และ ๒ อย่างหนึ่งอย่างใดดังนี้
๑. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนและติดตั้งหรือแสดงไว้
ณ อาคารของโรงเรียนเอกชน
๒. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนและติดตั้งหรือแสดงไว้
บริเวณโรงเรียนเอกชน
๓. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและติดตั้งหรือ
แสดงไว้ ณ อาคารของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
๔. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและติดตั้งหรือ
แสดงไว้ ณ บริเวณของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ข้อพิจารณาต่อไปว่าคือกฎหมายใช้คาว่าป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย
โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้นคาว่าป้าย
โรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้นครอบคลุมเพียงใด เนื่องจากกฎหมายภาษีป้ายเป็นกฎหมายภาษี
อากรซึ่งมีผลกระทบแก่ผู้เสียภาษี หากไม่มีการกาหนดไว้เป็นการเฉพาะ ตามหลักกฎหมายแล้วต้องพิจารณาให้
เป็นคุณกับผู้เสียภาษี
ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาว่า สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือโรงเรียนเอกชนมีลักษณะอย่างไร
ในกรณีนี้เมื่อได้พิจารณาตามบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.
๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๕๐6
แล้วได้การกาหนดไว้ว่า “สถาบันอุดมศึกษาเอกชน”หมายถึง สถานศึกษาของเอกชนที่
ให้การศึกษาระดับปริญญาแก่บุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไปและพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ แก้ไข
เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ 7
ได้ให้ความหมายโรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบไว้ว่า “โรงเรียน”
หมายความว่า สถานศึกษาของเอกชนที่จัดการศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในระบบหรือโรงเรียนนอกระบบ ที่มิใช่
เป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
6
พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๕ ว่า “สถาบันอุดมศึกษาเอกชน”หมายถึง สถานศึกษาของเอกชนที่ให้การศึกษาระดับปริญญาแก่บุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป
7
พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนพ.ศ. ๒๕๕๐แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “โรงเรียน” หมายความว่า สถานศึกษาของเอกชนที่จัด
การศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในระบบหรือโรงเรียนนอกระบบ ที่มิใช่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
“โรงเรียนในระบบ” หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยกาหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขของการ
สาเร็จการศึกษาที่แน่นอน
“โรงเรียนนอกระบบ”2[๒] หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและ
ประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษา และให้หมายความรวมถึงศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด (ตาดีกา) และสถาบันศึกษาปอเนาะ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๒-
“โรงเรียนในระบบ” หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยกาหนดจุดมุ่งหมาย วิธี
การศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสาเร็จการศึกษาที่
แน่นอน
“โรงเรียนนอกระบบ”หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยมีความยืดหยุ่นในการ
กาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไข
สาคัญของการสาเร็จการศึกษา และให้หมายความรวมถึงศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด (ตาดีกา) และ
สถาบันศึกษาปอเนาะ
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่จะพิจารณาว่าเป็นโรงเรียนเอกชนหรือไม่ จะมีหลักสาคัญคือจะต้องมี
การวัดประเมินผลการสาเร็จการศึกษา
เรื่องที่จะต้องพิจารณาตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่า
ด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน นั้นหมายถึงป้าย
ลักษณะอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ศาลได้มีคาพิพากษาวางแนวทางไว้ว่าดังนี้
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๘๕๕/๒๕๔๕
เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โจทก์ นายเทพกุล พูลลาภ จาเลย โจทก์ฟ้องว่าจาเลยได้ตั้งโรงเรียน
เอกชนชื่อโรงเรียนศูนย์อบรมคอมพิวเตอร์ธุรกิจร้อยเอ็ดและเป็นผู้ครอบครองป้าย ซึ่งมีรูปภาพคอมพิวเตอร์และ
คนนั่งและมีอักษรภาษาอังกฤษคาว่า “BBC”อยู่ในป้าย และมีป้ายรูปภาพคอมพิวเตอร์และคนนั่งและมีอักษร
ภาษาอังกฤษคาว่า “BUSINESS COMPUTERCENTER”อยู่ในป้าย และได้ติดตั้งป้ายทั้งหมดไว้นอกอาคาร
จาเลยให้การว่าจาเลยได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน
พ.ศ. ๒๕๒๕ ป้ายพิพาทเป็นป้ายของโรงเรียนติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนมีชื่อภาษาไทย
ของโรงเรียนด้วยจึงไม่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๘(๙) แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะพิจารณาว่าป้ายใดจะถือเป็นป้ายโรงเรียนเอกชนหรือไม่จึงต้อง
พิจารณาตามที่กฎหมายกาหนดว่าด้วยโรงเรียนเอกชนคือพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕8
กาหนดไว้
ซึ่งมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้ว่า “ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดให้มีป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเป็น
อักษรไทยขนาดใหญ่พอเห็น ได้ในระยะอันสมควรติดไว้ที่โรงเรียนหรือบริเวณโรงเรียน ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย” ดังนั้น
ป้ายโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนจึงหมายความถึง ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนที่เป็นอักษรไทย
ตามบทบังคับของมาตรา ๔๖ เท่านั้น ป้ายพิพาทมิใช่ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนที่เป็นอักษรไทยตามบทกฎหมาย
ดังกล่าว จึงไม่ใช่ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘(๙) แห่งพระราชบัญญัติป้าย จาเลยจึงเป็น
เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย ตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติป้าย
สาหรับป้ายของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในการพิจารณาป้ายสามารถใช้แนวคาพิพากษานี้
ในการวินิจฉัยป้ายได้ ซึ่งป้ายชื่อของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนได้กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษา
8
พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ถูกยกเลิกโดย พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๒๘ ชื่อของโรงเรียนในระบบต้องใช้อักษรไทยขนาดใหญ่พอสมควรติดไว้ที่บริเวณโรงเรียนในระบบ ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย โดยต้องมีคาว่า “โรงเรียน” ประกอบชื่อด้วย ใน
กรณีที่มีอักษรต่างประเทศกากับ ต้องไม่มีขนาดใหญ่กว่าอักษรไทย และสาหรับโรงเรียนในระบบที่จัดการศึกษาประเภทอาชีวศึกษาทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงอาจใช้คาว่า “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” หรือ “วิทยาลัยเทคโนโลยี” ประกอบชื่อแทนคาว่า “โรงเรียน” ก็ได้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๓-
เอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๑ ชื่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องใช้
อักษรไทยและต้องใช้คาว่า "มหาวิทยาลัย" "สถาบัน" หรือ "วิทยาลัย" นาหน้าชื่อ
ชื่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะใช้อักษรต่างประเทศด้วยก็ได้ โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี
โดยคาแนะนาของคณะกรรมการ
ตัวอย่างป้ายโรงเรียนเอกชนซึ่งแสดงไว้ในบริเวณโรงเรียนเอกชนจะได้รับการยกเว้นภาษีป้าย
กรณีป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนติดไว้นอกบริเวณโรงเรียนหรือ
สถานศึกษาจะต้องเสียภาษีหรือไม่
ในกรณีดังกล่าวต้องดูข้อเท็จจริงตามเงื่อนไขของป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษา
เอกชนที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๘ (๙) ประกอบกับมาตรา ๖ ว่าเป็นป้ายเพื่อการหารายได้หรือไม่ หากเป็น
การหารายได้ก็ต้องเสียภาษี
ตัวอย่างป้ายโรงเรียนเอกชนซึ่งไม่ได้แสดงไว้ในบริเวณโรงเรียนเอกชน
จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย
ปัจจุบันมีสถานกวดวิชาจานวนมากและส่วนมากจะใช้ชื่อว่าโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบัน
กวดวิชานาหน้าชื่อ ปัญหาคือป้ายของโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบันกวดวิชาดังกล่าวนี้ต้องเสียภาษีป้ายหรือไม่ ซึ่ง
กฎหมายให้ยกเว้นโรงเรียนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย
สถาบันศึกษาเอกชน และในกฎหมายดังกล่าวนั้นได้กาหนดไว้ว่าจะต้องมีการวัดผลและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไข
สาคัญของการสาเร็จการศึกษา ดังนั้นป้ายของโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบันกวดวิชาจึงไม่เข้าข้อยกเว้นดังกล่าว
นี้ ถึงแม้บางแห่งจะอ้างว่าได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นสถานกวดวิชาก็ตามก็ไม่ได้ทาให้สถานะ
เปลี่ยนแปลงไปเป็นโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชน เพราะไม่เข้าตามข้อกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
หรือสถาบันศึกษาของเอกชนดังกล่าว
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๔-
ตัวอย่าง ป้ายโรงเรียนกวดวิชาหรือสอนดนตรีไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
ความเห็นของผู้เขียนเรื่องการยกเว้นป้ายตามมาตรา ๘ (๙) แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ.
๒๕๑๐ นี้ ผู้เขียนเห็นว่าตามกฎหมายได้ระบุไว้ว่า “ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ฯลฯ” นั้น คาว่า “ตามกฎหมายว่า
ด้วยโรงเรียนเอกชนและตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน” น่าจะหมายถึงโรงเรียนนั้นได้มีการจัดตั้ง
ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันศึกษานั้นได้มีการจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายด้วย
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งถ้าหากว่าความเห็นของข้าพเจ้าถูกต้องนั้นหมายความว่าป้ายทุกประเภทของ
โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชน
หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะได้รับการยกเว้นภาษีป้าย
เหตุผล ที่สนับสนุนความคิดของข้าพเจ้าคือ
๑. ปัจจุบันมีการจัดตั้งโรงเรียนหรือสถาบันศึกษา โดยเปิดทาการเรียนการสอนลักษณะเป็น
การกวดวิชาหรือติววิชาต่างๆเกิดขึ้นมากมาย โดยไม่ได้เป็นโรงเรียนหรือสถานศึกษาตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่ง
โรงเรียนลักษณะนี้จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย
๒. ถ้าหากมองย้อนกลับไปดูมาตรา ๘ (๖)-(๑๒) จะเห็นว่าใช้คาว่า “ป้ายของ”แล้วตามด้วย
หน่วยงานต่างๆ ป้ายของหน่วยงานนี้มีความหมายครอบคลุมเพียงใด จะหมายถึงเฉพาะป้ายชื่อเหมือนโรงเรียน
หรือสถาบันศึกษาเอกชนหรือไม่ หากไม่ใช่ก็จะไม่มีเหตุผลตอบได้ว่าเพราะเหตุอะไร หรืออาจจะอธิบายได้ว่าป้าย
ตามมาตรา ๘ (๖) - (๑๒) เป็นป้ายของหน่วยงานรัฐหรือนารายได้ส่งรัฐ หรือกิจการที่เป็นการกุศล ก็จะอธิบาย
เหตุผลนี้ได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะมีมาตรา ๘ (๕) ขัดแย้งอยู่ด้วยข้อความว่าป้ายที่แสดงไว้ในอาคารที่ใช้ใน
การประกอบการค้า และกรณีโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชน ก็ได้กาหนดที่ติดตั้งป้ายไว้ว่าต้องติดตั้ง ณ
อาคาร หรือบริเวณโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนเช่นกัน
๓. ในการยกเว้นภาษีป้ายของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนนั้นเป็นไปได้ว่า
ปัจจุบันสถานศึกษาไม่เพียงพอในการรับบุคคลเข้าเรียนเข้าศึกษา ซึ่งโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนก็มี
ส่วนช่วยประเทศชาติในการแก้ปัญหาสถานที่ศึกษามีไม่เพียงพอ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๕-
๔. ปัจจุบันพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติ
โรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ และมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ที่บัญญัติไว้ว่า
“ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดให้มีป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเป็นอักษรไทยขนาดใหญ่พอเห็น ได้ในระยะอันสมควรติดไว้ที่
โรงเรียนหรือบริเวณโรงเรียน ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย”ได้ถูกแก้ไขโดยพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๒๘ “ชื่อของโรงเรียนในระบบต้องใช้อักษรไทยขนาดใหญ่พอสมควรติดไว้ที่บริเวณโรงเรียนในระบบ ณ ที่
ซึ่งเห็นได้ง่าย โดยต้องมีคาว่า “โรงเรียน” ประกอบชื่อด้วย ในกรณีที่มีอักษรต่างประเทศกากับ ต้องไม่มีขนาด
ใหญ่กว่าอักษรไทย และสาหรับโรงเรียนในระบบที่จัดการศึกษาประเภทอาชีวศึกษาทั้งระดับประกาศนียบัตร
วิชาชีพและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงอาจใช้คาว่า “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” หรือ “วิทยาลัยเทคโนโลยี”
ประกอบชื่อแทนคาว่า “โรงเรียน” ก็ได้”
ข้อสังเกต ได้มีการตัดข้อความว่า “ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเอกชน”ออกแล้วใช้คาว่า” “ชื่อ
ของโรงเรียน”แทน นั้นมีจุดมุ่งหมายอย่างไร เป็นการหลีกเลี่ยง การใช้คาว่า “ป้าย”หรือไม่ หรือเพื่อไม่ต้องให้มี
การตีความของคาว่า “ป้ายตามพระราชบัญญัติ”นี้หรือไม่
มาตรา ๘ (๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
อธิบาย
การกาหนดยกเว้นภาษีป้ายในกรณีนี้คงเป็นการเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้นาสินค้าที่ผลิต
ขึ้นมาจาหน่ายเอง สามารถกาหนดราคาได้ทาให้ได้ราคาที่ดี โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและขณะเดียวกันผู้ซื้อก็จะ
ได้สินค้าราคาถูก เช่นเดียวกัน
ข้อควรพิจารณาผู้ประกอบการเกษตรมีความหมายถึงไหนเพียงใด ซึ่งในบางพื้นที่จะมี
ผู้ประกอบการเกษตรขนาดใหญ่มีการจ้างคนทางานในพื้นที่การเกษตรของตน แล้วขายผลผลิตนั้น ดังนี้แล้วจะถือ
ว่าผู้นั้นเป็นผู้ประกอบการเกษตรหรือไม่ กรณีดังกล่าวนี้เห็นว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายในการกาหนดข้อยกเว้น
ภาษีป้ายในกรณีนี้น่าจะหมายถึงผู้ทาการเกษตรจริง ๆ จึงได้กาหนดไว้ในตอนท้ายว่า “จากการเกษตรของตน) แต่
ผู้ประกอบการเกษตรขนาดใหญ่นั้นจะเป็นการประกอบการเกษตรเชิงธุรกิจมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลูกจ้าง และ
มีการนาผลผลิตมาแปรสภาพและจาหน่ายด้วย เช่น ไร่องุ่นแถบจังหวัดนครราชสีมา จึงไม่เข้าข้อยกเว้นนี้
องค์ประกอบของป้ายที่จะได้รับยกเว้นภาษีป้ายตามมาตรา ๘ (๑๐) มีดังนี้
๑. ต้องเป็นป้ายของผู้ประกอบการเกษตรและ
๒. ผู้ประกอบการเกษตรนั้นจะต้องขายผลผลิตอันเกิดจากผลผลิตของตน
ปัจจุบันหากเราเดินทางไปตามต่างจังหวัดจะพบว่ามีผลผลิตทางการเกษตรมีการวางจาหน่าย
อยู่ริมถนนสายหลักเกือบทุกภาค และมีการวางจาหน่ายขายเป็นจุดๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะต้อง
พิจารณาว่าผู้ขายสินค้านั้นเป็นเกษตรกรผู้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรหรือไม่ ซึ่งคงไม่ยากในการพิจารณาเพราะ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะรู้ข้อมูลพื้นที่และประชาชนในเขตพื้นที่นั้นดี แต่ทั้งนี้จะต้องเข้าองค์ประกอบทั้งสอง
ดังกล่าวข้างต้น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๖-
ตัวอย่าง
ข้อเท็จจริงในกรณีป้ายของไร่สุพัตรา ซึ่งปลูกองุ่น มีการขายผลองุ่น มีการแปรรูปผลองุ่นเป็น
น้าองุ่น ดังนี้ถือว่าเป็นผู้ประกอบการเกษตรขายผลผลิตอันเกิดจากผลผลิตของตนหรือไม่
ในกรณีดังกล่าวนี้ผู้เขียนเห็นว่าการดาเนินการของผู้ประกอบการเกษตรตามข้อยกเว้นนี้น่า
เป็นกรณีที่ผู้ประกอบการนาผลผลิตมาขายและมีป้ายบอกราคาหรือชื่อร้านค้าในลักษณะไม่ใช่เชิงพาณิชย์แต่
สาหรับป้ายชื่อของไร่สุพัตรานี้เป็นการดาเนินการเชิงพาณิชย์และมีการค้าขายสินค้าอื่นด้วย ดังนั้น ป้ายตาม
ตัวอย่างนี้ จึงต้องเสียภาษี
มาตร ๘ (๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศล
สาธารณะโดยเฉพาะ
องค์ประกอบของป้ายที่จะได้รับยกเว้นภาษีป้ายตามมาตรา ๗ (๑๑) มีดังนี้
๑. ต้องเป็นป้ายของวัด หรือ
๒. ผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ
การพิจารณาข้อยกเว้นภาษีป้ายในกรณีนี้ ป้ายวัดนั้นจะเป็นป้ายชื่อวัดหรือป้ายของวัดที่
จัดทาขึ้นในกิจการของวัดก็ได้
กรณีผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ ป้ายประเภทนี้หาก
มองถึงวัตถุประสงค์ในการติดตั้งป้ายก็เพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะแล้ว ก็จะไม่
เข้าองค์ประกอบของป้ายที่ต้องเสียภาษี ตามมาตรา ๖ จึงได้รับการยกเว้นภาษี เช่น ป้ายเชิญชวนร่วมทาบุญสร้าง
โบถส์ เป็นต้น
ปัจจุบันในวัดหลายแห่งมีการจาหน่ายพระ หรือเครื่องรางของขลังต่างๆ หากบุคคลอื่นไป
ดาเนินการจาหน่ายและมีการติดตั้งหรือแสดงป้าย เพื่อการประกอบกิจการค้าและหารายได้ก็จะต้องเสียภาษีตาม
หลักกฎหมายที่ผู้เป็นเจ้าของป้ายจะต้องเสียภาษี แต่มีปัญหาว่ากรณีป้ายของวัดที่มีโฆษณาการจาหน่ายพระ หรือ
เครื่องรางของขลังต่างๆเพื่อหารายได้เข้าวัด จะต้องเสียหรือไม่ ซึ่งในข้อยกเว้นได้กาหนดไว้ว่า“เป็นของวัดและ
การกุศลเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ” ผู้เขียนเห็นว่าในกรณีนี้จะต้องกลับไปดู
บทบัญญัติหลักของมาตรา ๖ ที่กาหนดไว้ว่าป้ายที่จะต้องเสียภาษีมีหลักสาคัญคือเพื่อหารายได้ ประกอบกับ
ข้อยกเว้นในมาตรา นี้ ซึ่งกาหนดว่าเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ
ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวจึงไม่เข้ายกเว้นภาษีนี้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๗-
(๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ
สมาคมหรือมูลนิธิเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการกุศลสาธารณะไม่ได้มุ่งหวังหากาไร
กฎหมาย จึงได้กาหนด เว้นให้ในกรณีป้ายของสมาคมและมูลนิธิต่างๆ
(๑๓) ป้ายตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
กระทรวงมหาดไทยอาจออกกฎกระทรวงยกเว้นป้ายบางประเภทได้เช่นที่ผ่านมากรณีมีการ
แข่งขันกีฬาและมีป้ายโฆษณาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการค้า ก็จะมีการออกกฎกระทรวงออกเว้นให้
เป็นการเฉพาะ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันยกเลิกไป
นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงยกเว้นภาษีป้ายเป็นการเฉพาะได้แก่
กฎกระทรวงฉบับที่ ๒ ( พ.ศ. ๒๕๓๕)
ให้เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับ
(๑) ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถบดถนน หรือรถแทรกเตอร์
ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
(๒) ป้ายที่ติดตั้งหรือที่แสดงไว้ที่ล้อเลื่อน ตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(๓) ป้ายติดตั้งหรือแสดงไว้ที่ยานพาหนะนอกเหนือจาก (๑) และ (๒) โดยมีพื้นที่ไม่เกินห้า
ร้อยตารางเซนติเมตร
อธิบาย
ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคล
“รถยนต์ส่วนบุคคล” หมายความว่า
(๑) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน
(๒) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคนแต่ไม่เกินสิบสองคน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มี
น้าหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม ซึ่งมิได้ใช้ประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง
ทางบก
ข้อสังเกต ในการยกเว้นภาษีป้ายในมาตรา ๘ นี้มีการกาหนดข้อความแตกต่างกันในเรื่องของ
สถานที่ติดตั้งป้ายที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งบางกรณีกาหนดไว้ชัดเจนว่าติดตั้งที่ไหนที่จะได้รับการยกเว้น เช่น
มาตรา ๘ (๒) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณา
มหรสพ
(๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
รถยนต์บรรทุกตามภาพนี้เป็นรถบรรทุก
ประกอบการขนส่งไม่เข้าข้อยกเว้นใน(๑)
และไม่เข้าข้อยกเว้นใน (๓) เพราะมีพื้นที่
ป้ายมากกว่า ๕๐๐ ตารางเซนติเมตร ผู้
เป็นเจ้าของต้องเสียภาษีป้าย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๘-
(๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษา
เอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือ
สถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น
แต่มีป้ายที่ได้รับการยกเว้นบางประเภทไม่ได้กาหนดสถานที่ติดตั้งไว้เช่น
(๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
(๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตาม
กฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ
(๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคาร
เพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
(๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
(๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ
โดยเฉพาะ
(๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ
ปัญหาคือป้ายที่ไม่ได้มีการกาหนดสถานที่ติดไว้ ตามมาตรา ๘ (๖)-(๑๒) จะได้รับการยกเว้น
ภาษีหรือไม่ ป้ายของหน่วยงานต่างๆนี้แม้ว่าติดตั้งในสถานที่อื่นก็ได้รับการยกเว้น
ความคิดเห็นในเรื่องนี้ ควรให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์กับผู้ใช้
กฎหมาย
มาตรา ๙ ภาษีป้ายที่เก็บในเขตราชการส่วนท้องถิ่นใด ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่น
นั้น
อธิบาย การจัดเก็บภาษีป้ายยึดถือสถานที่ติดตั้งป้ายเป็นสาคัญ ไม่ว่าสถานที่หรือสานักงาน
ของผู้ประกอบการค้านั้นจะอยู่ที่ใดก็ตามหากมีการเอาป้ายมาติดตั้งสถานที่ใดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด
ก็ต้องไปเสียภาษีป้าย ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น
ภาษีที่จัดเก็บได้ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ก็เป็นรายได้ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นนั้น แต่เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นไม่ชัดเจนเช่นกรณีองค์การบริหารส่วนตาบล มีการเลื่อมล้า
กัน ก็ทาให้เกิดปัญหาในการจัดเก็บภาษีเช่นกัน ซึ่งปัญหาแนวเขตนี้เป็นเรื่องสาคัญมากสาหรับองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะการจัดเก็บภาษีแต่มีผลกระทบกับเรื่องอื่นด้วยเช่นการบริการสาธารณะ
อาจจะเป็นการจัดทานอกเขตปกครองได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
มาตรา ๑๐ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตาม
พระราชบัญญัตินี้
อธิบาย
การแต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีป้ายนี้ได้กาหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น
แต่ละประเภทมีอานาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วก็จะมีอานาจ
ตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๓๙-
มาตรา ๑๑ การส่งคาสั่งเป็นหนังสือ หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นให้แก่บุคคลใด
ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) ให้ส่งในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทาการของ
ผู้รับ
(๒) ให้ส่ง ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ โดยจะส่งทาง
ไปรษณีย์ลงทะเบียนก็ได้
ถ้าไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้
บรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งอยู่หรือทางาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น
ถ้าไม่สามารถจะส่งตามวิธีดังกล่าวได้ ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า
สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น หรือลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสอง
ฉบับ เมื่อได้ปฏิบัติตามวิธีนี้แล้ว และเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ปฏิบัติการ ให้ถือว่าบุคคลนั้น
ได้รับหนังสือนั้นแล้ว
อธิบาย
ในการปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษีป้ายนี้จะมีกระบวนการในการจัดเก็บภาษี ตั้งแต่การมี
หนังสือแจ้งให้มายื่นแบบชาระภาษี มีหนังสือแจ้งการประเมิน หนังสือเร่งรัดให้มาชาระภาษี เป็นต้น ซึ่งกฎหมาย
ได้วางหลักไว้ว่า การที่จะไปส่งหนังสือต่างๆนั้น ให้ดาเนินการไปส่งในเวลากลางวัน ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและ
พระอาทิตย์ตก
แต่ในการประกอบกิจการบางประเภทอาจจะไม่ได้ดาเนินการช่วงกลางวัน กฎหมายได้
กาหนดไว้เป็นพิเศษให้ไปส่งหนังสือในเวลาเปิดกิจการหรือทาการนั้นๆได้ เช่นร้านอาหารที่เปิดในเวลากลางคืน ก็
ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไปส่งในเวลาทาการกลางคืนนั้นได้
หรือให้ส่งทางไปรษณีย์ ไปยังสถานการค้า สถานประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ซึ่ง
ในการส่งทางไปรษณีย์นี้กฎหมายได้กาหนดว่าให้ส่งด้วยการลงทะเบียนก็ได้
ในการส่งทางไปรษณีย์นี้ ผู้เขียนให้ความเห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรส่งเอกสารส่ง
ทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับ เพื่อจะได้เป็นหลักฐานในการดาเนินงานว่าได้มีการดาเนินการถูกต้องทุกขั้นตอนแล้ว
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือหากผู้เสียภาษีไม่มาเสียภาษี จะต้องมีการฟ้องร้องดาเนินคดี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้
มีเอกสารก็สามารถเอาเอกสารหลักฐานนั้นในการดาเนินคดีได้
ในการส่งเอกสารหนังสือนี้กฎหมายได้กาหนดแนวทางการดาเนินงานไว้ว่า กรณีไม่พบผู้รับ ณ
สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือไม่มีที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งอยู่หรือทางาน
ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้เสียภาษีนั้น ผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ได้กาหนดการบรรลุนิติภาวะไว้ ๒ กรณี
๑. 9
บรรลุนิติภาวะด้วยมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์
๒. 10
บรรลุภาวะด้วยการสมรส
9
มาตรา ๑๙ บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะ เมื่อมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์
10
มาตรา ๒๐ ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทาการสมรส หากการ สมรสนั้นได้ทาตามบทบัญญัติ มาตรา 1448
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๐-
กรณีไม่สามารถส่งได้ด้วยวิธีเจ้าหน้าที่ไปส่งเอง หรือส่งไปรษณีย์ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆก็ตามให้
ดาเนินการส่งหนังสือดังนี้
๑. ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัย
ของผู้นั้น
๒. ลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสองฉบับ เมื่อได้ปฏิบัติตามวิธีนี้แล้ว
และเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ปฏิบัติการให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว
หมวด ๒
การยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย
...................................................
มาตรา ๑๒ ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบ
และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด ภายในเดือนมีนาคมของปี
ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย
อธิบาย เจ้าของป้ายในที่นี้รวมทั้งผู้ครอบครองป้าย หรือเจ้าของที่ดินที่ติดตั้งป้ายในกรณีหา
เจ้าของป้ายไม่ได้ จะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ณ สานักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(เทศบาล
หรือองค์การบริหารส่วนตาบล) ที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่ ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
ระยะเวลาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายในมาตรานี้หมายถึงป้ายที่ได้ติดตั้งมาก่อนปีที่
จะมีการจัดเก็บภาษี
หากเป็นป้ายที่ติดตั้งระหว่างปีจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน ๑๕ วันนับตั้งแต่
วันติดตั้งป้าย ตามมาตรา ๑๔ วรรค ๒ ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป
ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น
แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย รายละเอียดดังอธิบายประกอบไว้แล้วใน มาตรา ๗
มาตรา ๑๓ ถ้าเจ้าของป้ายตาย เป็นผู้ไม่อยู่ เป็นคนสาบสูญ เป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็น
คนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ผู้จัดการมรดก ผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือผู้อื่น ผู้จัดการ
ทรัพย์สิน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา ๑๒ แทนเจ้าของป้าย
รายละเอียดดังอธิบายประกอบไว้แล้วใน มาตรา ๗
มาตรา ๑๔ เจ้าของป้ายผู้ใด
(๑) ติดตั้งหรือแสดงป้ายอันต้องเสียภาษีภายหลังเดือนมีนาคม
(๒) ติดตั้งหรือแสดงป้ายใหม่แทนป้ายเดิมและมีพื้นที่ ข้อความ ภาพ และเครื่องหมายอย่าง
เดียวกับป้ายเดิมที่ได้เสียภาษีป้ายแล้ว
(๓) เปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้ายที่ได้เสียภาษี
ป้ายแล้ว อันเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๑-
ให้เจ้าของป้ายตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ติดตั้งหรือแสดงป้าย หรือนับแต่วันเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมาย
ในป้ายเดิม แล้วแต่กรณี
อธิบาย
กรณีตามมาตรา ๑๔ เป็นการกาหนดให้เจ้าของป้ายจะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย
ภายใน ๑๕ วัน ภายหลังจากได้มีการดาเนินการเกี่ยวกับป้ายตาม (๑) – (๓) อาจจะมีข้อสงสัยอยู่บ้างก็เป็น (๑)
กรณีติดตั้งป้ายใหม่ แต่ต้องติดตั้งภายหลังเดือนมีนาคม
ทาไมกฎหมายถึงได้ระบุว่าภายหลังเดือนมีนาคม
เหตุผลเพราะ
- ภาษีป้ายเป็นภาษีที่เก็บล่วงหน้าทั้งปี
- มีผลต่อการเสียหรือจัดเก็บภาษีของผู้เสียภาษี
- ระยะเวลากาหนดให้ยื่นแบบรายการเสียภาษีป้ายเดิมไว้ภายเดือนมีนาคม
- มีการกาหนดการชาระภาษีป้ายไว้ ๔ งวด งวดละ ๓ เดือน ซึ่งงวดที่ ๑ จะอยู่ในช่วงเวลา
มกราคมถึงมีนาคม ซึ่งเสียภาษี ๑๐๐ % หลังจากนั้นก็ลดลงเป็น ๗๕ , ๕๐ และ ๒๕ % ตามลาดับ
มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๑) ให้เสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗
อธิบาย
ตามที่ได้อธิบายมาแล้ว ตามมาตรา ๗ กล่าวคือ ในหนึ่งปีหนึ่งๆมีการกาหนดแบ่งช่วง
ระยะเวลาการจัดเก็บภาษีป้ายไว้ ๔ ช่วง ช่วงระยะเวลาละ ๓ เดือน โดยเริ่มจากมกราคม ถึง มีนาคม เป็นช่วงแรก
ที่จะมีการจัดเก็บภาษีเต็มจานวน หากติดตั้งหลังจากนี้ก็จะคิดภาษีตามช่วงระยะเวลาการติดตั้งดังนี้
ป้ายที่ติดตั้งงวดที่หนึ่งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ %
ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สองระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ %
ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สามระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ %
ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สี่ระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ %
หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๑) จะต้องมีลักษณะดังนี้
(๑.) เป็นป้ายใหม่ที่ติดตั้งหรือแสดงหลังเดือนมีนาคม
(๒.) เป็นป้ายที่ต้องเสียภาษี
หากเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้ก็จะต้องเสียภาษีตามระยะเวลาที่ติดตั้งดังกล่าว
มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๒) ให้ได้รับยกเว้นภาษีเฉพาะปีที่ติดตั้งหรือแสดงป้าย
อธิบาย ภาษีป้ายเป็นภาษีที่จัดเก็บล่วงหน้าเป็นระยะเวลา ๑ ปี
หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๒) จะต้องมีลักษณะดังนี้
๑. ได้เสียภาษีป้ายแล้ว
๒. ติดตั้งหรือแสดงป้ายใหม่แทนป้ายเดิม
๓. มีพื้นที่ ข้อความ ภาพ และเครื่องหมายอย่างเดียวกับป้ายเดิม
๔. การเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องไม่ทาให้เสียภาษีเพิ่ม
หากเข้าเงื่อนไขดังกล่าวก็ไม่ต้องเก็บภาษีป้ายอีก (หลักความเป็นธรรมของกฎหมาย)
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๒-
มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เสียภาษีตาม (๕) ของบัญชีอัตราภาษีป้ายท้าย
พระราชบัญญัตินี้ ถ้าเป็นป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ภาพ และเครื่องหมายทั้งหมดให้เสียภาษีป้ายตาม
มาตรา ๗
อธิบาย
มาตรา ๑๔ ทวิ ที่ได้กาหนดไว้ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เสียภาษีตาม (๕) ของบัญชีอัตรา
ภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ ถ้าเป็นป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ภาพ และเครื่องหมายทั้งหมดให้เสียภาษี
ป้ายตามมาตรา ๗ ได้มีการแก้ไขโดย กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ข้อ (๕) ความว่า ป้ายที่
แก้ไขเปลี่ยนแปลงตามมาตรา ๑๔ (๑๓) ให้คิดอัตราภาษีตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี และให้เสียเฉพาะ
จานวนภาษีที่เพิ่มขึ้น
หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๓) ที่ได้กาหนดให้เสียภาษีเพิ่มเฉพาะ
จานวนภาษีที่เพิ่มขึ้น จะต้องมีลักษณะดังนี้
๑. ได้เสียภาษีป้ายไปแล้ว
๒. เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้าย
๓. การเปลี่ยนแปลงตาม ๒. นั้นเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น
การจัดเก็บภาษีทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นภาษีรายได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หรือเก็บใน
กรณีอื่นๆ รวมทั้งภาษีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บนั้นเป็นการจัดเก็บภาษีจากการกระทาหรือประกอบ
กิจการที่สุจริตแล้วต้องเสียภาษี กฎหมายจึงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษี ในการจัดเก็บ ภาษีป้ายก็เช่นกัน
ที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษี จึงได้กาหนดไว้ในตามมาตรา ๑๔ ทวิ ว่าถ้าเป็นกรณีอย่างนี้แล้วให้จัดเก็บ
ภาษีป้ายอย่างใด
ปัจจุบันหลายพื้นที่อาจจะพบโครงสร้างป้ายที่ให้เช่าพื้นที่ป้ายเพื่อโฆษณา ปัญหา คือผู้มาเช่า
ป้ายนั้นอาจจะเป็นทั้งเจ้าของผู้ประกอบการค้าและเป็นนักการเมืองด้วย ไม่ว่านักการเมืองระดับชาติ หรือท้องถิ่น
ได้มีการเช่าโครงสร้างป้ายนั้นแล้วโฆษณาการค้า ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้เช่าป้ายซึ่งเป็นนักการเมืองได้มี
การลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้เปลี่ยนข้อความป้ายที่โฆษณาสินค้าบนโครงสร้างป้ายนั้นใหม่ทั้งหมดโดย
เปลี่ยนเป็นป้ายประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงของตนหรือพรรคการเมืองของตน เมื่อการเลือกตั้งนั้นผ่านพ้นไป
แล้ว ได้โฆษณาสินค้านั้นใหม่บนโครงสร้างนั้น โดยลบข้อความที่ประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงออก ดังนี้เก็บภาษี
ป้าย ตาม มาตรา ๑๔ ประกอบมาตรา ๑๔ ทวิ ได้หรือไม่อย่างไร
ประเด็นที่ต้องพิจารณา
๑. ป้ายโฆษณาที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ที่ถูกลบแล้วมีป้ายประชาสัมพันธ์ใน
การหาเสียงมาแทนนั้น มีสภาพเป็นเช่นไร
๒. เมื่อมีการจัดทาป้ายโฆษณาที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ขึ้นมาใหม่บน
โครงสร้างเดิมนั้น จะถือว่าเป็นป้ายที่ติดตั้งใหม่หรือไม่อย่างไร
ความเห็นของผู้เขียนเห็นว่า ในกรณีดังกล่าวดังนี้
๑. สภาพป้ายที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ที่ถูกลบแล้วนั้นจะไม่มีสภาพป้าย
เดิมที่มีการแก้ไขข้อความป้าย ตามมาตรา ๑๔ เพราะข้อความประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงใหม่นั้นไม่ได้เป็นป้าย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
-๔๓-
ตาม มาตรา ๖ ที่จะต้องเสียภาษีป้าย และไม่ใช่เป็นป้ายที่เกิดการเสียหาย หรือชารุดแล้วสร้างป้ายใหม่ทดแทน
ป้ายเดิม กรณีนี้เป็นการสมัครใจที่จะยกเลิกป้ายเดิม
๒. เมื่อป้ายเดิมได้สิ้นสภาพป้ายไม่ได้เข้าเงื่อนไขตามมาตรา ๑๔ แล้ว จึงถือว่าเป็นการติดตั้ง
ป้ายใหม่ หากป้ายนั้นเข้าองค์ประกอบตามมาตรา ๖ ก็ต้องเสียภาษีป้ายตามระยะเวลาติดตั้งป้ายในปีนั้นๆ
มาตรา ๑๕ ให้เจ้าของป้ายหรือผู้ซึ่งเจ้าของป้ายมอบหมายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ดังต่อไปนี้
(๑) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ในเขต
ราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
(๒) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งการจดทะเบียนยานพาหนะได้กระทา
ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
(๓) สถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นกาหนด โดยประกาศหรือโฆษณาให้ทราบเป็นเวลาไม่น้อย
กว่าสามสิบวันนับแต่วันประกาศหรือโฆษณา
หลักกฎหมาย ในการชาระภาษีป้ายนั้นกฎหมายได้วางหลักแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้
๑ เจ้าของป้าย หรือผู้ได้รับมอบหมาย มีหน้าที่จะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
๒ สถานที่ยื่นแบบ
(๑) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ในเขต
ราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
(๒) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งได้มีการจดทะเบียนยานพาหนะ
เขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
(๓) สถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นได้กาหนด
(๔) กรณีตามข้อ (๓) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องประกาศหรือโฆษณาให้
ประชาชนทราบเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันประกาศหรือโฆษณา
อธิบาย
จากหลักกฎหมายดังกล่าวจะมีประเด็นก็คือผู้ได้รับมอบหมาย นั้นคือใคร ได้รับมอบหมาย
จากใคร ซึ่งตามมาตรา ๑๕ นี้ได้กาหนดหลักไว้คือเจ้าของป้ายหรือผู้ได้รับมอบหมาย ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้ที่ได้รับ
มอบหมายจะต้องได้รับมอบหมายจากเจ้าของป้ายนั้นเอง แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาประกอบกับมาตรา ๑๒ และ ๑๓
เรื่องผู้จัดการมรดก ผู้แทน ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ฯลฯ บุคคลดังกล่าวนี้สามารถมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแบบแทน
ได้หรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ว่าไม่ให้บุคคลตาม มาตรา ๑๒ และ ๑๓ มอบหมายให้ผู้อื่นยื่น
แบบแสดงรายการเสียภาษีแทน ดังนั้น กรณีกฎหมายไม่ได้บัญญัติห้ามไว้และเพื่อประโยชน์ของในการชาระภาษี
ป้ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเห็นว่าบุคคลดังกล่าวสามารถมอบหมายบุคคลอื่นได้เช่นกัน
มาตรา ๑๖ ในกรณีที่มีการโอนป้าย ให้ผู้รับโอนแจ้งการรับโอนเป็นหนังสือต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันรับโอน
หลักกฎหมาย ผู้รับโอนป้ายจะต้องแจ้งการรับโอนป้ายโดย
๑. ทาเป็นหนังสือแจ้งการรับโอนป้ายยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๔-
๒. ต้องแจ้งภายในสามสิบวัน
อธิบาย
การโอนป้ายจะต้องมีเอกสารเป็นหนังสือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการโอนป้ายสิ่งที่พนักงาน
เจ้าหน้าที่ต้องดาเนินการภายหลังการรับแจ้งการโอนคือ การตรวจสอบว่าป้ายนั้นได้มีการชาระภาษีแล้วหรือไม่
หากไม่ได้ชาระภาษี ก็จะต้องแจ้งให้ผู้รับโอนดาเนินการมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ในกรณีมีการโอน
ภายหลังเดือนมีนาคม แล้วผู้โอนเดิมยังไม่ได้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี เมื่อผู้รับโอนมายื่นภายหลังจะต้อง
เสียเงินเพิ่มเนื่องจากมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเกินกาหนดเวลาที่กฎหมายกาหนด ดังนั้นในการโอนป้าย
หากมีภาระภาษีผูกพัน ผู้รับโอนจะต้องให้ผู้โอนมาชาระภาษีแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนจะทาสัญญาโอน
ป้าย
หมวด ๓
การประเมินภาษีป้ายและการชาระภาษีป้าย
.............................................
มาตรา ๑๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินภาษีป้ายตามหลักเกณฑ์การคานวณภาษีป้ายที่
กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ (๗) ท้ายพระราชบัญญัตินี้และตามอัตราภาษีป้ายที่กาหนดใน
กฎกระทรวง แล้วแจ้งการประเมินเป็นหนังสือไปยังเจ้าของป้าย
หลักกฎหมาย
๑. การประเมินภาษีเป็นอานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
๒. การคานวณภาษีป้ายตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกาหนดบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ(๗)
หรือ
๓. ตามอัตราป้ายที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง
๔. ต้องแจ้งการประเมินเป็นหนังสือ
อธิบาย
พนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมายได้กาหนดไว้ในมาตรา ๑๐ ที่ได้กาหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่นมี
อานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดังนี้
(๑) การส่งคาสั่งเป็นหนังสือ
(๒) ทาหนังสือแจ้งการประเมิน หรือ
(๓) มีหนังสือส่งให้แก่บุคคลอื่น โดยมีหลักว่า
- ส่งในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
- หรือในเวลาทาการของผู้รับ
- ให้ส่ง ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ
- หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ โดยจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
(๔) ถ้าไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ
ให้ส่งแก่ผู้บรรลุนิติภาวะแล้วที่อยู่หรือทางาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่
อยู่อาศัยของผู้นั้น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๕-
(๕) ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่
อาศัยของผู้นั้น
(๖) ลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสองฉบับ
(๗) ระยะเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ดาเนินการตาม (๕) และ (๖) ให้ถือ
ว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว
สาหรับมาตรานี้กาหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ประเมินภาษี เมื่อมีการประเมินภาษี
แล้วก็จะต้องแจ้งการประเมินภาษี ในการแจ้งการประเมินภาษี หากผู้เสียภาษีจะชาระภาษีในวันที่มายื่นแบบ
แสดงรายการภาษีก็ให้ส่งใบแจ้งการประเมินภาษีให้กับผู้มายื่นแบบแสดงการเสียภาษีในวันนั้นๆ แต่หากไม่มีการ
ชาระภาษีในวันนั้น จะต้องแจ้งการประเมินภาษีตามแนวทาง (๓) ถึง (๗)
หลักในการคานวณภาษีป้ายที่กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้าย ได้อธิบายรายละเอียดไว้แล้ว
ในมาตรา ๗
มาตรา ๑๘ ในกรณีที่ปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการสาหรับภาษี
ป้ายใด เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี
ป้าย ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือ
แสดงอยู่ เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลาดับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษีป้ายเป็นหนังสือไป
ยังบุคคลดังกล่าว
ได้อธิบายไว้แล้วในมาตรา ๗
มาตรา ๑๙ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ที่ได้ยื่น
แบบแสดงรายการภาษีป้ายไว้ หรือ ณ สถานที่อื่นใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่กาหนด ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันนับแต่
วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน และให้ถือว่าวันที่ชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นวันชาระภาษีป้าย
การชาระภาษีป้ายจะกระทาโดยวิธีการส่งธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินของธนาคารที่สั่งจ่ายเงิน
ให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ไปยังสถานที่ตามวรรคหนึ่ง โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือส่งโดยวิธีอื่น
ตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดแทนการชาระต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ และให้ถือว่าวันที่ได้ทาการส่งดังกล่าวเป็น
วันชาระภาษีป้าย
หลักกฎหมาย ได้กาหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องปฏิบัติดังนี้
๑. การชาระภาษีป้ายต้องชาระภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
๒. สถานที่ระภาษีป้าย
- สถานที่ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายไว้
- สถานที่อื่นใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่กาหนด
๓. ต้องชาระภาษีภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
๔. วันที่ชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นวันชาระภาษีป้าย
วิธีการชาระภาษี สามารถชาระได้ดังนี้
๑. วิธีการส่งธนาณัติโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น
๒. ตั๋วแลกเงินของธนาคารโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น
๓. ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๖-
๔. ส่งโดยวิธีอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด
๕. วันที่ได้ทาการส่ง ตาม ข้อ ๑ – ๒ เป็นวันชาระภาษีป้าย
อธิบาย การชาระภาษีป้ายนั้นทาได้หลายวิธีนอกจากการชาระภาษีโดยตรงต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ได้ยื่นแบบรายการแสดงภาษีป้าย หรือสถานที่เจ้าพนักงานกาหนด
แล้วยังสามารถชาระด้วยการส่งเงินทางธนาณัติโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ตั๋วแลกเงินของธนาคาร
โดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น การส่งเงินดังกล่าวนั้นต้องลงทะเบียน วันที่ได้ส่งคือวันชาระภาษี
ข้อสังเกต กฎหมายได้กาหนดให้ชาระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่ชาระแก่พนักงาน
เจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๙ ทวิ ถ้าภาษีป้ายที่ต้องชาระมีจานวนตั้งแต่สามพันบาทขึ้นไป ผู้มีหน้าที่เสียภาษี
ป้ายจะขอผ่อนชาระเป็นสามงวด งวดละเท่า ๆ กันก็ได้ โดยแจ้งความจานงเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ
ก่อนครบกาหนดเวลาชาระภาษีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง
การชาระภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ชาระงวดที่หนึ่งก่อนครบกาหนดเวลาชาระภาษีตามมาตรา
๑๙ วรรคหนึ่ง งวดที่สองภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง และงวดที่สามภายในหนึ่งเดือน
นับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง
ถ้าผู้ขอผ่อนชาระภาษีไม่ชาระภาษีป้ายงวดหนึ่งงวดใดภายในกาหนดเวลาตามวรรคสอง ให้
หมดสิทธิที่จะขอผ่อนชาระภาษี และให้นามาตรา ๒๕ (๓) มาใช้บังคับสาหรับงวดที่ยังมิได้ชาระ
หลักกฎหมาย การผ่อนชาระภาษีมีหลักเกณฑ์ดังนี้
๑. ต้องมีเงินภาษีที่จะชาระตั้งแต่ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นไป
๒. ผู้เสียภาษีต้องมีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอผ่อนชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
๓. ระยะเวลาการยื่นหนังสือตามข้อ ๒ ต้องดาเนินก่อนวันครบกาหนดการชาระภาษี
( ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน)
๔. ผ่อนชาระเงินภาษีได้สามงวด งวดละเท่าๆกัน
๕. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๑ ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
๖. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๒ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง
๗. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๓ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง
๘. ผู้เสียภาษีป้ายต้องเสียภาษีป้ายตามกาหนดในแต่ละงวด
๙. ผู้เสียภาษีป้ายไม่ชาระภาษีป้ายในงวดหนึ่งงวดใดภายในเวลาที่กาหนดแต่ละงวดจะหมด
สิทธิ์ที่จะต้องขอผ่อนชาระ
๑๐. ผู้เสียภาษีป้ายที่หมดสิทธิ์ในการผ่อนชาระภาษีป้ายจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อ
เดือนของจานวนเงินภาษีที่ยังไม่ได้ชาระ
อธิบาย
ตามหลักกฎหมายในมาตรานี้แยกได้เป็น ๒ กรณี
๑. หลักแห่งสิทธิ์การขอผ่อนชาระภาษีป้าย
๒. หลักการระงับแห่งสิทธิผ่อนชาระภาษีป้าย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๗-
๑. หลักแห่งสิทธิ์การขอผ่อนชาระภาษีป้าย
กฎหมายได้กาหนดให้มีการแบ่งเบาภาระแก่ผู้ชาระภาษีป้ายด้วยการให้ผ่อนชาระโดยมี
เงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติว่าต้องมีเงินภาษีที่ต้องชาระตั้งแต่สามพันบาทขึ้นไปและให้ทาหนังสือขอผ่อนต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่ สามารถผ่อนชาระภาษีป้ายได้สามงวด จานวนเงินภาษีที่ต้องชาระแต่ละงวดจะแบ่งเท่าๆกัน
การชาระภาษีป้าย งวดแรกภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน งวดที่ ๒ และ
๓ ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันสุดท้ายที่ต้องชาระแต่ละงวด
ประเด็นข้อกฎหมายในวรรคนี้ มีปัญหาที่จะต้องทาความเข้าใจ ๓ ประเด็นหลักดังนี้
๑. การคิดระยะเวลาชาระภาษีคิดอย่างไร
๒. การนับระยะเวลาในแต่ละงวดเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด
ในประเด็นปัญหาดังกล่าวข้างต้นมีความเห็นในการพิจารณาดังนี้
๑. การคิดระยะเวลาชาระภาษีคิดอย่างไรซึ่งกฎหมายกาหนดว่าภายในหนึ่งเดือนภายหลัง
จากการชาระภาษีแต่ละงวดคาว่าหนึ่งเดือนนั้นคิดอย่างไรเนื่องจากหนึ่งเดือนตามปีปฏิทินนั้นต่างกันเดือน
กุมภาพันธ์ มี ๒๘ วัน เดือนที่ลงท้ายด้วยคาว่า “ยน” มี ๓๐ วัน เดือนที่ลงท้ายด้วยคาว่า “คม” มี ๓๑ วัน
หนึ่งปี มี ๑๒ เดือน หรือ ๓๖๕ หรือ ๓๖๖ วัน ดังนี้แล้วเมื่อกฎหมายกาหนดว่าภายในหนึ่งเดือนนั้นจะนับกี่วันเป็น
หนึ่งเดือน ในเรื่องดังกล่าวนี้หากไปคิดตามเดือนต่างๆอาจจะเกิดปัญหาได้ในทางปฏิบัติ จึงให้นับไปจนถึงวันที่ถึง
กาหนดในเดือนถัดไป หรือวันชนวัน เช่นกาหนดชาระวันสุดท้ายของงวดที่ ๑ คือวันที่ ๑๔ เดือนเมษายน และผู้
เสียภาษีได้นาเงินมาชาระในวันที่ ๑๔ เมษายน ระยะเวลาชาระงวดที่ ๒ คือภายในหนึ่งเดือนนับจากวันสุดท้าย
ของการชาระงวดที่ ๑ ดังนั้น จานวนระยะเวลาหนึ่งเดือนของงวดที่สองจะถึงกาหนดครบหนึ่งเดือนคือวันที่ ๑๓
พฤษภาคม
๒. การนับระยะเวลาในแต่ละงวดจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด
กฎหมายกาหนดว่า การชาระภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ชาระงวดที่หนึ่งก่อนครบกาหนดเวลา
ชาระภาษีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง งวดที่สองภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง และงวดที่
สามภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง
การชาระภาษีป้ายงวดแรก กฎหมายกาหนดว่าต้องชาระภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับการ
แจ้งประเมิน เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในระยะเวลาการชาระซึ่งกฎหมายกาหนดให้ชาระภายในเวลาที่กาหนด
แต่ละงวด จึงขอยกตัวอย่างให้เห็นดังนี้
นาย ก. ต้องเสียภาษีป้ายจานวน ๙,๐๐๐ บาท ได้มีหนังสือขอผ่อนชาระภาษีต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ และนาย ก ได้รับใบแจ้งการประเมินภาษีวันที่ ๕ มีนาคม ซึ่งกฎหมายกาหนดว่าต้องมาชาระภายใน
๑๕ วัน นับจากวันได้รับการแจ้งประเมินภาษีป้าย ดังนั้นนาย ก จะต้องมาชาระภาษีระหว่างวันที่ ๖ ถึง ๒๐
มีนาคม วันครบกาหนดชาระภาษีป้ายคือ ๒๐ มีนาคม (หากเสียภายหลังวันที่ ๒๐ มีนาคม จะต้องเสียเงินเพิ่ม)
ถ้าหากนาย ก มาชาระภาษีงวดแรก ใน ๑๕ มีนาคม ดังนี้แล้วการนับระยะเวลางวดที่สองของนาย ก คือวันที่๒๐
มีนาคม (นับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง) ไม่ได้นับจากวันที่ ๑๕ มีนาคม
๒. หลักการระงับแห่งสิทธิผ่อนชาระภาษีป้าย
เมื่อผู้ขอผ่อนชาระภาษีป้ายผิดนัดไม่ชาระภาษีป้ายในงวดหนึ่งงวดใด จะมีผลดังนี้
- สิทธิ์ที่ได้รับผ่อนชาระภาษีป้ายจะสิ้นสุดลง
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๘-
- ผู้ขอผ่อนชาระภาษีป้ายจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนตามจานวนเงินภาษีที่ยัง
ไม่ได้ชาระ
มาตรา ๑๙ ตรี ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยใน
สถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการ
หลักกฎหมาย
ผู้ที่เสียภาษีป้ายจะต้องแสดงหลักฐานการเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยในสถานที่
ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการกิจการอื่น
อธิบาย กฎหมายมาตรานี้เป็นการบังคับให้ผู้เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษี
หลักฐานการเสียภาษีในที่นี้คือ ใบเสร็จรับเงินภาษีป้าย โดยปิดไว้ในที่เปิดเผย
มาตรา ๒๐ ภาษีป้ายจานวนใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งการประเมินแล้วถ้ามิได้ชาระ
ภายในเวลาที่กาหนด ให้ถือเป็นภาษีป้ายค้างชาระ
หลักกฎหมาย
๑. พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษี
๒. ผู้ต้องชาระภาษีป้ายไม่ชาระภาษีภายในกาหนดเป็นภาษีค้างชาระ
อธิบาย หลักการสาคัญของภาษีป้ายค้างชาระคือจะต้องมีการประเมินภาษีและแจ้งการ
ประเมินภาษีเสียก่อน หากไม่มีการแจ้งการประเมินยังไม่ถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ และเมื่อได้รับแจ้งการประเมิน
แล้วไม่ไปชาระภาษีป้ายตามกาหนด ๑๕ วัน นับจากวันได้รับใบแจ้งการประเมิน
ตัวอย่าง
นาย ก. ได้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้ายแล้ว แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ประเมิน
ภาษีป้ายของนาย ก ถึงแม้นว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานเท่าใดก็ตาม ยังไม่ถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ และไม่ต้องเสีย
เงินเพิ่ม
แต่หากนาย ก ได้รับใบแจ้งการประเมินแล้วไม่ไปชาระภาษีภายใน ๑๕ วัน นับจากวันได้รับ
ใบแจ้งการประเมิน จึงถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ
มาตรา ๒๑ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ยึดหรืออายัดและขาย
ทอดตลาดทรัพย์สินของผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่ค้างชาระ เพื่อนาเงินมาชาระค่าภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมและ
ค่าใช้จ่ายโดยมิต้องขอให้ศาลสั่งหรือออกหมายยึด ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนด
การยึดทรัพย์สินจะกระทาได้ต่อเมื่อได้ส่งคาเตือนเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระ
ภาษีป้ายที่ค้างชาระภายในกาหนดไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่รับหนังสือนั้น
การขายทอดตลาดทรัพย์สินจะกระทามิได้ในระหว่างระยะเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๐
มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ หรือมาตรา ๓๓ เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะเป็นของเสียง่าย
วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน เพื่อให้ได้รับภาษีป้ายที่ค้างชาระ ให้นาวิธีการ
ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๔๙-
หลักกฎหมาย
๑. ผู้มีอานาจการออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินคือ
ผู้บริหารท้องถิ่น
๒. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายค้างภาษีป้าย
๓. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ส่งคาเตือนเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระภาษี
ป้ายที่ค้างชาระภายในกาหนดไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่รับหนังสือ
๔. ในระหว่างระยะเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ หรือมาตรา ๓๓ จะ
ขายทอดตลาดทรัพย์สินไม่ได้ เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะเป็นของเสียง่าย
๕. วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ดาเนินการประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยึด
อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๑ และแก้ไขเพิ่มเติม
อธิบาย
การยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างชาระภาษีป้ายนั้น มีความหมายว่า
อย่างไร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้กาหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยึด อายัด และขายทอดตลาด
ทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๑ และแก้ไขเพิ่มเติม ได้กาหนดคาจากัดดังกล่าวไว้ว่า
“ยึด” หมายความว่า การกระทาใด ๆ ต่อทรัพย์สินของผู้ค้างภาษี เพื่อให้ทรัพย์สินนั้นได้เข้า
มาอยู่ในความดูแลหรือครอบครองของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ได้รับมอบหมาย
“อายัด” หมายความว่า การสั่งให้ผู้ค้างภาษีหรือบุคคลภายนอกมิให้จาหน่าย จ่ายโอนหรือ
กระทานิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องที่ได้สั่งอายัดไว้ รวมตลอดถึงการสั่งบุคคล ภายนอก มิ
ให้นาส่งทรัพย์สินหรือชาระหนี้แก่ผู้ค้างภาษี และให้ส่งมอบหรือชาระหนี้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแทน
“ขายทอดตลาด” หมายความว่า การนาเอาทรัพย์สินของผู้ค้างภาษีออกขายโดยวิธีให้สู้ราคา
กันโดยเปิดเผย
ในการดาเนินการยึด อายัด และขายทรัพย์สินทอดตลาดนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้อง
ดาเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯดังกล่าว
โดยเฉพาะการมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้มีหน้าที่ค้างชาระภาษีมาเสียภาษีภายในกาหนดเวลาไม่
น้อยกว่า ๗ วัน นับแต่วันได้รับหนังสือนั้น
ข้อควรคานึงในการยึด อายัดทรัพย์สินของบุคคลผู้ค้างชาระภาษีป้ายนั้น ถ้าหากบุคคลนั้นมี
ทรัพย์สินหลายรายการจะต้องพิจารณา ยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่เพียงพอต่อการชาระภาษีที่ค้างชาระ
เท่านั้น
มาตรา ๒๒ เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ให้หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด
หรือขายทอดตลาด เหลือเท่าใดให้ชาระเป็นค่าภาษีป้าย ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์สินนั้น
หลักกฎหมาย
เงินที่ได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินได้ดาเนินการดังนี้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๐-
๑. จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด หรือขายทอดตลาด เป็นอันดับแรก
๒. จ่ายเป็นค่าภาษีป้าย
๓. หากมีเงินเหลือส่งคืนเจ้าของ
ตามหลักกฎหมายนี้เป็นการแจกแจงการนาเงินที่ขายทอดตลาดมาจ่ายโดยกาหนดให้ใช้จ่าย
เป็นลาดับคือ จ่ายในการดาเนินการยึด อายัด หรือขายทอดตลาด จ่ายเป็นเงินภาษีป้าย ส่วนที่เหลือคืนเจ้าของ
ป้าย
มาตรา ๒๓ เมื่อได้มีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ตามมาตรา ๒๑ วรรคหนึ่งแล้ว ถ้าได้มีการ
ชาระภาษีป้ายที่ค้างชาระ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินโดยครบถ้วนก่อนการขาย
ทอดตลาด ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรืออายัดนั้น
หลักกฎหมาย
๑. ได้มีการยึด อายัดทรัพย์สินไว้แล้ว
๒. ยังไม่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินยึด อายัดไว้
๓. ผู้ค้างชาระภาษีป้ายได้นาเงินมาชาระภาษีที่ค้างชาระ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการ
ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน
๔. ได้ชาระเงินครบถ้วน
๕. ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรืออายัด
เป็นกรณีที่ผู้ค้างภาษีป้ายได้นาเงินมาชาระค่าภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการยึด
หรืออายัดทรัพย์สินมาชาระครบถ้วนแล้วให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรือ
อายัดทรัพย์สินที่ยึด อายัดไว้
มาตรา ๒๔ ผู้ใดเสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียหรือเสียเกินกว่าที่ควรต้องเสีย ผู้นั้นมี
สิทธิได้รับเงินคืน
การขอรับเงินคืน ให้ยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายภายใน
หนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย ในการนี้ให้ผู้ยื่นคาร้องส่งเอกสาร หลักฐานหรือคาชี้แจงใด ๆ ประกอบคาร้องด้วย
เมื่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายเห็นว่าผู้ยื่นคาร้องมีสิทธิได้รับเงินคืน
ให้สั่งคืนเงินให้โดยเร็ว และแจ้งให้ผู้ยื่นคาร้องทราบเพื่อมาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
การกระทาใด ๆ เพื่อให้เสียภาษีป้ายน้อยลงกว่าที่ได้เสียไปแล้ว ให้มีผลเมื่อเริ่มต้นปีภาษีป้าย
หลักกฎหมาย
สิทธิรับคืนภาษี
๑. เสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่เสีย
๒. เสียเกินกว่าที่ควรจะเสีย
๓. ผู้ชาระภาษีเกินต้องยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย
๔. ระยะเวลาในการยื่นคาร้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๑-
๕. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องแจ้งการได้คืนภาษีป้ายให้ผู้ยื่นคาร้องทราบถึง
๖. มาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
อธิบาย
การขอคืนเงินภาษีป้ายที่ชาระไปแล้วคืนมีสองกรณี ซึ่งในกรณีดังนี้
๑. กรณีเสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่เสีย ซึ่งกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะหลักการ
จัดเก็บภาษีป้ายนั้นเก็บจากเจ้าของป้าย และพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทราบเจ้าของป้ายก่อนถึงจะมีการเก็บภาษี
จัดและกระบวนการจัดเก็บภาษีนั้นเจ้าของจะต้องมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี มีการประเมินภาษี การจัดเก็บ
ภาษีหรือเสียภาษีออกใบเสร็จรับเงิน ซึ่งในระหว่างอยู่ในกระบวนการจัดเก็บภาษี ผู้นั้นสามารถโต้แย้งได้ว่าตนไม่มี
ป้ายที่จะต้องเสียภาษี
๒. กรณีเสียเกินกว่าที่ควรจะเสียอาจจะเกิดได้หลายกรณีตัวอย่างเช่น กรณีวินิจฉัยประเภท
ภาษีผิดเพราะปัจจุบันมีการจัดทาข้อความป้ายเพื่อหลีกเลี่ยงประเภทภาษีที่สูงกว่าโดยเฉพาะประเภทที่สองและ
ประเภทที่สาม ข
วิธีปฏิบัติในการขอคืนภาษีป้าย
๑. ให้ยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย
๒. ต้องยื่นคาร้องภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย
๓. ให้ผู้ยื่นคาร้องส่งเอกสาร หลักฐานหรือคาชี้แจงใด ๆ ประกอบคาร้อง
๔. ผู้ขอรับเงินภาษีคืนจะต้องมารับเงินภาษีคืนภายในหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งให้ไปรับ
เงินภาษีคืน
หมวด ๔
เงินเพิ่ม
................................................
มาตรา ๒๕ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายเสียเงินเพิ่มนอกจากเงินที่ต้องเสียภาษีป้ายในกรณีและ
อัตรา ดังต่อไปนี้
(๑) ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของ
จานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้ายเว้นแต่กรณีที่เจ้าของป้ายได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่
จะได้แจ้งให้ทราบถึงการละเว้นนั้นให้เสียเงินเพิ่มร้อยละห้าของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย
(๒) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ทาให้จานวนเงินที่จะต้องเสียภาษีป้ายลด
น้อยลง ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของภาษีป้ายที่ประเมินเพิ่มเติม เว้นแต่กรณีที่เจ้าของป้ายได้มาขอแก้ไขแบบ
แสดงรายการภาษีป้ายให้ถูกต้องก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน
(๓) ไม่ชาระภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนของจานวนเงิน
ที่ต้องเสียภาษีป้าย เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน ทั้งนี้ ไม่ให้นาเงินเพิ่มตาม (๑) และ (๒) มาคานวณเป็นเงิน
เพิ่มตามอนุมาตรานี้ด้วย
หลักกฎหมาย
ผู้เสียภาษีจะต้องเสียเงินเพิ่ม ในกรณีดังนี้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๒-
๑. ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด
- เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย
- กรณีที่เจ้าของป้ายได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้แจ้ง
ให้ทราบให้เสียเงินเพิ่มร้อยละห้าของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย
๒. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้องเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายลดน้อยลง
- เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของภาษีป้ายที่ประเมินเพิ่มเติม
ข้อยกเว้น เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหากได้ขอแก้ไขแบบแสดงรายการภาษีป้ายให้
ถูกต้องก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน
๓. ไม่ชาระภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด
- ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย
- เศษของหนึ่งเดือนให้คิดเป็นหนึ่งเดือน
๔. ไม่ให้นาเงินเพิ่มกรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนดและยื่นแบบ
แสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้องมาคิดเป็นกรณีไม่ชาระภาษีภายในเวลาที่กาหนดเพื่อคิดเงินเพิ่มร้อยละสอง
มาตรา ๒๖ เงินเพิ่มตามมาตรา ๒๕ ให้ถือว่าเป็นภาษีป้าย
หมวด ๕
พนักงานเจ้าหน้าที่
...........................................
มาตรา ๒๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจดังต่อไปนี้
(๑) เข้าไปในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของผู้มีหน้าที่เสีย
ภาษีป้าย หรือบริเวณที่ต่อเนื่องกับสถานที่ดังกล่าว หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีป้ายในระหว่างพระ
อาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทาการ เพื่อตรวจสอบว่าผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายได้ปฏิบัติการถูกต้อง
ตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่
(๒) ออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคาหรือให้ส่งบัญชีหรือเอกสาร
เกี่ยวกับภาษีป้ายมาตรวจสอบภายในกาหนดเวลาอันสมควร
หลักกฎหมาย
เป็นการกาหนดวิธีในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดังนี้
๑. การเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการของผู้ประกอบการที่เสียภาษีป้ายจะต้องเข้าไป
สถานที่นั้นๆ
๑.๑ ในเวลาระหว่างอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
๑.๒ ในเวลาทาการประกอบการนั้น
๒. มีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคา
๓. มีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายส่งบัญชีหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษี
ป้ายมาตรวจสอบ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๓-
ตามหลักกฎหมายนี้เป็นการกาหนดอานาจให้เจ้าพนักงานที่ได้รับคาสั่งแต่งตั้งมีอานาจเข้าไป
ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับป้าย เวลาปกติ คือระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ในกรณีการประกอบกิจการบาง
ประเภทดาเนินการในเวลากลางคืน กฎหมายจึงให้อานาจเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้ในเวลาทาการ
นั้น
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการกลางคืน จะมีป้ายลักษณะเป็นกล่องพลาสติก
สี่เหลี่ยมระบบไฟฟ้า ติดตั้งบนขาเหล็กมีล้อเลื่อนสามารถลากเคลื่อนย้ายได้ ในเวลากลางวันไม่ได้ประกอบการก็จะ
เก็บไว้ เวลากลางคืนประกอบการก็จะนามีติดตั้งไว้หน้าสถานประกอบการ ดังนี้จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงาน
เจ้าหน้าที่สามารถจะเข้าไปตรวจสอบในเวลากลางคืนซึ่งประกอบการได้
มาตรา ๒๘ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจาตัวเมื่อ
บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องร้องขอ
บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง
หลักกฎหมาย
ต้องการให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีการแสดงหลักฐานบัตรประจาตัวต่อผู้เสียภาษี ในการเข้า
ไปตรวจสอบ เมื่อผู้ประกอบการขอให้แสดงตน
มาตรา ๒๙ เมื่อปรากฏว่าเจ้าของป้ายมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย หรือยื่นแบบแสดง
รายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจแจ้งการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่
พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน
หลักกฎหมาย
๑. เจ้าของป้ายมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย
๒. เจ้าของป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง
๓. พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจแจ้งการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปี
คาอธิบาย
ในกรณีดังกล่าวนี้เป็นการให้อานาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการแจ้งการประเมินให้เสียภาษี
ป้ายย้อนหลังได้ แต่การประเมินจะย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน
กฎหมายภาษีป้ายได้กาหนดระยะเวลาการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปี ซึ่งการที่
พระราชบัญญัติป้ายได้กาหนดในเรื่องระยะเวลานี้ไว้เป็นการเฉพาะ นั้นอาจเกี่ยวเนื่องจากอายุความตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้มีการกาหนดอายุความทั่วไปเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี
หมวด ๖
การอุทธรณ์
......................................................
มาตรา ๓๐ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษีป้ายแล้วเห็นว่าการประเมิน
นั้นไม่ถูกต้อง มีสิทธิอุทธรณ์การประเมินต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายได้ภายในสามสิบ
วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๔-
การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด
การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการชาระภาษีป้าย เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้บริหารท้องถิ่น
หลักกฎหมาย
การอุทธรณ์ภาษีป้ายได้จะต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายดังนี้
๑. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายจะต้องได้รับแจ้งการประเมินภาษีป้าย
๒. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง
๓. การอุทธรณ์ต้องอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายได้
๔. ระยะเวลาในการอุทธรณ์ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
๕. การยื่นอุทธรณ์ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
๖. การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการชาระภาษีป้าย
๗. เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้บริหารท้องถิ่น
อธิบาย
การอุทธรณ์ภาษีป้ายมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ภาษีป้ายเมื่อเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งการ
อุทธรณ์นั้นต้องอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย การอุทธรณ์ต้องยื่นภายใน ๓๐ วัน
โดยยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ปัญหาในการปฏิบัติผู้เสียภาษีจะเข้าใจว่าเมื่อตนยื่นอุทธรณ์แล้ว การชาระภาษีก็ชะลอไปด้วย
กล่าวคือคิดว่าจะไปชาระภาษีเมื่อได้มีคาอุทธรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในกรณีดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเมื่อ
ได้รับคาร้องยื่นอุทธรณ์จากผู้เสียภาษีป้ายแล้วจะต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า การอุทธรณ์นี้ไม่เป็นเหตุให้มีการ
ชะลอการชาระภาษี การชาระภาษีจะต้องชาระภายในกาหนดเวลา ๑๕ วันนับจากวันได้รับแจ้งการประเมิน ถ้า
หากระหว่างรอการพิจารณาอุทธรณ์เมื่อถึงกาหนดชาระภาษีป้ายก็จะต้องชาระ มิเช่นนั้นแล้วจะต้องเสียเงินเพิ่ม
ร้อยละสองต่อเดือนของเงินที่ต้องชาระภาษี แต่เมื่อชาระภาษีตามกาหนดแล้วในเวลาต่อมาหากผู้บริหารท้องถิ่น
พิจารณาอุทธรณ์แล้วมีการพิจารณาลดค่าภาษีให้ในภายหลังก็สามารถขอคืนภาษีได้ แต่กฎหมายพระราชบัญญัติ
ป้ายนี้ก็ได้ตัดสิทธิ์ผู้เสียภาษีป้ายเลยที่เดียว ยังให้สิทธิ์ผู้เสียภาษีที่จะยื่นคาร้องขอชะลอการชาระภาษีไว้ แต่การ
ชะลอการชาระภาษีป้ายได้ต่อเมื่อผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติ
นอกจากนี้แล้วในการอุทธรณ์ภาษีป้ายนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องชี้แจงวิธีการอุทธรณ์ตามแบบ ภป. ๔
และหน้าที่ที่ผู้อุทธรณ์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้เข้าใจ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาจจะมีผลให้ผู้บริหารยก
คาร้องอุทธรณ์ได้ และควรให้ผู้อุทธรณ์จัดทาแบบอุทธรณ์ ปภ. ๔ จานวนสองฉบับเพื่อเก็บไว้เป็นสาเนาหนึ่งฉบับ
สาหรับพนักงานเจ้าหน้าเมื่อได้รับคาร้องอุทธรณ์แล้วจะต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับโดยเร็ว
มาตรา ๓๑ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาอุทธรณ์ ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น
มอบหมายอาจมีหนังสือเรียกผู้อุทธรณ์มาให้ถ้อยคาเพิ่มเติมหรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อ
ประกอบการพิจารณาได้
ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในสามสิบวันตามมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ไม่ปฏิบัติตามหนังสือ
เรียก ไม่ยอมให้ถ้อยคา หรือไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ผู้บริหารท้องถิ่น
หรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจยกอุทธรณ์นั้นเสียได้
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๕-
หลักกฎหมาย
ในการพิจารณาอุทธรณ์ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจดังนี้
๑. เรียกผู้อุทธรณ์มาให้คาเพิ่มเติม
๒. ให้ผู้อุทธรณ์ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้
๓. กรณีผู้อุทธรณ์
- ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก
- ไม่ยอมให้ถ้อยคา
- ไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจยกอุทธรณ์ได้
อธิบาย
ตามหลักกฎหมายเป็นการกาหนดอานาจของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น
มอบหมายไว้ว่าในการพิจารณาอุทธรณ์นั้น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสามารถเรียกให้ผู้
อุทธรณ์หรือผู้ที่จะต้องเสียภาษีมาให้ถ้อยคาเพิ่มเติม หรือส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้
แต่ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์
- ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก
- ไม่ยอมให้ถ้อยคา
- ไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ผลของการไม่ปฏิบัติตามนี้กฎหมายให้อานาจผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายยกอุทธรณ์นั้นได้
มาตรา ๓๒ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จ
ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ และแจ้งคาวินิจฉัยพร้อมด้วยเหตุผลเป็นหนังสือไปยังผู้อุทธรณ์และ
พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทาการประเมินโดยเร็ว
หลักกฎหมาย
เป็นการกาหนดเวลาในการดาเนินพิจารณาอุทธรณ์ไว้หกสิบวัน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและ
เมื่อมีการพิจารณาอุทธรณ์แล้วจะต้องแจ้งคาวินิจฉัยอุทธรณ์นั้นพร้อมเหตุผลเป็นหนังสือไปยังผู้อุทธรณ์และ
พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทาการประเมินโดยเร็ว ปัญหาเวลาในการส่งคาวินิจฉัยใช้คาว่า “โดยเร็ว” คือภายในกี่วัน
ไม่ได้กาหนดให้ชัดเจนเหมือนกับระยะเวลาการวินิจฉัยอุทธรณ์
มาตรา ๓๓ ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คาวินิจฉัยของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น
มอบหมายโดยฟ้องเป็นคดีต่อศาลภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคาวินิจฉัยอุทธรณ์เว้นแต่ในกรณีที่เป็นการ
ยกอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง
การฟ้องคดีตามวรรคหนึ่งจะกระทาได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา
๓๐ แล้ว
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๖-
หลักกฎหมาย
ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คาวินิจฉัยของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย
โดย
๑. ยื่นฟ้องคดีต่อศาล
๒. ยื่นฟ้องภายในกาหนดเวลา ๓๐ วัน
๓. จะต้องมีการยืนอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นแล้ว
๔. ผู้บริหารท้องถิ่นมีคาวินิจฉัยแล้ว
อธิบาย
การดาเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลในกรณีนี้จะเป็นกรณีที่ผู้เสียภาษีป้ายได้มีการยื่นการ
อุทธรณ์การประเมินภาษีป้ายแล้วและไม่พอใจคาวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นก็สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาล
ได้ การฟ้องคดีต่อศาลผู้เสียภาษีจะต้องดาเนินการภายใน ๓๐ วัน
แต่การที่ผู้เสียภาษีป้ายจะฟ้องคดีต่อศาลได้นั้น ผู้เสียภาษีป้ายจะต้องปฏิบัติตามมาตรา ๓๐
คือยื่นอุทธรณ์การประเมินภาษีป้ายต่อผู้บริหารท้องถิ่นแล้วภายใน ๓๐ วันแล้ว และจะต้องให้ความร่วมมือใน
ขั้นตอนของการวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๓๑ กล่าวคือ
๑. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหนังสือเรียกในขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร
๒. ให้ความร่วมมือในการให้ถ้อยคาในขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร
๓. ให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร
ตามเหตุอันสมควร
เหตุที่ต้องให้ความร่วมมือดังกล่าว เพราะหากผู้เสียภาษีป้ายไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นเหตุให้
ผู้บริหารท้องถิ่นยกคาร้องอุทธรณ์ภาษีป้ายได้ จะไม่สามารถนาคดีฟ้องต่อศาลได้
ข้อสังเกต
การฟ้องคดีต่อศาลได้จะต้องมีกระบวนดาเนินการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในขั้นตอน
การยื่นคาอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่น ต้องให้ความร่วมมือในขั้นตอนการวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นและ
ผู้บริหารท้องถิ่นได้มีการวินิจฉัยการอุทธรณ์นั้นแล้วเป็นหลักสาคัญ
มาตรา ๓๓ ทวิ ในกรณีที่มีคาวินิจฉัยอุทธรณ์ถึงที่สุดให้คืนเงินค่าภาษีป้ายให้แก่ผู้อุทธรณ์ ให้
ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบโดยเร็วเพื่อมาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปี
นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
หลักกฎหมาย
๑. การรับเงินคืนผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายต้องแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ (ผู้
เสียภาษีป้าย)ทราบโดยเร็ว
๒. ผู้อุทธรณ์ต้องมารับเงินคืนภายใน ๑ ปี
อธิบาย
กรณีศาลมีคาวินิจฉัยอุทธรณ์ถึงที่สุดให้คืนเงินภาษี ให้ผู้บริหารท้องถิ่น แจ้งให้ผู้อุธรณ์ทราบ
และได้มีการกาหนดว่าผู้อุทธรณ์จะต้องมารับเงินคืนภายใน ๑ ปีนับตั้งแต่วันได้รับแจ้งให้มารับเงินคืน
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
-๕๗-
เนื่องจากกฎหมายกาหนดระยะเวลาในการรับเงินภาษีคืน ดังนั้นในการปฏิบัติการแจ้งนี้นั้น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องมีหลักฐานการแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบ เพื่อใช้เป็นการนับระยะเวลาในการมารับ
เงินภาษีคืน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรที่จะส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ จะได้มีหลักฐานการรับแจ้งจากผู้อุทธรณ์
แต่การส่งทางไปรษณีย์นี้ กฎหมายได้กาหนดไว้ว่าให้สามารถส่งให้กับบุคคลที่บรรลุนิติภาวะได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ผู้
อุทธรณ์อาจจะไม่รับการแจ้งก็ได้
หมวด ๗
บทกาหนดโทษ
..........................................
มาตรา ๓๔ ผู้ใดโดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ให้ถ้อยคาเท็จ ตอบ
คาถามด้วยถ้อยคาอันเป็นเท็จ หรือนาพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสีย
ภาษีป้าย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
หลักกฎหมาย
๑. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
๒. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจให้ถ้อยคาเท็จ
๓. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจตอบคาถามด้วยถ้อยคาอันเป็นเท็จ
๔. นาพยานหลักฐานเท็จมาแสดง
๕. เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีป้าย
อธิบาย
การที่บุคคลใดกระทาการตามหลักกฎหมายดังกล่าวมานั้นตามข้อ ๑ – ๔ ประกอบกับข้อ ๕
ก็จะมีความผิดต้องรับโทษ ทั้งนี้ โทษดังกล่าวเป็นบทกาหนดโทษทางความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมี
โทษร้ายแรงถึงขั้นจาคุก
มาตรา ๓๕ ถึง มาตรา ๓๙ เป็นบทกาหนดโทษในกรณีต่างๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
ป้าย ซึ่งมีโทษหนักเบาแตกต่างกันไป เช่น
มาตรา ๓๕ ผู้ใดจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาท
ถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา ๓๕ ทวิ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗ วรรคสาม คือ ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์
ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตารางเมตรต้องมีชื่อและที่อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวา
ด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้าย ต้องระวางโทษปรับวันละหนึ่งร้อยบาทเรียงรายวัน
ตลอดระยะเวลาที่กระทาความผิด
มาตรา ๓๖ ผู้ใดไม่แจ้งการรับโอนป้ายตามมาตรา ๑๖ (คือให้ผู้รับโอนแจ้งการรับโอนเป็น
หนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันรับโอน)
หรือไม่แสดงการเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๑๙ ตรี (คือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐาน
การเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการ)
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๘-
ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๓๗ ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ (๑) (คือเข้าไป
ในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย หรือบริเวณที่ต่อเนื่อง
กับสถานที่ดังกล่าว หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีป้ายในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
หรือในเวลาทาการ เพื่อตรวจสอบว่าผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายได้ปฏิบัติการถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่)
หรือไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ๒๗ (๒) (คือออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่
เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคาหรือให้ส่งบัญชีหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษีป้ายมาตรวจสอบภายในกาหนดเวลาอันสมควร)
ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
มาตรา ๓๘ ในกรณีมีผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่ง
ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายเห็นว่าเป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษจาคุกหรือปรับและโทษจาคุกไม่
เกินหกเดือน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑)ในเขตกรุงเทพมหานครให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการ
กรุงเทพมหานคร มอบหมาย เป็นผู้มีอานาจเปรียบเทียบ
(๒) ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นยกเว้นเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่ง
ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายของแต่ละเขต เป็นผู้มีอานาจเปรียบเทียบ
เมื่อผู้ต้องหาได้ชาระเงินค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
เปรียบเทียบ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับภายใน
กาหนด เวลาดังกล่าว ให้ดาเนินคดีต่อไป
หลักกฎหมาย
๑. เป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว
๒. มีโทษจาคุกหรือปรับและโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน
๓. เมื่อผู้ต้องหาได้ชาระเงินค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
เปรียบเทียบ
๔. ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้
๕. ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
อธิบาย
ในกรณีนี้เป็นการให้อานาจผู้บริหารมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ ถ้าหากว่าเป็น
ความผิดที่มีบทลงโทษตามข้อ ๑ - ๒ และผู้ต้องหาชาระค่าปรับมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ และเมื่อได้
ดาเนินการในกรณีนี้ครบถ้วนแล้วให้คดีเลิกกัน
แต่ในกรณีผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับ
ภายในกาหนด เวลาดังกล่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะให้ดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มาตรา ๓๙ เงินค่าปรับตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ
นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น
นิติกรชานาญการ สถ.
- ๕๙-
หลักกฎหมาย
เงินค่าปรับการกระทาความผิดภาษีป้ายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดก็จะเป็นรายได้ของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มาตรา ๓๙ ทวิ11
ในกรณีที่ผู้กระทาความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติ
บุคคล กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาหรับความผิดนั้น ๆ
ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทาความผิดของนิติบุคคลนั้น
หลักกฎหมาย
๑. นิติบุคคลกระทาความผิด
๒. ผู้ต้องรับโทษคือกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้น
๓. ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทาความผิดของนิติบุคคล
อธิบาย
นิติบุคคลเป็นบุคคลตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อนิติบุคคลกระทาความผิดกฎหมายจึงต้อง
กาหนดให้มีผู้รับผิดชอบในความผิดนั้น หากพิจารณาตามบุคคลดังกล่าวที่รับผิดตามบทบัญญัตินี้ก็คือผู้บริหารของ
นิติบุคคลนั้นเอง
.............................................................

More Related Content

PDF
คำอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. 2510
PDF
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
PDF
ภาษี อ.ปู
PDF
ภาษีบุคคล
คำอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. 2510
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และแก้ไขเ...
ภาษี อ.ปู
ภาษีบุคคล

Similar to อธิบายภาษีป้าย (6)

DOCX
เจาะข้อสอบ พรบ
PDF
3 เทศบาล
PDF
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการหรือพนัก...
PDF
บรรยายการจัดทำแผน และ งบประมาณ
PDF
ระเบียบวิธีการงบประมาณ ปี 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
DOCX
บัญชีคู่มือสำหรับประชาชนตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก01
เจาะข้อสอบ พรบ
3 เทศบาล
หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการหรือพนัก...
บรรยายการจัดทำแผน และ งบประมาณ
ระเบียบวิธีการงบประมาณ ปี 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
บัญชีคู่มือสำหรับประชาชนตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก01
Ad

More from ประพันธ์ เวารัมย์ แบ่งปันความรู้ส่ความก้าวหน้า (20)

PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...
PDF
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
PDF
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...
PDF
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...
PDF
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
PDF
แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549 4...
PDF
แนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคล
PDF
แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...
PDF
แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน ก...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตรวจสอบภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถ...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุ 2535...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้อง...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 254...
แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้อ...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเต...
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1) 2
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (1)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 แก้ไขถึงฉบับที่ 10 ...
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ...
แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
แนวข้อสอบ พรบ. กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจ พ.ศ. 2542 แก้ไข ถึง 2549 4...
แนวข้อสอบ ตำแหน่งบุคลากร นักทรัพยากรบุคคล
แนวข้อสอบ ด้านการเงินหรือการคลังของท้องถิ่น (เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงาน-นักวิชาก...
แนวข้อสอบ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 2
Ad

อธิบายภาษีป้าย

  • 1. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. โดยนายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ ตุลาคม ๒๕๕๖
  • 2. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. คาอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยนายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น ตาแหน่งนิติกรชานาญการ ส่วนนโยบายการคลังและพัฒนารายได้ สานักบริหารการคลังท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คาปรารภ แนวความคิดในการเขียนคาอธิบายพระราชบัญญัติป้ายนี้ เนื่องจากเห็นว่า องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น (ยกเว้น องค์การบริหารส่วนจังหวัด) มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีที่ท้องถิ่นจัดเก็บเอง มีภาษี หลักๆ ๓ ประเภท ได้ แก่ภาษีบารุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีป้าย รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสาคัญกับการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่นและที่ผ่าน มาได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้ท้องถิ่นจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น เช่น การให้เงินรางวัลในการ จัดเก็บรายได้ท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นไม่สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร ซึ่งสาเหตุนั้นมีหลายประการตาม ลักษณะของท้องถิ่นที่มีความหลากหลายมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของสังคมและพื้นที่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ ข้าพเจ้าคิดคือกรณีที่เราให้ความสาคัญกับงานอย่างหนึ่งแล้ว สิ่งที่จะต้องคิดต่อไปว่าจะให้ใครมาทางานอันสาคัญนี้ ให้สาเร็จ คนที่มาทาจะต้องมีคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนี้เพียงใด ความรู้ ความสามารถระดับใด เพื่อให้งาน นั้นสาเร็จตามเป้าหมาย ในปัจจุบันมีหลายงานที่มีความสาคัญที่ท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติ เช่น ด้านการพัสดุที่เกี่ยวข้อง กับการจัดซื้อ จัดจ้าง ด้านการจัดเก็บภาษี ซึ่งงานที่สาคัญดังกล่าวนี้กลับกลายเป็นว่าการรับสมัครเจ้าหน้าที่ที่มา รับผิดชอบงานในตาแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ ๑ วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รวมทั้งการจัดเก็บ ภาษีก็เช่นกัน ตาแหน่งที่รับสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ ๑ วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่ความ แตกต่างของเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้นั้นจะต้องมาปฏิบัติงานที่ต้องใช้กฎหมายกับประชาชนทั่วไปเป็นการเฉพาะ อย่างต่าจะต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย ๓ ฉบับ ซึ่งข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานนั้นนอกจากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วในบางครั้งยังต้องเกี่ยวข้องกับการที่จะต้องไปดาเนินคดีตามกฎหมายด้วยงานดังกล่าวนี้ควรที่จะมีวุฒิ การศึกษาด้านกฎหมายมาดาเนินการ ข้าพเจ้าจึงได้แรงบันดาลใจจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยรามคาแหง คณะนิติศาสตร์ จะมี คาอธิบายวิชากฎหมายต่างๆให้ศึกษาด้วยตนเอง และจากการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีของท้องถิ่น ได้พบเห็นปัญหาและความจริงในเรื่องนี้ และเข้าใจเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะที่บรรจุใหม่ จึงได้จัดทา คาอธิบายกฎหมาย พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ขึ้น หวังว่าคาอธิบายนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้และผู้สนใจ และหากมีสิ่งใดที่ จะเสนอแนะ ข้าพเจ้าขอน้อมรับด้วยความเคารพและขอขอบคุณยิ่ง นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ
  • 3. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. คาอธิบายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐” อธิบาย เดิมภาษีป้ายนั้น เป็นภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรจะมีหน้าที่ในการ จัดเก็บภาษีป้าย ในเวลาต่อมาเมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติรายได้เทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๗1 และ พระราชบัญญัติรายได้สุขาภิบาล พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๖2 ได้กาหนดเทศบาลและสุขาภิบาลมีอานาจหน้าที่ในการ จัดเก็บภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร เหตุผลในการออกพระราชบัญญัติภาษีป้าย เนื่องจากภาษีป้ายเป็นภาษีของ ราชการส่วนท้องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ควรแยกออกจากประมวลรัษฎากร และมอบให้ราชการส่วน ท้องถิ่น โดยกาหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และสุขาภิบาลเป็นผู้จัดเก็บ จึงได้มีการตรากฎหมาย ภาษีป้ายขึ้นโดยเฉพาะ เมื่อมีการกาหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่น (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)มีหน้าที่ในการจัดเก็บ รายได้แล้ว ภาษีป้ายที่จัดเก็บได้ในราชการส่วนท้องถิ่นก็ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (มาตรา ๙ ) ปัจจุบันราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ที่จัดเก็บภาษีประกอบด้วย เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา สาหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีพื้นที่ทับซ้อนกับเทศบาล องค์การบริหาร ส่วนตาบล และเมืองพัทยา ซึ่งตามพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๓ 3 ไม่ได้กาหนดให้เป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นต้นไป อธิบาย ในการตรากฎหมายจะมีการกาหนดวันที่ใช้บังคับไว้ ซึ่งการกาหนดวันบังคับใช้นั้นก็มีการ กาหนดที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็กาหนดไว้สองลักษณะคือ ๑. มีการกาหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งตัวบทกฎหมายนั้นๆว่าใช้บังคับในวัน เดือน ปีอะไร เช่น กาหนดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้น ๒. มีการกาหนดวันให้ใช้บังคับไว้ภายหลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเช่น กาหนดว่าภายในหนึ่งวันนับจากวันที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เหตุผลที่กาหนดว่านับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากในทางกฎหมายหากมี การประกาศแล้วถือว่าประชาชนได้รับทราบตัวบทกฎหมายนั้นแล้ว (ตามหลักกฎหมายนั้นบุคคลจะอ้างเอาความ ไม่รู้กฎหมายนั้นมาต่อสู้ทางคดีให้ตนเองพ้นผิดไม่ได้ กล่าวคือจะอ้างว่าตัวเองไม่รู้กฎหมายในการกระทาผิดไม่ได้) มาตรา ๓ ให้ยกเลิกหมวด ๕ ภาษีป้ายในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่ง ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน 1 มาตรา ๗ ภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากร สาหรับป้ายซึ่งแสดงไว้ในเขตเทศบาลใด ให้เทศบาลนั้นจัดเก็บเป็นรายได้ของเทศบาลตามประมวลรัษฎากร ตั้งแต่ปีภาษี 2 มาตรา ๖ ภาษีป้ายตามประมวลรัษฎากรสาหรับป้ายซึ่งแสดงไว้ในเขตสุขาภิบาลใด ให้สุขาภิบาลนั้นจัดเก็บเป็นรายได้ของสุขาภิบาลตามประมวลรัษฎากร ตั้งแต่ปีภาษี 2498 เป็น ต้นไป 3 พระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๓ เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตาบลอาจมีรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และเงินรายได้ดังต่อไปนี้ (๑) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน (๒) ภาษีบารุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบารุงท้องที่ (๓) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย ฯลฯ
  • 4. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒- อธิบาย เป็นบทบัญญัติให้ยกเลิกหมวด ๕ ภาษีป้ายในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร แล้วให้ใช้ พระราชบัญญัตินี้แทน ในมาตรา ๓ วรรคสอง เป็นลักษณะการกาหนดสภาพบังคับให้ใช้บทบัญญัติกฎหมายนั้นๆ หากมีกฎหมายอื่นขัดแย้งกับกฎหมายหรือพระราชบัญญัติที่ตราขึ้นก็ให้ใช้บทบัญญัติกฎหมายที่ตราขึ้น มาตรา ๔ เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เทศบาลใดอยู่ในความควบคุมดูแลของกระทรวง มหาดไทยตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล บรรดาอานาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็น อานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย อธิบาย มาตรานี้เป็นการกาหนดอานาจหน้าที่ระหว่างรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมายกับผู้ว่า ราชการจังหวัดในการควบคุมดูแลเทศบาล มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้กับให้มีอานาจ ออกกฎกระทรวงกาหนดอัตราภาษีป้ายไม่เกินอัตราที่กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ และ กาหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ อธิบาย ได้กาหนดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติป้ายได้ และสามารถออกกฎกระทรวงต่างๆ และกฎกระทรวงมหาดไทยจะใช้บังคับได้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หมวด ๑ บททั่วไป .......................................... มาตรา ๖ ในพระราชบัญญัตินี้ “ป้าย” หมายความว่า ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือ ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่ วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น อธิบาย ในการศึกษาพระราชบัญญัติป้ายนี้ ก่อนอื่นจะต้องทาความเข้าใจว่า ป้ายนั้นเมื่อเราวิเคราะห์ ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๕๑๐ จะแบ่งป้ายออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ ประเภทที่หนึ่ง ป้ายที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งมีลักษณะทั่วๆไป เช่น ป้ายบอกชื่อหน่วยงาน ราชการ ป้ายประชาสัมพันธ์ผลงานของหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ป้ายบอกชื่อถนน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดหรือการหารายได้จากป้ายนั้น ประเภทที่สอง ป้ายที่ต้องเสียภาษี ซึ่งมีลักษณะโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยมีจุดประสงค์ หรือเป้าหมายเพื่อให้เกิดรายได้หรือหารายได้
  • 5. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. -๓- ป้ายที่จะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ นี้ ต้องเข้าลักษณะตามความ ในมาตรา ๖ ดังนี้ ๑. จะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อเพื่อหารายได้ ๒. จะต้องเป็นป้ายแสดงยี่ห้อเพื่อหารายได้ ๓. จะต้องเป็นป้ายแสดงเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ ๔. จะต้องเป็นเครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ๕. จะต้องเป็นการโฆษณาการค้าเพื่อหารายได้ ๖. จะต้องเป็นการโฆษณากิจการอื่นเพื่อหารายได้ การบริการ ไม่ว่าป้ายนั้นจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ลักษณะของป้ายในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมากมีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เป็น ส่วนประกอบของป้ายที่สาคัญ นอกจากนั้นยังมีการจัดทาป้ายอีเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ การประกอบการค้าของตน หรือเพื่อรับจ้างในการโฆษณากิจการค้าของผู้ประกอบการค้าอื่นๆและมีจานวนหลาย ราย ซึ่งมีลักษณะเป็นระบบไฟฟ้าเป็นอักษรวิ่งตลอดเวลา ซึ่งพระราชบัญญัติป้ายนี้ได้บัญญัติขึ้นใช้มาหลายปีไม่มี การแก้ไขปรับปรุงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน และยังมีปัญหาประการหนึ่งคือ ไม่ได้ให้ คาจากัดความ บทวิเคราะห์ศัพท์ หรือคาอธิบายของคาว่า ป้ายแสดงชื่อ คือ อะไร ยี่ห้อ คือ อะไร และเครื่องหมาย ที่ใช้ในการประกอบการค้า คืออะไร จึงทาให้ยากต่อการตีความ และขณะเดียวกันผู้ประกอบการค้าก็พยายามหา ช่องว่างของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหรือทาให้เสียภาษีน้อยลง ในที่นี้จะขออธิบายได้ดังนี้ หลักเกณฑ์ที่เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาว่าลักษณะสิ่งใดคือป้ายพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ สรุปได้ดังนี้ องค์ประกอบประการที่หนึ่ง ลักษณะป้ายจะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดง เครื่องหมาย องค์ประกอบประการที่สอง ป้ายที่แสดงนั้นเป็นการประกอบกิจการค้า เพื่อหารายได้ หรือ ประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้ องค์ประกอบประการที่สาม ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดงเครื่องหมายนั้น ไม่ว่า จะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วย วิธีอื่น องค์ประกอบประการที่หนึ่ง ลักษณะป้ายจะต้องเป็นป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้าย แสดงเครื่องหมาย ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ นั้นหมายถึงป้ายที่บอกชื่อกิจการที่ใช้ประกอบการค้าหรือ ประกอบกิจการนั้นเอง ตัวอย่างป้ายชื่อ
  • 6. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔- ตัวอย่างป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดงเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้า คืออะไร เป็นอย่างไร เนื่องจากพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ไม่ได้กาหนดบทวิเคราะห์ศัพท์คาว่า เครื่องหมายไว้จึงต้องวิเคราะห์ตามความหมายธรรมดาปกติและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้อธิบายคาว่าเครื่องหมาย คือสิ่งที่ทาขึ้น แสดงความหมายเพื่อจดจา หรือกาหนดรู้ กรณีป้ายนี้เป็นการแสดงสินค้าให้คนจดจาว่าเป็นสินค้าประเภทใด และมีคาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๕/๒๕๑๗ ได้อธิบายความหมายของคาว่าเครื่องหมายในทานองเดียวกันกับพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ดังกล่าว ดังนั้นตามคาพิพากษาดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงขึ้นเพื่อให้เกิดการจดจาหรือกาหนดรู้ไม่ว่า สิ่งนั้นจะทาขึ้นเป็นรูปภาพใดๆก็ตาม เช่นรูปภาพสัตว์ รูปภาพสิ่งของ รวมถึงรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง จะอยู่ ในความหมายของคาว่าเครื่องหมายทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ลืมองค์ประกอบของป้ายอีกประการหนึ่งซึ่งเป็น องค์ประกอบที่สาคัญคือ เพื่อหารายได้ ตัวอย่าง เครื่องหมาย การวินิจฉัยว่าสิ่งใดคือป้ายที่จะต้องเสียภาษีป้ายจะต้องเป็นป้ายที่เข้าลักษณะดังกล่าวข้างต้น ไม่ใช่เป็นการยึดวัสดุที่เป็นส่วนประกอบเป็นป้ายหรือติดตั้งป้าย เช่น กรณีมีป้ายติดกับฝาผนัง ป้ายก็คือข้อความที่ ติดฝาผนังนั้นไม่ใช่ฝาผนัง องค์ประกอบประการที่สอง ป้ายที่แสดงนั้นเป็นการประกอบกิจการค้า เพื่อหารายได้ หรือประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้ จากมาตรา ๖ ดังกล่าว มีหลักที่สาคัญในการที่จะพิจารณาว่าจะเป็นป้ายที่จะต้องเสียภาษี ป้ายตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ หรือไม่ คือจะต้องพิจารณาดูว่าป้ายที่จัดทาขึ้นเพื่อการหารายได้เป็น
  • 7. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. -๕- หลักการสาคัญ หากมีไม่การหารายได้แล้ว ก็จะไม่เป็นป้ายตามพระราชบัญญัตินี้ เช่นป้ายมีข้อความว่าห้องน้า สะอาด ไม่มีการเก็บค่าบริการการเข้าใช้ห้องน้าไม่ถือว่าเป็นป้าย ตัวอย่างป้ายประกอบกิจการค้าเพื่อหารายได้ นอกจากนี้ป้ายตามมาตรา ๖ ได้กาหนดไว้ว่า เครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ หรือ โฆษณากิจการอื่นเพื่อหารายได้ ซึ่งจากบทบัญญัติดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีแต่กิจการค้าอย่างเดียวที่เข้าลักษณะป้าย หากแต่ยังมีการประกอบกิจการอื่น หรือโฆษณากิจการอื่น ผู้ศึกษาต้องทาความเข้าใจต่อไปว่าเครื่องหมายที่ใช้ ประกอบกิจการอื่นหรือโฆษณากิจการอื่น คืออะไร ดังนั้นเมื่อกฎหมายได้กาหนดว่าการหารายได้นั้นไม่ใช่การประกอบการค้าอย่างเดียว หากแต่ ยังมีสิ่งอื่นๆอีก ในที่นี้ขอให้ความเห็นว่าการให้บริการที่มีการจัดเก็บค่าบริการ หรือการประกอบอาชีพอิสระ หาก มีเครื่องหมายที่ใช้ประกอบกิจการหรือโฆษณากิจการก็เข้าองค์ประกอบของป้ายที่ต้องเสียภาษีป้ายตาม พระราชบัญญัตินี้ กิจการที่ให้บริการ หรือการประกอบอาชีพอิสระ เช่น สานักงานทนายความ ร้านเสริมสวย หอพักให้เช่ารายวันหรือรายเดือน เป็นต้น ตัวอย่าง ป้ายประกอบกิจการอื่น (กรณีนี้เป็นการบริการ) องค์ประกอบประการที่สาม ป้ายแสดงชื่อ ป้ายแสดงยี่ห้อ ป้ายแสดงเครื่องหมายนั้น ไม่ ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ ปรากฏด้วยวิธีอื่น
  • 8. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๖- องค์ประกอบนี้ในทางกฎหมายได้เปิดกว้างไว้ว่า ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ เป็นการเน้นย้าความหมายของคาว่า “ป้าย” หมายถึง ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมาย ซึ่งไม่ใช่วัสดุที่นามาใช้ ในการจัดทาป้ายดังที่อธิบายมาดังกล่าวแล้วข้างต้น ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ก็ต้องเสียภาษี (ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ) จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่รับผิดชอบในเรื่องการพัฒนารายได้ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมายภาษีที่ท้องถิ่นที่จัดเก็บเอง พบว่าปัญหาการจัดเก็บภาษีป้าย ในกรณีป้ายที่จัดทาบนวัสดุผ้าหรือผ้า พลาสติก ผ้าใบ หรือที่เรียกว่าป้ายไวท์นิว ที่ติดตั้งไว้หน้าสถานประกอบการค้า เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ยังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจว่า ป้ายที่จัดเก็บภาษีได้นั้นต้องเป็นป้ายถาวรหรือมี ลักษณะมั่นคงแข็งแรง ป้ายในลักษณะนี้เข้าใจว่าเป็นป้ายชั่วคราว ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ โดยเข้าใจผิดใน ข้อยกเว้นป้ายที่ไม่ต้องเสียภาษี ตามมาตรา ๘ เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับป้ายดังต่อไปนี้ ฯลฯ (๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว สาหรับประชาชน ก็จะแจ้งว่าติดตั้งไว้กันแสงแดดสาดส่องเข้าสถานประกอบการ หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่เป็นคาอธิบายและสนับสนุนว่าไม่มีป้าย ชั่วคราวคือมาตรา ๗ ที่ระบุว่า ให้เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้ายโดยเสียเป็นรายปี ยกเว้นป้ายที่เริ่มติดตั้ง หรือแสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิดภาษีป้ายเป็นรายงวด งวดละสามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปีการจัดเก็บภาษีป้าย ในเมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าป้ายที่จัดเก็บภาษีป้ายได้จะต้องเป็นป้ายถาวรหรือเป็นการ ชั่วคราว ดังนั้นแม้ว่าป้ายที่เป็นการแสดงไว้เป็นการชั่วคราว หากมีวัตถุประสงค์เข้าองค์ประกอบของป้าย ดังกล่าวข้างต้นแล้วจะต้องเป็นป้ายที่ต้องเสียภาษีป้าย และจะต้องเสียภาษีตั้งแต่ติดตั้งจนถึงสิ้นปี หรือเก็บทั้งปี ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ไม่ใช่ป้ายตาม มาตรา ๘ (๓) จะต้องเสียภาษี
  • 9. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. -๗- คาพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวกับป้ายตามมาตรา ๖ คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๕/๒๕๑๗ ตามบทวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ป้ายอาจแสดง ตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดก็ถือว่าเป็นป้าย ดังนั้น ป้ายมีอักษรไทยล้วนตามบัญชีอัตรา ภาษี ประเภท (๑) ย่อมหมายถึงป้ายที่ไม่มีสิ่งอื่นใดเลยนอกจากตัวอักษรไทย คาว่าเครื่องหมาย นั้น ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ หมายความว่า สิ่งที่ทาขึ้นแสดงความหมาย ป้ายโฆษณาภาพยนตร์ที่มีอักษรไทย ภาพดาราภาพยนตร์ ภาพสัตว์ และภาพวัตถุ อื่นๆ จึงเป็นป้ายที่มีอักษรไทยปนกับเครื่องหมายตามบัญชีอัตราภาษีป้ายประเภท (๒) คาพิพากษาฎีกาที่ ๙๙๕/๒๕๓๑ ตามบทบัญญัติมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มิได้ระบุว่า ป้ายจะต้อง แสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์เฉพาะ ดังนั้นป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่มีลักษณะทั่วไป ก็เป็นป้ายตามความหมายแห่งมาตราดังกล่าว ป้ายของโจทก์ที่มีข้อความว่า “สานักงานแพทย์ สิว ฝ้า โรคผิวหนัง และโรคทั่วไป” เป็นป้ายแสดงชื่อซึ่งมีลักษณะทั่วไป จึงเป็นป้ายซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน เมื่อนายกเทศมนตรีได้แจ้งเตือนให้โจทก์ไปชาระภาษีป้ายย้อนหลัง ๕ ปี โจทก์มอบอานาจให้ อ. เป็นผู้นาเงินไปชาระภาษีป้าย อ. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายประจาปี เอกสารทุกฉบับระบุว่า อ. เป็นผู้มา ยื่นแทนโจทก์ผู้เป็นเจ้าของป้าย การกระทาของ อ. ดังกล่าวจึงเป็นการกระทาแทนโจทก์ หรือในนามของโจทก์ ด้านหลังเอกสารดังกล่าวทุกฉบับมีรายการประเมินภาษีป้ายลงนามโดย ร. ผู้รักษาการแทนสมุห์บัญชี ซึ่ง นายกเทศมนตรีมีคาสั่งให้สมุห์บุญชีหรือผู้รักษาการแทนเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินภาษีป้าย ร. จึงเป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจประเมินภาษีป้ายและถือว่ามีการประเมินภาษีป้ายโดยชอบแล้ว คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๖๘/๒๕๔๖ แม้ป้ายข้อความยินดีรับบัตร SYNERGY โลโก้ ESSO และเครื่องหมายลูกศรบอกทางเข้า ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าสถานี บริการน้ามันของโจทก์จะอยู่ในกรอบพลาสติกนูนแยกขอบเขตของแต่ละป้ายได้ แต่ก็อยู่ในโครงเหล็กแผ่นเดียวกันถือว่าเป็นป้ายแผ่นเดียวกัน โจทก์ทาขึ้นเพื่อเชิญชวนลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกบัตร SYNERGY เข้าใช้บริการของโจทก์ จึงเป็นการใช้ป้ายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาและหารายได้ ถือว่าเป็นป้าย ตามคานิยามศัพท์ มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ต้องเสียภาษีป้าย ป้ายแสดงราคาน้ามันนั้นต้องเสียภาษีหรือไม่ ในเรื่องนี้ได้มีคาพิพากษาเป็นแนวทางไว้ว่าไม่ต้องเสียภาษีป้าย เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขตาม มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ สรุปได้ดังนี้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๑๘/๒๕๕๔ ระหว่าง บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย)จากัด (มหาชน) โจทก์ กับเทศบาลนครปากเกร็ด กับพวก จาเลย ป้ายใหญ่ซึ่งติดตั้งด้านหน้าสถานีบริการน้ามันในส่วนที่แสดงราคาน้ามันเป็นป้ายที่แสดง ประเภท ชนิด และราคาจาหน่ายปลีกน้ามันซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
  • 10. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๘- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๕๕) เรื่อง กาหนดลักษณะและเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ รายย่อย การออกใบกากับภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียน ตามมาตรา ๘๖/๘ แห่งประมวลรัษฎากร และการ เก็บรักษารายงานตามมาตรา ๘๗/๓ แห่งประมวลรัษฎากรข้อ ๗ กับประกาศคณะกรรมการกลางกาหนดราคาสินค้า และป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ ๒๐๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ เรื่อง ให้ผู้จาหน่ายปลีกแสดงราคาจาหน่ายปลีกสินค้าควบคุม ลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๓๕ และฉบับที่ ๒๔๙ พ.ศ. ๒๕๔๑ ลงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๑ จึงไม่ใช่ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือ กิจการอื่นเพื่อหารายได้ของโจทก์ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐ มาตรา ๖ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี ป้ายในส่วนนี้ แม้ในส่วนที่แสดงราคาน้ามันจะอยู่ใต้ส่วนที่มีข้อความ “ESSO” และอยู่ในโครงสร้างเดียวกันก็ตาม แต่เมื่อป้ายในส่วนนี้ไม่ใช่ป้ายตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๓๓๒/๒๕๔๗ โจทก์ซึ่งทาธุรกิจสถานีบริการน้ามันมีหน้าที่ต้องจัดทาแผ่นป้ายที่มีข้อความ"เก็บภาษี มูลค่าเพิ่ม จากมิเตอร์หัวจ่าย" และป้ายแสดงประเภท ชนิด และราคาจาหน่ายปลีกน้ามันซึ่งเป็นสินค้าควบคุมตาม ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งออกตาม ป.รัษฎากร และประกาศคณะกรรมการกลางกาหนดราคาสินค้าและ ป้องกันการผูกขาด (ซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการกาหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดประกอบด้วย กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ) ป้ายดังกล่าวข้างต้นจึงไม่ใช่ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการ ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้า หรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของโจทก์ ตามบทบัญญัติในมาตรา ๖ แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้าย “ราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นราชการ ส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัตินี้ ราชการส่วนท้องถิ่น ในปัจจุบันได้มีการยกเลิก มีการจัดตั้งขึ้นมาใหม่ และบางองค์กรไม่มี หน้าที่ในการจัดเก็บภาษีป้ายแล้ว ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไปเช่น มีการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตาบล มี การยกฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาลเป็นผลให้สุขาภิบาลสิ้นสภาพไปโดยผลของกฎหมาย องค์การบริหารส่วน จังหวัดไม่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีป้าย เป็นต้น “เขตราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า (๑) เขตเทศบาล (๒) เขตสุขาภิบาล (๓) เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (๔) เขตกรุงเทพมหานคร (๕) เขตเมืองพัทยา (๖) เขตองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า (๑) นายกเทศมนตรี สาหรับในเขตเทศบาล (๒) ประธานกรรมการสุขาภิบาล สาหรับในเขตสุขาภิบาล
  • 11. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๙- (๓) ผู้ว่าราชการจังหวัด สาหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (๔) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สาหรับในเขตกรุงเทพมหานคร (๕) ปลัดเมืองพัทยา สาหรับในเขตเมืองพัทยา (๖) หัวหน้าผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็น ราชการส่วนท้องถิ่น สาหรับในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น เขตราชการส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น ก็จะต้องมีการปรับปรุงทานองเดียวกันกับ ราชการส่วนท้องถิ่น ดังกล่าวข้างต้น “ปี” หมายความว่า ปีปฏิทิน ปีปฏิทิน คือตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา แต่ในทาง ปฏิบัติ การจัดเก็บภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งไปยึดติดกับปีงบประมาณ ซึ่งนับเริ่มจากวันที่ ๑ ตุลาคม ถึงวันที่ ๓๐ กันยายนของปีถัดไป จึงเกิดปัญหาในการออกใบเสร็จรับเงินภาษีป้าย ในการออก ใบเสร็จรับเงินนี้ต้องออกตามปีปฏิทิน แต่เรื่องเงินภาษีที่จัดเก็บมาได้นั้นจะเป็นรายได้ของปีงบประมาณนั้น “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗4 ให้เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้ายโดยเสียเป็นรายปี ยกเว้นป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือ แสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิดภาษีป้ายเป็นรายงวด งวดละ สามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปี ทั้งนี้ ตามอัตราที่กาหนดใน กฎกระทรวงซึ่งต้องไม่เกินอัตราที่กาหนดในบัญชีอัตราภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ การคานวณพื้นที่ภาษีป้าย ให้คานวณตามบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ (๗) ท้าย พระราชบัญญัตินี้ ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตารางเมตรต้องมีชื่อและที่ อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษี ป้ายตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวง อธิบาย ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย เมื่อทราบแล้วว่าป้ายลักษณะใดต้องเสียภาษีป้าย ข้อที่ต้องพิจารณาต่อไปคือใครมีหน้าที่ เสียภาษีป้าย มีการคิดภาษีอย่างไร หรือเสียอย่างไร ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ชัดเจนว่า เจ้าของป้าย มีหน้าที่เสียภาษีป้าย เจ้าของป้ายตามหลักทั่วไปคาว่า “เจ้าของ”ก็คือผู้มีกรรมสิทธิ์หรือผู้ที่มีการจัดทาป้ายนั้น ขึ้นมา 4 มาตรา ๗๙๗ อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าตัวแทน มีอานาจทาการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะ ทาการนั้น อันความเป็นตัวแทนนั้นจะเป็นโดยแต่งตั้งแสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ย่อมได้
  • 12. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๐- หลักที่กาหนดว่าเจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย แต่มีข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้ พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่ไม่ได้มีการจัดเก็บภาษีป้ายจากเจ้าของป้ายดังนี้ มาตรา ๑๒ ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบ และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด ภายในเดือนมีนาคมของปี ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย อธิบาย ในกรณีมาตรา ๑๒ วรรค ๒ นี้ เป็นเรื่องตัวแทนและผู้แทนที่อยู่ในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้ายซึ่งอยู่นอกประเทศ ข้อที่ต้องพิจารณาต่อไปว่า ตัวแทน ในที่นี้จะเป็นตัวแทนลักษณะใด เป็นตัวการ ตัวแทน ตัวแทนนายหน้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในเรื่องการทานิติกรรมสัญญา ที่มีการแต่งตั้งตัวแทน หรือมอบอานาจกันไว้หรือไม่เพียงใด หรือจะเป็นตัวแทน หรือผู้แทนที่ใช้เรียกขานกันในการประกอบกิจการค้า ว่าเป็นผู้แทน หรือตัวแทนจาหน่ายสินค้า ซึ่งมีข้อตกลงกันไว้ในการประกอบการค้า นอกจากนี้คาว่าผู้แทนนั้นในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้มีการกาหนดไว้ใน เรื่องเกี่ยวกับผู้เยาว์ ซึ่งผู้เยาว์จะมีผู้แทนโดยชอบธรรม ได้แก่บิดา มารดาของผู้เยาว์นั้นเอง อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ให้ตัวแทนหรือผู้แทนใน ประเทศไทยมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย ดังนั้นการจัดเก็บภาษีก็สามารถจัดเก็บ จากตัวแทนหรือผู้แทนได้ ในทางปฏิบัติกระบวนการจัดเก็บภาษีป้ายไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงการยื่นแบบแต่จะต้องมีการ ประเมินและแจ้งการประเมิน การจัดเก็บภาษีและออกใบเสร็จรับเงิน ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จะดาเนินการอย่างไร แจ้งการประเมินไปให้ใคร ออกใบเสร็จให้กับใคร ในกรณีดังกล่าวผู้เขียนมีความเห็นว่า การแจ้งการประเมินก็ต้องแจ้งเจ้าของทรัพย์สิน และ การออกใบเสร็จรับเงินก็ต้องออกในนามของเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการดาเนินการตามมาตรา ๗ แห่ง พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้กาหนดไว้ชัดเจนว่า เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย มาตรา ๑๓ ถ้าเจ้าของป้ายตาย เป็นผู้ไม่อยู่ เป็นคนสาบสูญ เป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็น คนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ผู้จัดการมรดก ผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือผู้อื่น ผู้จัดการ ทรัพย์สิน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา ๑๒ แทนเจ้าของป้าย อธิบาย กรณีตามมาตรา ๑๓ เป็นเรื่องของสภาพบุคคล หรือความสามารถของบุคคล ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้กาหนดถึงกรณีการเสียชีวิต การเป็นคนสาบสูญ การเป็นคนไร้ ความสามารถหรือการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งมีการกาหนดผู้กระทาการแทนไว้ ดังนี้ผู้กระทาการ แทนก็จะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย เช่น
  • 13. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๑- ๑. กรณีเจ้าของมรดกเสียชีวิต (ในที่นี้หมายถึงเจ้าของป้าย) ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการเสียภาษี แต่ในกรณีไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี คือทายาทโดยธรรมของเจ้าของมรดกที่มีสิทธิ์รับมรดกตามกฎหมาย ๒. กรณีเจ้าของป้ายเป็นผู้ไม่อยู่ ผู้ครอบครองป้ายหรือครอบครองทรัพย์สินมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการเสียภาษี ๓. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนสาบสูญ ผู้จัดการทรัพย์สินมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ เสียภาษี ๔. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสีย ภาษี ๕. กรณีเจ้าของป้ายเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์มีหน้าที่ยื่นแบบแสดง รายการเสียภาษี การแจ้งการประเมิน และการออกใบเสร็จรับเงิน ก็ดาเนินการทานองเดียวกันกับมาตรา ๑๒ วรรค ๒ ดังกล่าวข้างต้น ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า การที่กฎหมายได้กาหนดให้มีผู้มายื่นแบบแทนเจ้าของป้ายใน กรณีต่างๆ ก็เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย กล่าวคือมีการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้ายตามระยะเวลา ที่กาหนด (ภายในเดือนมีนาคม) ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งผู้จัดเก็บภาษี (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)ได้รับเงิน ภาษี เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหรือเสียค่าปรับกรณีกรณียืนแบบเกินกาหนดเวลา นอกจากนี้ผู้เขียนมีความเห็นว่าในทางปฏิบัติในบางครั้งเรายึดหลักนิติศาสตร์อย่างเดียวก็ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จาเป็นต้องใช้หลักรัฐศาสตร์เข้ามาร่วมด้วย มาตรา ๑๘5 ในกรณีที่ปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการสาหรับ ภาษีป้ายใด เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสีย ภาษีป้าย ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้ง หรือแสดงอยู่ เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลาดับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษีป้ายเป็น หนังสือไปยังบุคคลดังกล่าว อธิบาย ผู้ที่มีหน้าที่ในการเสียภาษี ตามมาตรา ๑๘ ซึ่งไม่ใช่กรณีเป็นเจ้าของป้าย เนื่องจากไม่มีผู้ ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย หรือหาเจ้าของป้ายไม่ได้ ให้จัดเก็บจากบุคคลดังนี้ ๑. ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย ๒. ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ ๓. ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ 5 มาตรา ๑๓๖๗ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง มาตรา ๑๓๖๘ บุคคลอาจได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยผู้อื่นยึดถือไว้ให้ มาตรา ๑๓๖๙ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน
  • 14. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๒- ปัญหาในการจัดเก็บภาษีป้ายจากผู้ครอบครองนี้ หากมีการพิจารณาคาว่าผู้ครอบครอง นั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การครอบครองนั้นจะต้องเป็นการครอบครองเพื่อตน คือ ครอบครองเพื่อเป็นเจ้าของ แต่กรณีป้ายนี้ไม่ได้ยึดถือหรือครอบครองเพื่อตน เป็นลักษณะการให้เช่าติดตั้งป้าย จึงไม่ ใช้ผู้ครอบครองป้าย คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๕๑/๒๕๔๙ ระหว่าง กรุงเทพมหานคร โจทก์ บริษัทแปซิฟิค แบรนด์ส จากัด จาเลย ป้ายพิพาทเป็นป้ายที่จาเลยได้รับสิทธิติดตั้งโฆษณาในศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางตาม สัญญา เพื่อประโยชน์ในทางการค้าของจาเลย จึงเป็นทรัพย์สินของจาเลยโดยตรง ซึ่งจาเลยยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีป้ายพิพาทต่อโจทก์ตลอดมา แม้มีข้อตกลงตามสัญญาข้อ ๓ ว่า ให้ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางตลอดจน ส่วนควบตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ทันทีที่ก่อสร้างเสร็จ แต่ป้ายพิพาทที่จาเลยติดตั้งไว้นั้นไม่มีสภาพเป็นส่วนควบ และแม้จะมีข้อสัญญาระบุว่า ถ้าโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วให้บรรดาวัสดุก่อสร้างและสิ่งก่อสร้างที่ดาเนินการแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทันทีนั้น สิ่งก่อสร้างคือ ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทางส่วนวัสดุก่อสร้างคือ วัสดุที่ ใช้ก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจาทาง แต่ป้ายโฆษณาเป็นสิ่งที่จาเลยนามาติดตั้งเพื่อโฆษณา หาใช่วัสดุ ก่อสร้างไม่ จาเลยจึงยังคงเป็นเจ้าของป้ายดังกล่าว หาได้ตกเป็นของโจทก์ไม่ เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว จาเลย ในฐานะเจ้าของป้ายพิพาทย่อมมีหน้าที่ต้องรื้อถอนป้ายพิพาทออกไป แต่จาเลยละเว้นเสียยังคงติดตั้งป้ายโฆษณา ของตนจนล่วงเข้าปี ๒๕๔๔ จาเลยจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายประจาปี ๒๕๔๔ ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ มาตรา ๗ เมื่อโจทก์แจ้งการประเมินภาษีป้ายให้จาเลยทราบแล้ว จาเลยไม่อุทธรณ์การประเมินต่อผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ มาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง การประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงเป็นอันยุติ จาเลยจึงต้องเสียภาษีป้ายตามที่โจทก์ประเมินพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๕ (๓) กรณีมีการทาโครงป้ายที่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ลักษณะอักษรวิ่ง) แล้วรับจ้างโฆษณา ป้ายจากผู้ประกอบกิจการค้าต่างๆ ในกรณีนี้จะแตกต่างกับกรณีแรก เพราะเป็นการครองครองป้าย จึงถึงได้ ว่าบุคคลดังกล่าวนี้เป็นผู้ครอบครองป้าย แต่ทั้งนี้ผู้เขียนเห็นว่าเจตนารมณ์ของการตราพระราชบัญญัติมาตรานี้ขึ้นก็เพื่อให้สามารถ จัดเก็บภาษีป้ายได้ ดังจะเห็นได้ว่าได้มีการระบุคาว่า “ให้ถือว่า” ซึ่งเป็นคาในลักษณะเหมารวมความ รับผิดชอบดังกล่าว ตามมาตรา ๗ การเสียภาษีป้ายหรือการจัดเก็บภาษีป้ายจะมีการจัดเก็บทั้งปี แต่มีข้อยกเว้น ในกรณี ป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือแสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันเริ่มติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีและให้คิด ภาษีป้ายเป็นรายงวด งวดละสามเดือนของปี โดยเริ่มเสียภาษีป้ายตั้งแต่งวดที่ติดตั้งป้ายจนถึงงวดสุดท้ายของปี การคิดภาษีป้ายปกติคิดทั้งปี แต่ป้ายที่ติดตั้งระหว่างปีให้คิดภาษีเป็นรายงวด งวดละสาม เดือนดังนั้นปีหนึ่งๆก็จะมีการแบ่งออกเป็นสี่งวดดังนี้ งวดที่หนึ่งป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ % งวดที่สองป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ % งวดที่สามป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ % งวดที่สีป้ายที่ติดตั้งระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ %
  • 15. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๓- ตัวอย่าง คิดคานวณภาษีได้จานวนเงิน ๑,๐๐๐ บาท ๑. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่หนึ่งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ % เสีย ภาษี ๑,๐๐๐ บาท ๒. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สองระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ % เสีย ภาษี ๗๕๐ บาท ๓. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สามระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ % เสีย ภาษี ๕๐๐ บาท ๔. ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สี่ระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ % เสียภาษี ๒๕๐ บาท ตามมาตรา ๗ วรรคสอง การคานวณพื้นที่ภาษีป้าย ให้คานวณตามบัญชีอัตราภาษีป้าย(๖) และ (๗) ท้าย พระราชบัญญัตินี้ บัญชีอัตราภาษีป้าย (๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๑๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร ฯลฯ (๖) พื้นที่ของป้ายไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือลักษณะอย่างไร ให้คานวณดังนี้ (ก) ถ้าเป็นป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ให้เอาส่วนกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขต ป้ายเป็นตารางเซนติเมตร (ข) ถ้าเป็นป้ายที่ไม่มีขอบเขตกาหนดได้ ให้ถือว่าตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุด เป็นขอบเขตสาหรับกาหนดส่วนกว้างที่สุดและยาวที่สุด แล้วคานวณตาม (ก) (๗) ป้ายตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) เมื่อคานวณพื้นที่ของป้ายแล้ว (ก) ถ้ามีเศษเกินกึ่งหนึ่งของห้าร้อยตารางเซนติเมตร ให้นับเป็นห้าร้อยตารางเซนติเมตร ถ้า ไม่เกินกึ่งหนึ่ง ให้ปัดทิ้ง (ข) ถ้ามีอัตราที่ต้องเสียภาษีต่ากว่าป้ายละ ๒๐๐ บาท ให้เสียภาษีป้ายละ ๒๐๐ บาท ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย การคานวณพื้นที่ป้าย การคานวณพื้นที่ป้ายนั้นหากพิจารณาตามข้อบัญญัติท้ายบัญชีนี้จะเห็นว่ามีการวัดขนาด ของป้ายก่อน ซึ่งการวัดป้ายไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะใด จะมีการวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมทั้งหมด แล้วคานวณหา พื้นที่มี ๒ กรณีดังนี้ (ก) กรณีป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ คือป้ายที่มีการติดตั้งบนโครงสร้าง หรือมีการจัดทา ป้ายขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ให้วัดเอาส่วนที่กว้างที่สุดและส่วนที่ยาวที่สุดของโครงสร้างหรือป้ายที่ทาขึ้นมานั้น ว่ามีขนาดความกว้างจานวนกี่เซนติเมตร และมีขนาดความยาวจานวนกี่เซนติเมตรแล้วคิดคานวณพื้นที่ โดย เอาความกว้างคูณด้วยความยาวของป้าย ในการวัดป้ายไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะอย่างใด เช่น วงกลม วงรี ทรงกระบอก สามเหลี่ยม ฯลฯ จะวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างคูณยาวทั้งหมด
  • 16. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๔- ตัวอย่าง การวัดป้ายมีขอบเขตกาหนดได้ (ข) ป้ายที่ไม่มีขอบเขต ให้เอาส่วนที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดมาคูณกันเพื่อคิดจานวนพื้นที่ ไม่ว่าป้ายจะมีลักษณะใดๆก็ตาม ตัวอย่าง การวัดป้ายไม่มีขอบเขต วัดส่วนกว้างที่สุดคูณส่วนที่ยาวที่สุด
  • 17. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๕- คาพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๑๗/๒๕๑๙ บัญชีอัตราภาษีป้าย พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ กาหนดวิธีคานวณเนื้อที่ป้ายไว้ สองแบบ คือ แบบ ก. เป็นป้ายมีขอบเขตกาหนดได้ ให้เอาส่วนกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขตป้าย และแบบ ข. เป็นป้ายไม่มีขอบเขตกาหนดได้ ให้ถือเอาตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขต สาหรับกาหนดส่วนกลางที่สุดและยาวที่สุดแล้วคานวณตาม ก. พระราชบัญญัติภาษีป้ายเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ ภาษีอากร เมื่อกฎหมายไม่แจ้งชัดก็จะต้องตีความโดยเคร่งครัดในทางที่ไม่เป็นโทษแก่ผู้เสียภาษีอากร ซึ่งพอ อนุมานได้ว่าเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะต้องประเมินภาษีป้ายโดยเลือกคานวณเนื้อที่ป้ายเฉพาะ แบบใดแบบหนึ่ง มิใช่รวมคานวณทั้งแบบ ก. และ ข. เข้าด้วยกัน ปัญหาที่ปรากฏขึ้นในกรณีป้ายไม่มีขอบเขตกาหนดได้ คือกรณีมีตัวเลข ไม่ว่าเลขไทย หรือเลขตัวเลขเป็นเครื่องหมายหรือตัวเลขเป็นเครื่องหมายหรืออักษรหรือไม่ ในกรณีนี้จะเกิดปัญหาในการ วัดป้ายกรณีไม่มีขอบเขตกาหนดได้จะวัดรวมตัวเลขหรือไม่เพราะในข้อความป้ายจะมีหมายเลขโทรศัพท์อยู่ใต้ ข้อความอักษร แต่กรณีป้ายมีกรอบไม่มีปัญหาเพราะวัดตามขอบเขตของป้าย หากคิดว่าตัวเลข เป็น เครื่องหมายหรืออักษร และเลขอารบิคหากถือเป็นภาษาต่างประเทศหรือไม่จะส่งผลต่อประเภทภาษีและการ คิดภาษีที่อาจจะเพิ่มขึ้น ในเรื่องตัวเลขนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบคณะ) เสียงข้าง มากเห็นว่าเลขอารบิคไม่เป็นอักษรไทย และไม่ได้เป็นเครื่องหมาย การคิดประเภทภาษีกรณีมีปนตัวเลข คิด ภาษีตาม (๑) ของบัญชีอัตราภาษีป้าย (ตามหนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ สร.๐๒๐๓/๕๔๗๔ ลง วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๖ เรื่องหารือตัวเลขอารบิค ถือเป็นอักษรไทยหรือไม่) ผู้เขียนเห็นว่าตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายครบ คณะ) เสียงข้างมากดังกล่าวข้างต้น หากมีแต่ตัวเลขอารบิคอย่างเดียวก็ไม่ถือว่าเป็นป้ายตามมาตรา ๖ แห่ง พระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ และกรณีป้ายที่ไม่มีขอบเขตกาหนดและมีเลขอารบิคอยู่ด้านใต้การวัดป้าย ก็ไม่ควรวัดพื้นที่ตัวเลขอารบิครวมเข้าไปด้วย หลักการคานวณพื้นที่ป้ายตามบัญชีอัตราภาษีป้าย ตามที่กล่าวมาแล้วว่าการคานวณพื้นที่ป้ายให้คิดคานวณเป็นเซนติเมตร เอาส่วนกว้าง ที่สุดคูณด้วยด้านยาวที่สุด ได้จานวนที่พื้นที่ป้ายเป็นตารางเซนติเมตร ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย ได้กาหนดให้ คิดภาษีป้าย ห้าร้อยตารางเซนติเมตร ต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายในการจดจาของ ผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บภาษีให้คิดว่าห้าร้อยตารางเซนติเมตรเป็นหนึ่งหน่วย เพราะเนื่องจากการคิดคานวณการ จัดเก็บภาษีป้ายจะมีการปัดเศษของห้าร้อยตารางเซนติเมตรปัดขึ้นและปัดลง กล่าวคือ กรณีเมื่อคิดคานวณพื้นที่ป้ายได้จานวนเท่าไรแล้วต้องหารด้วยห้าร้อยตารางเซนติเมตร ผลลับที่ได้เป็นจานวนหน่วย หากมีเศษเกินครึ่งหนึ่งให้คิดเป็นหนึ่งหน่วย เช่น เศษเหลือ ๒๕๑ ตาราง เซนติเมตรขึ้นไปถือว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วย แต่กรณีมีเศษ ๒๕๐ ตารางเซนติเมตร ให้ปัดทิ้ง ตัวอย่างที่ ๑ วัดและคานวณพื้นที่ป้ายได้ ๕,๒๕๑ ตารางเซนติเมตร พรบ.ป้ายกาหนดให้คิด ๕๐๐ ตารางเซนติเมตรต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท วิธีการคิด = ๑๐ ๒๕๑ ๕๐๐ หน่วย เหลือเศษ ๒๕๑ ต.ร.ซม. เกินกึ่ง หนึ่ง คิดเพิ่มอีก ๑ หน่วย รวมเป็น ๑๑ หน่วย ๕๒๕๑ ๕๐๐
  • 18. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๖- ตัวอย่างที่ ๒ วัดและคานวณพื้นที่ป้ายได้ ๕,๒๕๐ ตารางเซนติเมตร พรบ.ป้ายกาหนดให้คิด ๕๐๐ ตารางเซนติเมตรต่ออัตราภาษีแต่ละประเภท วิธีการคิด ๕๒๕๐ ๕๐๐ การคานวณพื้นที่ป้าย ขณะนี้มีผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางท่านมีความ เข้าใจว่าการคิดพื้นที่ป้ายกรณีป้ายที่มีหลายด้าน เช่นมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เป็นต้น และมี ข้อความในแต่ละด้านเป็นข้อความเดียวกัน หรือมีข้อความต่างกันแต่ข้อความนั้นไม่เกี่ยวเนื่องกัน และมีการคิดว่า ป้ายนั้นเป็นป้ายเดียว ในการวัดป้ายได้มีการวัดรอบป้ายนั้นแล้วคานวณมาเป็นพื้นที่ป้าย ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ มีหลักในการพิจารณาดังนี้ ๑. ต้องทาเข้าใจว่าความหมายของป้าย ตามมาตรา ๖ หมายถึงอะไร ซึ่งป้ายนั้นไม่ได้ หมายถึงวัตถุที่ใช้ในการติดตั้งป้าย แต่เป็นสิ่งที่แสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือ ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณา ไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ดังนั้นป้าย ตามมาตรา ๖ นี้ไม่ใช่กรอบ หรือวัสดุที่นามาทาป้าย ๒. ป้ายที่แสดงนั้นมีข้อความที่สามารถเข้าใจได้ในด้านเดียวกัน หรือมีความหมายในด้าน เดียวกันนั้น ไม่มีความต่อเนื่องไปยังอีกด้านหนึ่ง หรือข้อความนั้นเป็นอิสระแก่กัน ไม่เกี่ยวข้องกัน คาพิพากษาฏีกาที่ ๑๒๖๙/๑๕๑๙ วินิจฉัยว่า ป้ายโฆษณาสินค้าของโจทก์มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีสี่ด้านติดตั้งบนหลังคา ตึกป้ายทั้งสี่ด้านเป็นผืนเดียวติดต่อกัน แต่ก็อยู่คนละด้าน เครื่องหมาย อักษร ในแต่ละด้านเป็นอิสระจากกัน ดังนี้ ไม่นับว่าเป็นป้ายเดียวกัน ตัวอย่างลักษณะป้ายที่คิดเป็นสองป้ายตามนัยคาพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๖๙/๑๕๑๙ ตัวอย่าง ๑ (ด้านหน้า) (ด้านหลัง) = ๑๐ หน่วย เหลือเศษ ๒๕๐ ต.ร.ซม. ไม่เกินกึ่ง หนึ่ง ให้ปัดทิ้ง ๒๕๐ ๕๐๐
  • 19. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๗- ตัวอย่าง ๒ ตัวอย่าง ๓ นอกจากนี้ปัญหาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือผู้เป็น เจ้าของป้ายนั้นต้องการที่จะโฆษณาสินค้าให้มีความโดดเด่นด้วยการนาสีมาเป็นส่วนประกอบในพื้นที่ที่จัดทาหรือ ติดตั้งป้าย จนทาผู้คนที่พบเห็นเข้าใจว่านี้คือสีของประจาของสินค้านั้นเช่น ผู้ค้าน้ามันหรือปั้มน้ามันต่าง ๆ จะนา สีมาทาบริเวณแถบชายหลังคาที่สร้างปกคลุมหัวจ่ายน้ามัน ในกรณีดังกล่าวนี้จะถือว่าแถบสีนั้นเป็นป้ายด้วยหรือไม่ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ตามเรื่องเสร็จที่ ๑๔๓/๒๕๔๕ ซึ่ง กรุงเทพมหานครได้หารือว่าแถบสีขาวแดงและมีคาว่า ESSO บนหลังคาคลุมแท่นปั้มภายในสถานีบริการจาหน่าย น้ามันบริษัทเอสโซ่ฯเป็นกิจอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ไม่ว่าจะได้แสดงหรือ โฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึกหรือทาให้ปรากฏด้วยวิธีอื่นใด ซึ่ง คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นสรุปได้ว่าหากไม่มีคาว่า ESSO แล้ว แถบสีขาวแดงนั้นก็มิได้ซื่อความหมาย ของชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหายที่ใช้ในการประกอบการค้าของสถานีจาหน่ายน้ามันเอสโซ่ฯตามบทนิยาม “ป้าย” มาตรา ๖ เมื่อได้มีความหมายว่าป้ายแล้วจึงไม่สามารถวัดแถบสีนั้นเพื่อคานวณภาษีได้ สรุปตามคาเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาคือแถบสีไม่ได้เป็นป้ายตามพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ นั้นเอง ก่อนที่จะอธิบายในวรรคต่อไปผู้เขียนเห็นว่าเมื่อมีการคิดพื้นที่ป้ายแล้วก็ขอโยงไปถึงประเภท ของป้ายที่จะต้องเสียภาษีตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕) เพื่อให้การคิดภาษีป้ายได้เชื่อมโยง เป็นเนื้อหาเดียวกันดังนี้ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีป้าย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้กาหนดอัตราภาษีป้ายดังต่อไปนี้ (๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๓ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร (๒) ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศและหรือปนกับภาพและหรือเครื่องหมายอื่น ให้คิดอัตรา ๒๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร
  • 20. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๘- (๓) ป้ายดังต่อไปนี้ ให้คิดอัตรา ๔๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร (ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่ (ข) ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ากว่าอักษรต่างประเทศ (๔) ป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้คิดอัตราตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแต่ กรณี และให้เสียเฉพาะจานวนเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น (๕) ป้ายตาม (๑) (๒) หรือ (๓) เมื่อคานวณพื้นที่ของป้ายแล้ว ถ้ามีอัตราที่ต้องเสียภาษีต่า กว่าป้ายละ ๒๐๐ บาท ให้เสียภาษีป้ายละ ๒๐๐ บาท ตามกฎกระทรวงดังกล่าวได้แบ่งประเภทป้ายไว้ ๓ ประเภทแต่ละประเภทมีการคิดภาษี ต่างกัน ผู้เขียนได้มีการศึกษาและสอบถามถึงที่มาของประเภทป้ายที่มีการแบ่งเป็น ๓ ประเภทและมีการจัดเก็บ อัตราภาษีที่ต่างกันว่า เพื่อต้องการรักษาเอกลักษณ์ของอักษรไทย ต้องการให้ใช้อักษรไทยจึงได้กาหนดอัตราภาษี ไว้น้อยกว่า ประเภทของป้ายแต่ละชนิดอธิบายความหมายได้ดังนี้ (๑) ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา ๓ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร ป้ายประเภท(๑) นี้ไม่ยุ่งยากในการวินิจฉัยประเภทป้าย เพราะมีอักษรไทยอย่างเดียวใน ข้อความป้าย ตัวอย่าง ป้ายประเภท(๑) ป้ายประเภท (๒) ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศและหรือปนกับภาพและหรือ เครื่องหมายอื่นให้คิดอัตรา ๒๐ บาท ต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร ป้ายประเภท (๒) นี้จะมีลักษณะดังนี้ ๑. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ ๒. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับภาพ ๓. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับเครื่องหมายอื่น ๔. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ ภาพ และเครื่องหมายอื่น ในการวินิจฉัยว่าเป็นป้ายประเภท(๒) นี้จะมีปัญหาเฉพาะกรณีที่อักษรไทยปนอักษร ต่างประเทศซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับประเภทที่ (๓) ข ป้ายประเภทที่ (๓) ข ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ากว่าอักษร ต่างประเทศ ซึ่งสามารถแยกประเภท (๓) ข ได้ดังนี้ ๑. อักษรไทยบางส่วนอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ
  • 21. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๑๙- ๒. อักษรไทยทั้งหมดอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ ๓. อักษรไทยบางส่วนอยู่ต่ากว่าอักษรต่างประเทศ ๔. อักษรไทยทั้งหมดอยู่ต่ากว่าอักษรต่างประเทศ ขอทาความเข้าใจคาวา “ ใต้” กับ “ต่า”หมายถึงอย่างไร คาว่า ใต้ ขอให้เข้าใจว่าตาแหน่งอักษรไทยที่ปรากฏในป้ายนั้นอยู่เหนือหรือใต้ คาว่า ต่า ขอให้เข้าใจว่าตาแหน่งอักษรไทยที่ปรากฏในป้ายนั้นอยู่ในระดับเดียวกันแต่ตัว อักษรไทยมีความสูงต่ากว่าอักษรต่างประเทศ เมื่อเราพิจารณาระหว่างความหมายของป้ายประเภท (๒) กับประเภท (๓) ข ดังกล่าว ข้างต้นจะเห็นได้ว่าจะมีความแตกต่างตรงตาแหน่งอักษรไทยกับอักษรต่างประเทศ หากป้ายนั้นมีอักษรไทยไม่ว่า จะทั้งหมดหรือแม้แต่เป็นบางส่วนหากอยู่ในตาแหน่งใต้หรือต่ากว่าอักษรต่างประเทศก็จะเป็นป้ายประเภท (๓) ข ดังนั้นประเภทที่ (๒) จะมีได้ ๒ กรณีเท่านั้นคือ ๑ อักษรไทยทั้งหมดจะต้องอยู่เหนือหรือบนอักษรต่างประเทศ จะมีภาพหรือ เครื่องหมายอยู่บริเวณใดก็ตาม ๒. อักษรไทยทั้งหมดจะต้องอยู่ในระดับเดียวกันและมีขนาดเท่ากันกับอักษรต่างประเทศ ตัวอย่างที่ ๑ ป้ายประเภท (๒) ภาษาไทยอยู่เหนือหรือบนอักษรต่างประเทศ ตัวอย่าง ป้ายประเภทที่ (๒) อักษรไทยอยู่ในระดับเดียวกันกับอักษรต่างประเทศ
  • 22. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๐- ตัวอย่างที่ ๒ ป้ายประเภทที่ (๒) ภาษาไทยปนภาพ คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๔๓/๒๕๔๕ ป้ายที่มีข้อความ “เอสโซ่ ESSO รูปเสือ Welcome to tiger Mart ล้าง – อัดฉีด ห้องน้า สะอาด” เป็นป้ายประเภทที่ ๒ ที่มีอักษรไทยปนอักษรต่างประเทศและเครื่องหมาย ซึ่งอยู่ในโครงป้ายเดียวกัน ทั้งหมดไม่อาจแยกจากกันได้ โจทก์ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๔๓๗/๒๕๕๕ ระหว่างบริษัทโตโยต้าหนองคายผู้จาหน่ายโตโยต้าจากัด โจทก์ กับเทศบาลตาบลโพธิ์ชัย จาเลย
  • 23. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๑- ป้ายรายการที่ ๘ มีข้อความอักษรไทยว่า “โชว์รูม ทางเข้า โชว์รูมรถใหม่อุปกรณ์ประดับยนต์ ศูนย์บริการตัวถังและสี อะไหล่ ที่จอดรถ” อยู่ใต้และต่ากว่าอักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” จึงถือเป็นป้าย ประเภท (๓) (ข) ตามบัญชีอัตราภาษีป้ายโดยไม่ต้องคานึงว่าจะมีอักษรไทยอยู่ที่ส่วนใดของป้าย ส่วนการที่ป้ายดังกล่าวมีข้อความอักษรไทยอีกหนึ่งข้อความคือคาว่า “โตโยต้า” อยู่เหนือ อักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” ก็ไม่ทาให้ป้ายดังกล่าวกลายเป็นป้ายประเภท (๒) ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย ไปได้ ป้ายรายการที่ ๑,๒ และ ๖ ส่วนบนมีอักษรไทยว่า “โตโยต้า” มีอักษรต่างประเทศว่า “TOYOTA” และมีสัญลักษณ์ส่วนล่างมีอักษรไทยว่า “โตโยต้าหนองคาย” แผนกขายศูนย์บริการ แผนกอะไหล่ ศูนย์บริการตัวถังและสี อยู่บนวัสดุปิดผิวเรียบประเภทอลูมิเนียม แม้ส่วนบนและส่วนล่างข้อความจะอยู่บนวัสดุ ปิดผิวที่ต่างระดับกันและมีขนาดต่างกันก็ตามแต่ข้อความทั้งส่วนบนและส่วนล่างต่างก็อยู่บนวัสดุปิดผิวเรียบ ซึ่ง เป็นอลูมิเนียมชนิดและสีเดียวกันและอยู่บนโครงสร้างที่ได้ทาในคราวเดียวกัน ตามที่โจทก์ได้ขออนุญาตก่อสร้าง และแบบแปลนโครงสร้างป้าย ทั้งในส่วนของข้อความหรือสัญลักษณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ล้วนเป็นข้อความ และสัญลักษณ์แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าของโจทก์ ทาให้ป้ายส่วนบนและป้าย ส่วนล่างมีลักษณะเป็นป้ายที่มีความต่อเนื่องกันทั้งในเรื่องวัสดุปิดผิว โครงสร้างและข้อความหรือสัญลักษณ์ที่ ปรากฏในป้ายบนวัสดุปิดผิวอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ แม้ข้อความหรือสัญลักษณ์จะไม่ติดเต็มวัสดุปิดผิวก็ เพื่อความสวยงามและอ่านข้อความได้ง่ายในโครงสร้างชิ้นเดียวกันทุกข้อความในโครงสร้างนั้น เพื่อประโยชน์ใน การโฆษณาการค้าของโจทก์ แต่ถือว่าเป็นป้ายที่มีขอบเขตกาหนดได้ตามวัสดุปิดผิวซึ่งเป็นอลูมิเนียมดังกล่าว จึงถือว่าป้ายราชการที่ ๑,๒ และ ๖ เป็นป้ายเดียวกันไม่อาจแยกการคานวณภาษีป้ายออกจากกันได้ และ ปรากฏว่าป้ายดังกล่าวมีข้อความอักษรไทยว่า “โตโยต้าหนองคาย แผนกขาย ศูนย์บริการ แผนกอะไหล่ ศูนย์บริการตัวถังและสี” อยู่ใต้และต่ากว่าอักษรต่างประเทศคาว่า “TOYOTA” จึงถือเป็นป้ายประเภท (๓) (ข) ตามบัญชีอัตราภาษีป้าย โดยไม่ต้องคานึงว่าจะมีอักษรไทยอยู่ส่วนใดของป้าย สาหรับการคานวนพื้นที่ป้าย โจทก์ยอมรับในการอุทธรณ์แล้วโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ ๑ ประเมินภาษีป้ายโดยการนาเอาความกว้าง คูณด้วยความยาว แล้วนามาคูณด้วยอัตราภาษี จึงถูกต้อง
  • 24. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๒- ตัวอย่าง ๓ ประเภท(๓) ข ภาษาไทยบางส่วนอยู่ใต้อักษรต่างประเทศ ป้ายที่ ๑ ป้ายที่๒ ป้ายที่ ๓ ป้ายประเภท ๓ (ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่ ป้ายประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาต่างประเทศ จะมีภาพหรือเครื่องหมายหรือไม่ก็ได้ ตัวอย่างป้ายประเภท (๓) อักษรไทยบางส่วน อยู่ใต้อักษร ต่างประเทศ
  • 25. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๓- มาตรา ๗ วรรคสาม ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตาราง เมตรต้องมีชื่อและที่อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความ ดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้ายที่กาหนดในตามหลักเกณฑ์กฎกระทรวง อธิบาย ตามมาตรา ๗ วรรคสามนี้เป็นการกาหนดให้ผู้ติดตั้งป้ายต้องปฏิบัติ ในกรณีที่ติดตั้งบน อสังหาริมทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มีพื้นที่ป้ายมากกว่าสองตารางเมตร จะต้องจัดทาหรือเขียนชื่อและที่อยู่ของ เจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้าย มาตรา ๘ เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับป้ายดังต่อไปนี้ (๑) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณามหรสพ (๒) ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้าหรือที่สิ่งห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้า (๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว (๔) ป้ายที่แสดงไว้ที่คน หรือสัตว์ (๕) ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือภายในอาคาร ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้ เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่รวมถึงป้ายตาม กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ (๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่า ด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตาม กฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ (๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคาร เพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบัน อุดมศึกษาเอกชนนั้น (๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน (๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ โดยเฉพาะ (๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ (๑๓) ป้ายตามที่กาหนดในกฎกระทรวง อธิบาย จากที่อธิบายมาแล้วจากจัดเก็บภาษีป้ายจะต้องเป็นป้ายตามมาตรา ๖ และเป็นผู้มีหน้าที่ เสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗ แต่ทั้งนี้ก็จะมีข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษีป้ายตามมาตรา ๘ ดังนี้ มาตรา ๘.(๑) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณา มโหรสพ
  • 26. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๔- จากบทบัญญัติดังกล่าวจะพิจารณาตีความป้ายที่ได้รับการยกเว้นจะต้องประกอบหลักเกณฑ์ ดังนี้ ๑. จะต้องเป็นป้ายที่แสดงหรือติดตั้งไว้ ณ โรงมหรสพนั้น ๒. จะต้องเป็นป้ายที่แสดงหรือติดตั้งไว้บริเวณโรงมหรสพนั้น ๓. และจะต้องเป็นป้ายเพื่อโฆษณามหรสพนั้น ดังนั้น ป้ายที่จะได้รับการยกเว้นตามหลักกฎหมายตามข้อนี้คือข้อ (๑) + (๓) หรือ (๒) + (๓) เท่านั้น จากบทบัญญัตินี้จะพิจารณาได้ว่ากฎหมายให้สิทธิเฉพาะป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ โรง มหรสพ หรือบริเวณโรงมหรสพเท่านั้น และจะต้องเป็นป้ายที่ใช้ในการโฆษณามหรสพเท่านั้นจึงจะได้รับการ ยกเว้น ข้อพิจารณาต่อไปคือว่าหากเป็นป้ายที่ใช้โฆษณาการประกอบกิจการค้าอื่นเพื่อหารายได้ และ ติดตั้งไว้ ณ โรงมหรสพ หรือบริเวณมหรสพจะได้รับการยกเว้นหรือไม่ ในกรณีดังกล่าวนี้ พระราชบัญญัติป้ายพ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๑) กาหนดไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นการโฆษณามหรสพถึงจะได้รับการยกเว้น ดังนั้นป้ายประกอบการค้าอื่นๆไม่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๘(๑) นี้ไม่ ถึงแม้นว่าป้ายนั้น เจ้าของโรงมหรสพเป็นเจ้าของป้ายก็ตาม เช่น ป้ายโฆษณาขายเครื่องดื่ม ก็ต้องเสียภาษี มาตรา ๘ (๒) ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้าหรือที่สิ่งห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้า กรณีป้ายตาม มาตรา ๘ (๒) ที่ได้รับการยกเว้นนี้ ต้องมีลักษณะดังนี้ ๑. ป้ายที่แสดงไว้ที่ตัวสินค้า ๒. เป็นเป็นป้ายที่แสดงไว้บนสิ่งที่ห่อหุ้มสินค้า ๓. เป็นป้ายที่แสดงไว้ในวัสดุที่บรรจุสินค้า จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้ว่าการจัดเก็บภาษีป้ายจากสินค้าเหล่านี้ อาจเป็นไปได้ยากที่หน่วยงานจะจัดเก็บเพราะสภาพของสินค้าจะมีการเคลื่อนย้ายเช่นมีสถานที่ที่แหล่งต้นทางที่ ผลิต ส่งไปยังสถานที่ผู้จาหน่าย ต่อมามีผู้ซื้อไปใช้ ซึ่งถ้าหากจะจัดเก็บแล้วจะมีความซ้าซ้อน ยุ่งยาก อีกประการ หนึ่งป้ายที่ปรากฏบนสินค้าเหล่านี้เมื่อนาไปจาหน่ายก็จะเป็นป้ายที่อยู่ภายในที่รโหฐาน ซึ่งจะได้รับการยกเว้น เช่นกัน ขณะเดียวกันผู้ที่ซื้อสินค้าที่มีป้ายปรากฏอยู่ซึ่งอาจจะอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบครองป้ายซึ่งมีหน้าที่เสียภาษี ป้ายก็คงไม่ยอมเสียภาษีป้ายเช่นกัน อีกประการหนึ่งหลักการจัดเก็บภาษีป้ายก็เพื่อรักษาความสะอาดเรียบร้อย ของบ้านเมือง สถานที่ต่างๆรวมทั้งถนน และทางเท้าต่างๆ ตัวอย่างป้ายห่อหุ้มสินค้า
  • 27. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๕- มาตรา ๘ (๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว กรณีป้ายตาม มาตรา ๘ (๓) ที่ได้รับการยกเว้นนี้ ต้องมีลักษณะดังนี้ (๑) จะต้องเป็นป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ในบริเวณงาน (๒) งานที่จัดขึ้นนั้นเป็นการชั่วคราว จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้ว่า ป้ายที่จะต้องได้รับการยกเว้นจะต้อง เป็นป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงในอาณาเขตของบริเวณงานนั้นเป็นสาคัญ หากไปติดหรือแสดงไว้นอกอาณาเขตบริเวณ งานจะต้องเสียภาษี เช่น งานประจาปีที่จัดขึ้น ณ วัดใดวัดหนึ่ง สนามกีฬาของจังหวัด เป็นต้น นอกจากติดตั้งหรือแสดงบริเวณงานแล้ว เงื่อนไขของกฎหมายงานนั้นจะต้องเป็นงานที่จัดขึ้น ชั่วคราวมีการกาหนดวันเริ่มต้นงานและสิ้นสุดงานที่แน่นอนเช่น ๓ วัน ๕ วัน ๑๐ วันเป็นต้น ตัวอย่าง ป้ายลักษณะนี้ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘ (๓) มาตรา ๘. (๔) ป้ายที่แสดงไว้ที่คน หรือสัตว์ จากบทบัญญัติของข้อกฎหมายนี้อาจจะพิจารณาได้เช่นเดียวกันกับ มาตรา ๘ (๒) มี ความยุ่งจากในการจัดเก็บเพราะป้ายที่แสดงไว้ที่คนหรือสัตว์นั้น ไม่ได้อยู่ ณ ที่หนึ่งที่ใดเป็นประจา เช่นป้ายที่ ปักติดไว้ที่เสื้อผ้าที่บุคคลสวมใส่ กฎหมายจึงได้ยกเว้นป้ายประเภทนี้ให้ ตัวอย่าง ป้ายแสดงที่คน
  • 28. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๖- มาตรา ๘ (๕) ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือ ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้ เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่ รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ อธิบาย ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคาร คาว่าอาคารในที่นี้มีความหมายครอบคลุมเพียงใด พรบ.ป้ายไม่ได้ให้คากาจัดความไว้ว่าหมายถึงอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีคาพิพากษาศาลฏีกาดังนี้ คาพิพากษาฏีกาที่ ๑๗๔๓ /๒๕๔๔ พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ไม่มีบทวิเคราะห์ศัพท์คาว่า "อาคาร" แต่เนื่องจากพระราช บัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร หากจะต้องตีความเพราะตัวบทกฎหมายไม่ชัดแจ้ง ก็ต้องตีความ โดยเคร่งครัดในทางที่ไม่เป็นโทษแก่ราษฎรผู้ที่จะต้องเสียภาษี อากร คาว่า "อาคาร" ตามพจนานุกรมได้ให้ ความหมายไว้ว่า หมายความถึง เรือน โรง สิ่งที่ก่อสร้างขึ้นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น สถานีบริการน้ามันโดย ปกติแล้วจะมีส่วนประกอบที่สาคัญ คือ ตัวอาคารที่เป็นที่ทาการ ตู้จาหน่ายน้ามันและหลังคาที่ปกคลุมตู้จาหน่าย น้ามัน รวมทั้งจะต้องเปิดโล่งให้รถยนต์เข้าไปเติมน้ามันได้ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้รวมกันเป็นสถานีบริการน้ามัน จึงถือว่าเป็นอาคาร ป้ายที่มีข้อความว่า "ซูพรีม 97 ซูพรีม 92" และ "ESSO รูปเสือ" อยู่ใต้หลังคาที่ปกคลุมตู้ จาหน่ายน้ามัน เป็นป้ายที่อยู่ภายในอาคารของสถานีบริการน้ามันที่ใช้ประกอบการค้า ทั้งเป็นป้ายที่มีพื้นที่ไม่เกิน หนึ่งตารางเมตร ย่อมเข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๕) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ภาษีป้าย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ จึงไม่ต้องเสียภาษีป้าย ป้ายที่มีข้อความว่า "AMERICAN EXPRESS" ซึ่งติดตั้งอยู่ในอาคารของโจทก์ ไม่ใช่ป้ายที่โจทก์เป็นเจ้าของ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของเทศบาลจาเลยไม่ได้สืบหา เจ้าของป้ายผู้มีหน้าที่ เสียภาษีป้าย จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๑๘ พนักงาน เจ้าหน้าที่ของจาเลยจึงไม่มีอานาจแจ้งการประเมินภาษีป้ายดังกล่าวไป ยังโจทก์ จากบทบัญญัติของข้อกฎหมาย ๘ (๕) ที่จะได้รับการยกเว้นจะต้องมีลักษณะดังนี้ ๑. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้า ๒. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบกิจการอื่น ๓. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน ๔. ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ๓. ต้องเป็นป้ายเพื่อหารายได้ตามมาตรา ๖. ๕. ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ ๓. จะต้องมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง ปัจจุบันกาหนดมีพื้นที่ ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร) ๖. แต่ไม่รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ สิ่งที่จะต้องพิจารณาทาความเข้าใจว่าป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคาร ตาม ข้อ ๑ และ ๒ นั้น ทาไมกฎหมายถึงได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีป้าย ในกรณีผู้เขียนมีความเห็นว่าอาจจะมองได้ ๓ กรณี ๑. วัตถุประสงค์ในการออกพระราชบัญญัติป้ายนั้นมีจุดประสงค์ เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และความสะอาดของบ้านเมือง แต่ในกรณีนี้เป็นการติดตั้งภายในอาคารของเขาเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่ ไม่ต้องไปเก็บภาษีของเขา ๒. มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของผู้ประกอบการค้าในการกระทาใดๆภายใน อาคารของเขาในการติดตั้งป้าย เพื่อโฆษณาสินค้า หรือบอกตาแหน่งสินค้า เพื่อความสะดวกของผู้เข้ารับบริการ
  • 29. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๗- ๓. เจตนาของการติดตั้งป้ายภายในอาคารนั้นมีเจตนาเพื่อให้ผู้เข้ามาซื้อทราบถึงการบริการ ต่างๆ เท่านั้น บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้ ปัจจุบันป้ายที่ติดตั้งภายในอาคารที่มีลักษณะเป็นตัวอักษร พลาสติก ที่ติดกับกระจกภายในอาคารแต่ไม่สามารถอ่านข้อความป้ายเมื่ออยู่ภายในอาคารแต่มองเห็นจากด้าน นอกอาคารเท่านั้น ในกรณีนี้จะเห็นว่าเจตนาของการติดตั้งป้ายต้องการสื่อความหมายกับบุคคลภายนอก จึงไม่ เข้าข้อยกเว้นนี้ ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๖ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้มีคาพิพากษาศาลฎีกาที่สามารถนามา สนับสนุนความคิดดังกล่าวดังนี้ คาพิพากษาฏีกาที่ ๘๒/๒๕๓๙ ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๘ (๕) ป้ายที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้าย จะต้องเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้หรือเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน เว้นแต่จะเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วย ทะเบียนพาณิชย์จะก็ไม่ได้รับยกเว้น เพราะข้อความตอนท้ายของมาตรา ๘ (๕) ไม่รวมถึงป้ายดังกล่าว ดังนั้น หาก ไม่ใช่ป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อ หารายได้หรือภายในอาคารซึ่งเป็น ที่รโหฐานแล้ว แม้จะเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่ต้องเสีย ภาษีป้ายมาตรา ๘ (๕) ดังกล่าว ป้ายพิพาทสามารถมองเห็นได้จากภายนอกสถานที่ประกอบการค้าหรือสถานที่ ประกอบ กิจการอื่นเพื่อหารายได้และเป็นป้ายที่แสดงไว้ภายนอกอาคาร ป้ายดังกล่าวแม้จะติดตั้งไว้ภายในรั้วของ โจทก์ บนหลังคาอาคาร ผนังภายนอกอาคารหรือบริเวณของสถานที่ประกอบการค้าหรือสถานที่ประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้ ก็หาเป็นป้ายที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๘ (๕) แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ เพราะบทมาตราดังกล่าวมุ่งประสงค์ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้ายเฉพาะป้ายที่แสดง ไว้ภายในสถานที่ประกอบการ ค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือภายใน อาคารอันเป็นที่รโหฐานเท่านั้น กล่าวคือ ต้องเป็นป้ายที่ไม่ สามารถมองเห็นได้จากภายนอกของสถานที่ประกอบการค้าหรือ ประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือจาก ภายนอกอาคาร ส่วนปัญหาที่จาเลยทั้งสองอุทธรณ์คัดค้านคาพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางที่ วินิจฉัยว่า ป้าย พิพาทไม่เป็นป้ายตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๑๕ นั้น เมื่อวินิจฉัยแล้วว่าป้ายพิพาทไม่ใช่ ป้ายที่แสดงไว้ภายในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือภายในอาคารซึ่งเป็นที่ รโหฐานแล้ว จึงไม่จาเป็นต้องวินิจฉัยว่าป้ายพิพาทเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์อีก เพราะไม่ทา ให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างป้ายที่ติดกระจกภายในอาคาร ไม่ถือว่าเป็นป้ายภายในอาคารที่จะได้รับการยกเว้น ตามมาตรา ๘ (๕) แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ดูจากภายในอาคาร ดูจากภายนอกอาคาร
  • 30. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๘- ตัวอย่าง ป้ายภายในอาคารมีพื้นที่ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร ดังนั้น กฎหมายจึงกาหนดให้บุคคลที่ติดตั้งป้ายหรือแสดงป้ายได้รับการยกเว้นภาษีป้าย ดังกล่าว ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน ความสาคัญในการยกเว้นป้ายในกรณีนี้ คือที่รโหฐาน ที่รโหฐานหมายถึงสถานที่ของบุคคลใดๆ ซึ่งบุคคลอื่นจะเข้าไปไม่ได้ เป็นการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพของบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่นั้นที่จะทาการใดๆรวมทั้งเขาผู้นั้นจะติดป้ายโฆษณาการประกอบการค้า ใดๆก็ได้ เช่น บ้านพักอาศัย เป็นต้น ป้ายตาม ข้อ ๑. ๒. และ ๓. จะต้องมีพื้นที่ไม่เกินที่กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง ปัจจุบันกาหนดมีพื้นที่ ไม่เกิน ๓ ตารางเมตร) กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงกาหนดขนาดของป้ายที่จะต้องเสียภาษีป้ายในกรณีที่ แสดงไว้หรือติดตั้งไว้ภายในอาคารมีขนาดพื้นที่เกินสามตารางเมตร ป้ายที่ติดตั้งภายในอาคาร ตามข้อ ๑. ๒. และข้อ ๓. ถ้าหากเป็นป้ายตามกฎหมายว่าด้วย ทะเบียนพาณิชย์ จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีป้าย ลักษณะของกฎหมายในกรณีนี้ เป็นการบัญญัติข้อยกเว้นซ้อนข้อยกเว้น กล่าวคือไม่ให้ได้รับ สิทธิในข้อยกเว้นนั้น สิ่งที่ต้องตีความพิจารณาต่อไปก็คือ ป้ายทะเบียนพาณิชย์มีลักษณะเป็นอย่างไร ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๕๕ มาตรา ๑๕ เมื่อได้จดทะเบียนพาณิชย์แล้ว ให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจจัดให้มีป้ายชื่อที่ใช้ใน การประกอบพาณิชยกิจไว้ที่หน้าสานักงานแห่งใหญ่ และสานักงานสาขาโดยเปิดภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ จดทะเบียน ป้ายชื่อนี้ให้เขียนเป็นอักษรไทยอ่านได้ง่ายและชัดเจน และจะมีอักษรต่างประเทศด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่า จะกระทาบนแผ่นไม้แผ่นโลหะแผ่นกระจกกาแพงหรือผนัง ชื่อในป้ายก็ดี ในเอกสารใดๆ ก็ดี ต้องใช้ให้ตรงกับชื่อที่จดทะเบียนไว้ และถ้าเป็นสานักงาน สาขา ต้องมีคาว่า “สาขา” ไว้ด้วย
  • 31. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๒๙- ตัวอย่าง ป้ายทะเบียนพาณิชย์ ซึ่งจากมาตรา ๑๕ ดังกล่าวนี้ได้กาหนดบังคับไว้ว่าเมื่อได้มีการจดทะเบียนพาณิชย์แล้ว ผู้ประกอบการพาณิชย์จะต้องจัดให้มีการจัดทาป้ายชื่อที่ใช้ในการประกอบกิจการพาณิชย์ติดไว้ที่หน้าสานักงาน ใหญ่หรือสานักงานสาขาโดยเปิดเผย ภายใน ๓๐ วัน นับจากวันได้มีการจดทะเบียนพาณิชย์ นอกจากนี้จะเห็นได้ ว่าป้ายทะเบียนพาณิชย์นี้มีการบังคับให้ชื่อภาษาไทยอ่านได้ง่ายและชัดเจนจะมีภาษาต่างประเทศด้วยก็ได้ ปัญหาในการจัดเก็บป้ายทะเบียนพาณิชย์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือผู้ประกอบ กิจการพาณิชย์ไม่ยอมติดป้ายตามมาตรา ๑๕ แล้วถือว่าตนเองไม่มีป้ายที่จะต้องเสียภาษี กรณีดังกล่าวได้มีการกาหนดบทลงโทษไว้ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. ๒๔๕๕ มาตรา ๒๐ ผู้ประกอบพาณิชยกิจผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง หรือวรรค สาม หรือมาตรา ๑๕ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองร้อยบาท และในกรณีอันเป็นความผิดต่อเนื่องกัน ให้ปรับอีกวันละไม่เกินยี่สิบบาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งผู้ประกอบกิจการพาณิชย์บางรายไม่ทราบ หรือไม่ได้สนใจ มาตรา ๘ (๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ในการพิจารณาตีความของป้ายตามมาตรา ๗ (๖) ก่อนอื่นต้องทาความเข้าใจก่อนว่าป้าย ที่ต้องเสียภาษีต้องเป็นป้ายมาตรา ๖ กรณีป้ายของหน่วยงานราชการฯ อาจจะเป็นป้ายชื่อ หรือป้ายที่ หน่วยงานราชการจัดทาขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ จะได้รับการยกเว้นตามมาตรานี้ ปัจจุบันหน่วยงานราชการบางแห่งอาจจะมีป้ายที่เกี่ยวการบริการที่มีการจัดเก็บค่าบริการ และเป็นการหารายได้ เช่น อุทยานแห่งชาติ มีป้ายบอกค่าเข้าไปใช้บริการ ซึ่งเป็นป้ายที่ต้องเสียภาษีตาม มาตรา ๖ แต่จะได้รับการยกเว้น ตามมาตรา ๘ (๖) ดังกล่าว ข้อสังเกตคาว่าป้ายของราชการฯ นั้นอาจจะเป็นได้ทั้งป้ายชื่อและป้ายอื่นของหน่วยงาน ราชการเพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า “ป้ายของราชการ” ไม่ได้ระบุว่าป้ายชื่อ ถ้าหากเป็นป้ายชื่ออย่างเดียว จะต้องมีการเขียนว่าป้ายชื่อของราชการฯ
  • 32. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๐- ตัวอย่าง ป้ายหน่วยงานราชการ ตัวอย่าง ป้ายของราชการส่วนท้องถิ่น มาตรา ๘ (๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล หรือตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ ข้อพิจารณาป้ายตามมาตรา ๘ (๗) ที่จะได้รับการยกเว้นต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้ ๑. เป็นป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล ๒. เป็นป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ ๓. ป้ายของหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ การที่จะดูว่าองค์กรที่จัดตั้งขึ้นนั้นจะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๘ (๗) หรือไม่อาจจะต้องดูเป็น รายหน่วยงานเป็นหน่วยๆไป หากเข้าตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นก็จะได้รับการยกเว้น ข้อสังเกต ผู้เขียนมีข้อคิดเห็นให้พิจารณาว่า เมื่อพิจารณาดูบทบัญญัติของกฎหมายใน บทนี้แล้วมีความเห็นว่าหน่วยงานที่จะได้รับการยกเว้นตามมาตรานี้ จะต้องเป็นหน่วยงานตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ ประกอบด้วยข้อ ๓ ด้วยหรือไม่ จึงจะได้รับการยกเว้น หรือ ป้ายของหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐก็เป็นอีก หน่วยงานหนึ่ง เหตุผลเพราะมีการใช้คาว่า หรือ ระหว่างหน่วยงานในข้อ ๑ กับ ๒ แต่ในข้อที่ ๓ ใช้คาว่าและ จึงอาจจะคิดได้ว่า หน่วยงานตามข้อ ๑ หรือ ๒ จะต้องรวมกับข้อ ๓ คือหน่วยงานนั้นนารายได้ส่งรัฐ มาตรา ๘ (๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ป้ายที่ได้รับการยกเว้นตามความในบทบัญญัตินี้มีดังนี้ ๑. ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ๒. ธนาคารออมสิน ๓. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ๔. ธนาคารเพื่อการสหกรณ์ ๕. บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในบทบัญญัติในมาตรานี้ผู้ศึกษาจะต้องใช้ความจาเป็นหลักสาคัญเพราะธนาคารนั้นมีหลาย ธนาคารแต่มีข้อบัญญัติยกเว้นไว้เฉพาะ ๔ ธนาคารนี้เท่านั้น และบางธนาคารรัฐบาลก็มีถือหุ้นอยู่ด้วย เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เป็นต้น มาตรา ๘ (๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดม ศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียน
  • 33. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๑- เอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้นองค์ประกอบของป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ ได้รับการยกเว้นมีดังนี้ ๑. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษา เอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และ ๒. ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคาร หรือ บริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จากองค์ประกอบดังกล่าวการจะพิจารณาว่าป้ายนั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีป้ายจะต้อง เข้าองค์ประกอบทั้งข้อ ๑ และ ๒ อย่างหนึ่งอย่างใดดังนี้ ๑. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนและติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคารของโรงเรียนเอกชน ๒. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนและติดตั้งหรือแสดงไว้ บริเวณโรงเรียนเอกชน ๓. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและติดตั้งหรือ แสดงไว้ ณ อาคารของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ๔. ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและติดตั้งหรือ แสดงไว้ ณ บริเวณของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ข้อพิจารณาต่อไปว่าคือกฎหมายใช้คาว่าป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้นคาว่าป้าย โรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้นครอบคลุมเพียงใด เนื่องจากกฎหมายภาษีป้ายเป็นกฎหมายภาษี อากรซึ่งมีผลกระทบแก่ผู้เสียภาษี หากไม่มีการกาหนดไว้เป็นการเฉพาะ ตามหลักกฎหมายแล้วต้องพิจารณาให้ เป็นคุณกับผู้เสียภาษี ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาว่า สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือโรงเรียนเอกชนมีลักษณะอย่างไร ในกรณีนี้เมื่อได้พิจารณาตามบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๕๐6 แล้วได้การกาหนดไว้ว่า “สถาบันอุดมศึกษาเอกชน”หมายถึง สถานศึกษาของเอกชนที่ ให้การศึกษาระดับปริญญาแก่บุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไปและพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ 7 ได้ให้ความหมายโรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบไว้ว่า “โรงเรียน” หมายความว่า สถานศึกษาของเอกชนที่จัดการศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในระบบหรือโรงเรียนนอกระบบ ที่มิใช่ เป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 6 พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๕ ว่า “สถาบันอุดมศึกษาเอกชน”หมายถึง สถานศึกษาของเอกชนที่ให้การศึกษาระดับปริญญาแก่บุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป 7 พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนพ.ศ. ๒๕๕๐แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “โรงเรียน” หมายความว่า สถานศึกษาของเอกชนที่จัด การศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในระบบหรือโรงเรียนนอกระบบ ที่มิใช่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน “โรงเรียนในระบบ” หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยกาหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขของการ สาเร็จการศึกษาที่แน่นอน “โรงเรียนนอกระบบ”2[๒] หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและ ประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษา และให้หมายความรวมถึงศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด (ตาดีกา) และสถาบันศึกษาปอเนาะ
  • 34. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๒- “โรงเรียนในระบบ” หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยกาหนดจุดมุ่งหมาย วิธี การศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสาเร็จการศึกษาที่ แน่นอน “โรงเรียนนอกระบบ”หมายความว่า โรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยมีความยืดหยุ่นในการ กาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไข สาคัญของการสาเร็จการศึกษา และให้หมายความรวมถึงศูนย์การศึกษาอิสลามประจามัสยิด (ตาดีกา) และ สถาบันศึกษาปอเนาะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่จะพิจารณาว่าเป็นโรงเรียนเอกชนหรือไม่ จะมีหลักสาคัญคือจะต้องมี การวัดประเมินผลการสาเร็จการศึกษา เรื่องที่จะต้องพิจารณาตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่า ด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน นั้นหมายถึงป้าย ลักษณะอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ศาลได้มีคาพิพากษาวางแนวทางไว้ว่าดังนี้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๘๕๕/๒๕๔๕ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด โจทก์ นายเทพกุล พูลลาภ จาเลย โจทก์ฟ้องว่าจาเลยได้ตั้งโรงเรียน เอกชนชื่อโรงเรียนศูนย์อบรมคอมพิวเตอร์ธุรกิจร้อยเอ็ดและเป็นผู้ครอบครองป้าย ซึ่งมีรูปภาพคอมพิวเตอร์และ คนนั่งและมีอักษรภาษาอังกฤษคาว่า “BBC”อยู่ในป้าย และมีป้ายรูปภาพคอมพิวเตอร์และคนนั่งและมีอักษร ภาษาอังกฤษคาว่า “BUSINESS COMPUTERCENTER”อยู่ในป้าย และได้ติดตั้งป้ายทั้งหมดไว้นอกอาคาร จาเลยให้การว่าจาเลยได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ป้ายพิพาทเป็นป้ายของโรงเรียนติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนมีชื่อภาษาไทย ของโรงเรียนด้วยจึงไม่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๘(๙) แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.๒๕๑๐ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะพิจารณาว่าป้ายใดจะถือเป็นป้ายโรงเรียนเอกชนหรือไม่จึงต้อง พิจารณาตามที่กฎหมายกาหนดว่าด้วยโรงเรียนเอกชนคือพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕8 กาหนดไว้ ซึ่งมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้ว่า “ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดให้มีป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเป็น อักษรไทยขนาดใหญ่พอเห็น ได้ในระยะอันสมควรติดไว้ที่โรงเรียนหรือบริเวณโรงเรียน ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย” ดังนั้น ป้ายโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนจึงหมายความถึง ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนที่เป็นอักษรไทย ตามบทบังคับของมาตรา ๔๖ เท่านั้น ป้ายพิพาทมิใช่ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนที่เป็นอักษรไทยตามบทกฎหมาย ดังกล่าว จึงไม่ใช่ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘(๙) แห่งพระราชบัญญัติป้าย จาเลยจึงเป็น เจ้าของป้ายมีหน้าที่เสียภาษีป้าย ตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติป้าย สาหรับป้ายของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในการพิจารณาป้ายสามารถใช้แนวคาพิพากษานี้ ในการวินิจฉัยป้ายได้ ซึ่งป้ายชื่อของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนได้กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษา 8 พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ถูกยกเลิกโดย พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๘ ชื่อของโรงเรียนในระบบต้องใช้อักษรไทยขนาดใหญ่พอสมควรติดไว้ที่บริเวณโรงเรียนในระบบ ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย โดยต้องมีคาว่า “โรงเรียน” ประกอบชื่อด้วย ใน กรณีที่มีอักษรต่างประเทศกากับ ต้องไม่มีขนาดใหญ่กว่าอักษรไทย และสาหรับโรงเรียนในระบบที่จัดการศึกษาประเภทอาชีวศึกษาทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงอาจใช้คาว่า “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” หรือ “วิทยาลัยเทคโนโลยี” ประกอบชื่อแทนคาว่า “โรงเรียน” ก็ได้
  • 35. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๓- เอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๑ ชื่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องใช้ อักษรไทยและต้องใช้คาว่า "มหาวิทยาลัย" "สถาบัน" หรือ "วิทยาลัย" นาหน้าชื่อ ชื่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะใช้อักษรต่างประเทศด้วยก็ได้ โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี โดยคาแนะนาของคณะกรรมการ ตัวอย่างป้ายโรงเรียนเอกชนซึ่งแสดงไว้ในบริเวณโรงเรียนเอกชนจะได้รับการยกเว้นภาษีป้าย กรณีป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนติดไว้นอกบริเวณโรงเรียนหรือ สถานศึกษาจะต้องเสียภาษีหรือไม่ ในกรณีดังกล่าวต้องดูข้อเท็จจริงตามเงื่อนไขของป้ายโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษา เอกชนที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๘ (๙) ประกอบกับมาตรา ๖ ว่าเป็นป้ายเพื่อการหารายได้หรือไม่ หากเป็น การหารายได้ก็ต้องเสียภาษี ตัวอย่างป้ายโรงเรียนเอกชนซึ่งไม่ได้แสดงไว้ในบริเวณโรงเรียนเอกชน จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย ปัจจุบันมีสถานกวดวิชาจานวนมากและส่วนมากจะใช้ชื่อว่าโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบัน กวดวิชานาหน้าชื่อ ปัญหาคือป้ายของโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบันกวดวิชาดังกล่าวนี้ต้องเสียภาษีป้ายหรือไม่ ซึ่ง กฎหมายให้ยกเว้นโรงเรียนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันศึกษาเอกชน และในกฎหมายดังกล่าวนั้นได้กาหนดไว้ว่าจะต้องมีการวัดผลและประเมินผลซึ่งเป็นเงื่อนไข สาคัญของการสาเร็จการศึกษา ดังนั้นป้ายของโรงเรียนกวดวิชา หรือสถาบันกวดวิชาจึงไม่เข้าข้อยกเว้นดังกล่าว นี้ ถึงแม้บางแห่งจะอ้างว่าได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นสถานกวดวิชาก็ตามก็ไม่ได้ทาให้สถานะ เปลี่ยนแปลงไปเป็นโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชน เพราะไม่เข้าตามข้อกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันศึกษาของเอกชนดังกล่าว
  • 36. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๔- ตัวอย่าง ป้ายโรงเรียนกวดวิชาหรือสอนดนตรีไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ความเห็นของผู้เขียนเรื่องการยกเว้นป้ายตามมาตรา ๘ (๙) แห่งพระราชบัญญัติป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ นี้ ผู้เขียนเห็นว่าตามกฎหมายได้ระบุไว้ว่า “ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ฯลฯ” นั้น คาว่า “ตามกฎหมายว่า ด้วยโรงเรียนเอกชนและตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน” น่าจะหมายถึงโรงเรียนนั้นได้มีการจัดตั้ง ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันศึกษานั้นได้มีการจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งถ้าหากว่าความเห็นของข้าพเจ้าถูกต้องนั้นหมายความว่าป้ายทุกประเภทของ โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะได้รับการยกเว้นภาษีป้าย เหตุผล ที่สนับสนุนความคิดของข้าพเจ้าคือ ๑. ปัจจุบันมีการจัดตั้งโรงเรียนหรือสถาบันศึกษา โดยเปิดทาการเรียนการสอนลักษณะเป็น การกวดวิชาหรือติววิชาต่างๆเกิดขึ้นมากมาย โดยไม่ได้เป็นโรงเรียนหรือสถานศึกษาตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่ง โรงเรียนลักษณะนี้จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย ๒. ถ้าหากมองย้อนกลับไปดูมาตรา ๘ (๖)-(๑๒) จะเห็นว่าใช้คาว่า “ป้ายของ”แล้วตามด้วย หน่วยงานต่างๆ ป้ายของหน่วยงานนี้มีความหมายครอบคลุมเพียงใด จะหมายถึงเฉพาะป้ายชื่อเหมือนโรงเรียน หรือสถาบันศึกษาเอกชนหรือไม่ หากไม่ใช่ก็จะไม่มีเหตุผลตอบได้ว่าเพราะเหตุอะไร หรืออาจจะอธิบายได้ว่าป้าย ตามมาตรา ๘ (๖) - (๑๒) เป็นป้ายของหน่วยงานรัฐหรือนารายได้ส่งรัฐ หรือกิจการที่เป็นการกุศล ก็จะอธิบาย เหตุผลนี้ได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะมีมาตรา ๘ (๕) ขัดแย้งอยู่ด้วยข้อความว่าป้ายที่แสดงไว้ในอาคารที่ใช้ใน การประกอบการค้า และกรณีโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชน ก็ได้กาหนดที่ติดตั้งป้ายไว้ว่าต้องติดตั้ง ณ อาคาร หรือบริเวณโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนเช่นกัน ๓. ในการยกเว้นภาษีป้ายของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนนั้นเป็นไปได้ว่า ปัจจุบันสถานศึกษาไม่เพียงพอในการรับบุคคลเข้าเรียนเข้าศึกษา ซึ่งโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนก็มี ส่วนช่วยประเทศชาติในการแก้ปัญหาสถานที่ศึกษามีไม่เพียงพอ
  • 37. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๕- ๔. ปัจจุบันพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติ โรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ และมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ที่บัญญัติไว้ว่า “ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดให้มีป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเป็นอักษรไทยขนาดใหญ่พอเห็น ได้ในระยะอันสมควรติดไว้ที่ โรงเรียนหรือบริเวณโรงเรียน ณ ที่ซึ่งเห็นได้ง่าย”ได้ถูกแก้ไขโดยพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๘ “ชื่อของโรงเรียนในระบบต้องใช้อักษรไทยขนาดใหญ่พอสมควรติดไว้ที่บริเวณโรงเรียนในระบบ ณ ที่ ซึ่งเห็นได้ง่าย โดยต้องมีคาว่า “โรงเรียน” ประกอบชื่อด้วย ในกรณีที่มีอักษรต่างประเทศกากับ ต้องไม่มีขนาด ใหญ่กว่าอักษรไทย และสาหรับโรงเรียนในระบบที่จัดการศึกษาประเภทอาชีวศึกษาทั้งระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงอาจใช้คาว่า “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” หรือ “วิทยาลัยเทคโนโลยี” ประกอบชื่อแทนคาว่า “โรงเรียน” ก็ได้” ข้อสังเกต ได้มีการตัดข้อความว่า “ป้ายแสดงชื่อโรงเรียนเอกชน”ออกแล้วใช้คาว่า” “ชื่อ ของโรงเรียน”แทน นั้นมีจุดมุ่งหมายอย่างไร เป็นการหลีกเลี่ยง การใช้คาว่า “ป้าย”หรือไม่ หรือเพื่อไม่ต้องให้มี การตีความของคาว่า “ป้ายตามพระราชบัญญัติ”นี้หรือไม่ มาตรา ๘ (๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน อธิบาย การกาหนดยกเว้นภาษีป้ายในกรณีนี้คงเป็นการเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้นาสินค้าที่ผลิต ขึ้นมาจาหน่ายเอง สามารถกาหนดราคาได้ทาให้ได้ราคาที่ดี โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและขณะเดียวกันผู้ซื้อก็จะ ได้สินค้าราคาถูก เช่นเดียวกัน ข้อควรพิจารณาผู้ประกอบการเกษตรมีความหมายถึงไหนเพียงใด ซึ่งในบางพื้นที่จะมี ผู้ประกอบการเกษตรขนาดใหญ่มีการจ้างคนทางานในพื้นที่การเกษตรของตน แล้วขายผลผลิตนั้น ดังนี้แล้วจะถือ ว่าผู้นั้นเป็นผู้ประกอบการเกษตรหรือไม่ กรณีดังกล่าวนี้เห็นว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายในการกาหนดข้อยกเว้น ภาษีป้ายในกรณีนี้น่าจะหมายถึงผู้ทาการเกษตรจริง ๆ จึงได้กาหนดไว้ในตอนท้ายว่า “จากการเกษตรของตน) แต่ ผู้ประกอบการเกษตรขนาดใหญ่นั้นจะเป็นการประกอบการเกษตรเชิงธุรกิจมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะมีลูกจ้าง และ มีการนาผลผลิตมาแปรสภาพและจาหน่ายด้วย เช่น ไร่องุ่นแถบจังหวัดนครราชสีมา จึงไม่เข้าข้อยกเว้นนี้ องค์ประกอบของป้ายที่จะได้รับยกเว้นภาษีป้ายตามมาตรา ๘ (๑๐) มีดังนี้ ๑. ต้องเป็นป้ายของผู้ประกอบการเกษตรและ ๒. ผู้ประกอบการเกษตรนั้นจะต้องขายผลผลิตอันเกิดจากผลผลิตของตน ปัจจุบันหากเราเดินทางไปตามต่างจังหวัดจะพบว่ามีผลผลิตทางการเกษตรมีการวางจาหน่าย อยู่ริมถนนสายหลักเกือบทุกภาค และมีการวางจาหน่ายขายเป็นจุดๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะต้อง พิจารณาว่าผู้ขายสินค้านั้นเป็นเกษตรกรผู้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรหรือไม่ ซึ่งคงไม่ยากในการพิจารณาเพราะ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะรู้ข้อมูลพื้นที่และประชาชนในเขตพื้นที่นั้นดี แต่ทั้งนี้จะต้องเข้าองค์ประกอบทั้งสอง ดังกล่าวข้างต้น
  • 38. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๖- ตัวอย่าง ข้อเท็จจริงในกรณีป้ายของไร่สุพัตรา ซึ่งปลูกองุ่น มีการขายผลองุ่น มีการแปรรูปผลองุ่นเป็น น้าองุ่น ดังนี้ถือว่าเป็นผู้ประกอบการเกษตรขายผลผลิตอันเกิดจากผลผลิตของตนหรือไม่ ในกรณีดังกล่าวนี้ผู้เขียนเห็นว่าการดาเนินการของผู้ประกอบการเกษตรตามข้อยกเว้นนี้น่า เป็นกรณีที่ผู้ประกอบการนาผลผลิตมาขายและมีป้ายบอกราคาหรือชื่อร้านค้าในลักษณะไม่ใช่เชิงพาณิชย์แต่ สาหรับป้ายชื่อของไร่สุพัตรานี้เป็นการดาเนินการเชิงพาณิชย์และมีการค้าขายสินค้าอื่นด้วย ดังนั้น ป้ายตาม ตัวอย่างนี้ จึงต้องเสียภาษี มาตร ๘ (๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศล สาธารณะโดยเฉพาะ องค์ประกอบของป้ายที่จะได้รับยกเว้นภาษีป้ายตามมาตรา ๗ (๑๑) มีดังนี้ ๑. ต้องเป็นป้ายของวัด หรือ ๒. ผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ การพิจารณาข้อยกเว้นภาษีป้ายในกรณีนี้ ป้ายวัดนั้นจะเป็นป้ายชื่อวัดหรือป้ายของวัดที่ จัดทาขึ้นในกิจการของวัดก็ได้ กรณีผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ ป้ายประเภทนี้หาก มองถึงวัตถุประสงค์ในการติดตั้งป้ายก็เพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะแล้ว ก็จะไม่ เข้าองค์ประกอบของป้ายที่ต้องเสียภาษี ตามมาตรา ๖ จึงได้รับการยกเว้นภาษี เช่น ป้ายเชิญชวนร่วมทาบุญสร้าง โบถส์ เป็นต้น ปัจจุบันในวัดหลายแห่งมีการจาหน่ายพระ หรือเครื่องรางของขลังต่างๆ หากบุคคลอื่นไป ดาเนินการจาหน่ายและมีการติดตั้งหรือแสดงป้าย เพื่อการประกอบกิจการค้าและหารายได้ก็จะต้องเสียภาษีตาม หลักกฎหมายที่ผู้เป็นเจ้าของป้ายจะต้องเสียภาษี แต่มีปัญหาว่ากรณีป้ายของวัดที่มีโฆษณาการจาหน่ายพระ หรือ เครื่องรางของขลังต่างๆเพื่อหารายได้เข้าวัด จะต้องเสียหรือไม่ ซึ่งในข้อยกเว้นได้กาหนดไว้ว่า“เป็นของวัดและ การกุศลเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ” ผู้เขียนเห็นว่าในกรณีนี้จะต้องกลับไปดู บทบัญญัติหลักของมาตรา ๖ ที่กาหนดไว้ว่าป้ายที่จะต้องเสียภาษีมีหลักสาคัญคือเพื่อหารายได้ ประกอบกับ ข้อยกเว้นในมาตรา นี้ ซึ่งกาหนดว่าเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวจึงไม่เข้ายกเว้นภาษีนี้
  • 39. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๗- (๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ สมาคมหรือมูลนิธิเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการกุศลสาธารณะไม่ได้มุ่งหวังหากาไร กฎหมาย จึงได้กาหนด เว้นให้ในกรณีป้ายของสมาคมและมูลนิธิต่างๆ (๑๓) ป้ายตามที่กาหนดในกฎกระทรวง กระทรวงมหาดไทยอาจออกกฎกระทรวงยกเว้นป้ายบางประเภทได้เช่นที่ผ่านมากรณีมีการ แข่งขันกีฬาและมีป้ายโฆษณาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการค้า ก็จะมีการออกกฎกระทรวงออกเว้นให้ เป็นการเฉพาะ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันยกเลิกไป นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงยกเว้นภาษีป้ายเป็นการเฉพาะได้แก่ กฎกระทรวงฉบับที่ ๒ ( พ.ศ. ๒๕๓๕) ให้เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้ายสาหรับ (๑) ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถบดถนน หรือรถแทรกเตอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (๒) ป้ายที่ติดตั้งหรือที่แสดงไว้ที่ล้อเลื่อน ตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน (๓) ป้ายติดตั้งหรือแสดงไว้ที่ยานพาหนะนอกเหนือจาก (๑) และ (๒) โดยมีพื้นที่ไม่เกินห้า ร้อยตารางเซนติเมตร อธิบาย ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคล “รถยนต์ส่วนบุคคล” หมายความว่า (๑) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน (๒) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคนแต่ไม่เกินสิบสองคน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มี น้าหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม ซึ่งมิได้ใช้ประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ทางบก ข้อสังเกต ในการยกเว้นภาษีป้ายในมาตรา ๘ นี้มีการกาหนดข้อความแตกต่างกันในเรื่องของ สถานที่ติดตั้งป้ายที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งบางกรณีกาหนดไว้ชัดเจนว่าติดตั้งที่ไหนที่จะได้รับการยกเว้น เช่น มาตรา ๘ (๒) ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้น เพื่อโฆษณา มหรสพ (๓) ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว รถยนต์บรรทุกตามภาพนี้เป็นรถบรรทุก ประกอบการขนส่งไม่เข้าข้อยกเว้นใน(๑) และไม่เข้าข้อยกเว้นใน (๓) เพราะมีพื้นที่ ป้ายมากกว่า ๕๐๐ ตารางเซนติเมตร ผู้ เป็นเจ้าของต้องเสียภาษีป้าย
  • 40. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๘- (๙) ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษา เอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น แต่มีป้ายที่ได้รับการยกเว้นบางประเภทไม่ได้กาหนดสถานที่ติดตั้งไว้เช่น (๖) ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (๗) ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตาม กฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นารายได้ส่งรัฐ (๘) ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคาร เพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (๑๐) ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน (๑๑) ป้ายของวัด หรือผู้ดาเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ โดยเฉพาะ (๑๒) ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ ปัญหาคือป้ายที่ไม่ได้มีการกาหนดสถานที่ติดไว้ ตามมาตรา ๘ (๖)-(๑๒) จะได้รับการยกเว้น ภาษีหรือไม่ ป้ายของหน่วยงานต่างๆนี้แม้ว่าติดตั้งในสถานที่อื่นก็ได้รับการยกเว้น ความคิดเห็นในเรื่องนี้ ควรให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์กับผู้ใช้ กฎหมาย มาตรา ๙ ภาษีป้ายที่เก็บในเขตราชการส่วนท้องถิ่นใด ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่น นั้น อธิบาย การจัดเก็บภาษีป้ายยึดถือสถานที่ติดตั้งป้ายเป็นสาคัญ ไม่ว่าสถานที่หรือสานักงาน ของผู้ประกอบการค้านั้นจะอยู่ที่ใดก็ตามหากมีการเอาป้ายมาติดตั้งสถานที่ใดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ก็ต้องไปเสียภาษีป้าย ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ภาษีที่จัดเก็บได้ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ก็เป็นรายได้ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นนั้น แต่เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นไม่ชัดเจนเช่นกรณีองค์การบริหารส่วนตาบล มีการเลื่อมล้า กัน ก็ทาให้เกิดปัญหาในการจัดเก็บภาษีเช่นกัน ซึ่งปัญหาแนวเขตนี้เป็นเรื่องสาคัญมากสาหรับองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะการจัดเก็บภาษีแต่มีผลกระทบกับเรื่องอื่นด้วยเช่นการบริการสาธารณะ อาจจะเป็นการจัดทานอกเขตปกครองได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มาตรา ๑๐ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ อธิบาย การแต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีป้ายนี้ได้กาหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่น แต่ละประเภทมีอานาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วก็จะมีอานาจ ตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป
  • 41. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๓๙- มาตรา ๑๑ การส่งคาสั่งเป็นหนังสือ หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นให้แก่บุคคลใด ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ (๑) ให้ส่งในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทาการของ ผู้รับ (๒) ให้ส่ง ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ โดยจะส่งทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียนก็ได้ ถ้าไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้ บรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งอยู่หรือทางาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น ถ้าไม่สามารถจะส่งตามวิธีดังกล่าวได้ ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้นั้น หรือลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสอง ฉบับ เมื่อได้ปฏิบัติตามวิธีนี้แล้ว และเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ปฏิบัติการ ให้ถือว่าบุคคลนั้น ได้รับหนังสือนั้นแล้ว อธิบาย ในการปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษีป้ายนี้จะมีกระบวนการในการจัดเก็บภาษี ตั้งแต่การมี หนังสือแจ้งให้มายื่นแบบชาระภาษี มีหนังสือแจ้งการประเมิน หนังสือเร่งรัดให้มาชาระภาษี เป็นต้น ซึ่งกฎหมาย ได้วางหลักไว้ว่า การที่จะไปส่งหนังสือต่างๆนั้น ให้ดาเนินการไปส่งในเวลากลางวัน ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและ พระอาทิตย์ตก แต่ในการประกอบกิจการบางประเภทอาจจะไม่ได้ดาเนินการช่วงกลางวัน กฎหมายได้ กาหนดไว้เป็นพิเศษให้ไปส่งหนังสือในเวลาเปิดกิจการหรือทาการนั้นๆได้ เช่นร้านอาหารที่เปิดในเวลากลางคืน ก็ ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไปส่งในเวลาทาการกลางคืนนั้นได้ หรือให้ส่งทางไปรษณีย์ ไปยังสถานการค้า สถานประกอบกิจการหรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ซึ่ง ในการส่งทางไปรษณีย์นี้กฎหมายได้กาหนดว่าให้ส่งด้วยการลงทะเบียนก็ได้ ในการส่งทางไปรษณีย์นี้ ผู้เขียนให้ความเห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรส่งเอกสารส่ง ทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับ เพื่อจะได้เป็นหลักฐานในการดาเนินงานว่าได้มีการดาเนินการถูกต้องทุกขั้นตอนแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือหากผู้เสียภาษีไม่มาเสียภาษี จะต้องมีการฟ้องร้องดาเนินคดี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้ มีเอกสารก็สามารถเอาเอกสารหลักฐานนั้นในการดาเนินคดีได้ ในการส่งเอกสารหนังสือนี้กฎหมายได้กาหนดแนวทางการดาเนินงานไว้ว่า กรณีไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือไม่มีที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งอยู่หรือทางาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้เสียภาษีนั้น ผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ได้กาหนดการบรรลุนิติภาวะไว้ ๒ กรณี ๑. 9 บรรลุนิติภาวะด้วยมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ ๒. 10 บรรลุภาวะด้วยการสมรส 9 มาตรา ๑๙ บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะ เมื่อมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ 10 มาตรา ๒๐ ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทาการสมรส หากการ สมรสนั้นได้ทาตามบทบัญญัติ มาตรา 1448
  • 42. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๐- กรณีไม่สามารถส่งได้ด้วยวิธีเจ้าหน้าที่ไปส่งเอง หรือส่งไปรษณีย์ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆก็ตามให้ ดาเนินการส่งหนังสือดังนี้ ๑. ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัย ของผู้นั้น ๒. ลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสองฉบับ เมื่อได้ปฏิบัติตามวิธีนี้แล้ว และเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ปฏิบัติการให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว หมวด ๒ การยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ................................................... มาตรา ๑๒ ให้เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายตามแบบ และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด ภายในเดือนมีนาคมของปี ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย อธิบาย เจ้าของป้ายในที่นี้รวมทั้งผู้ครอบครองป้าย หรือเจ้าของที่ดินที่ติดตั้งป้ายในกรณีหา เจ้าของป้ายไม่ได้ จะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ณ สานักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตาบล) ที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่ ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ระยะเวลาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายในมาตรานี้หมายถึงป้ายที่ได้ติดตั้งมาก่อนปีที่ จะมีการจัดเก็บภาษี หากเป็นป้ายที่ติดตั้งระหว่างปีจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน ๑๕ วันนับตั้งแต่ วันติดตั้งป้าย ตามมาตรา ๑๔ วรรค ๒ ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป ในกรณีที่เจ้าของป้ายอยู่นอกประเทศไทย ให้ตัวแทนหรือผู้แทนในประเทศไทยมีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีป้ายแทนเจ้าของป้าย รายละเอียดดังอธิบายประกอบไว้แล้วใน มาตรา ๗ มาตรา ๑๓ ถ้าเจ้าของป้ายตาย เป็นผู้ไม่อยู่ เป็นคนสาบสูญ เป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็น คนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ผู้จัดการมรดก ผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไม่ว่าจะเป็นทายาทหรือผู้อื่น ผู้จัดการ ทรัพย์สิน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา ๑๒ แทนเจ้าของป้าย รายละเอียดดังอธิบายประกอบไว้แล้วใน มาตรา ๗ มาตรา ๑๔ เจ้าของป้ายผู้ใด (๑) ติดตั้งหรือแสดงป้ายอันต้องเสียภาษีภายหลังเดือนมีนาคม (๒) ติดตั้งหรือแสดงป้ายใหม่แทนป้ายเดิมและมีพื้นที่ ข้อความ ภาพ และเครื่องหมายอย่าง เดียวกับป้ายเดิมที่ได้เสียภาษีป้ายแล้ว (๓) เปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้ายที่ได้เสียภาษี ป้ายแล้ว อันเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น
  • 43. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๑- ให้เจ้าของป้ายตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ติดตั้งหรือแสดงป้าย หรือนับแต่วันเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมาย ในป้ายเดิม แล้วแต่กรณี อธิบาย กรณีตามมาตรา ๑๔ เป็นการกาหนดให้เจ้าของป้ายจะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ภายใน ๑๕ วัน ภายหลังจากได้มีการดาเนินการเกี่ยวกับป้ายตาม (๑) – (๓) อาจจะมีข้อสงสัยอยู่บ้างก็เป็น (๑) กรณีติดตั้งป้ายใหม่ แต่ต้องติดตั้งภายหลังเดือนมีนาคม ทาไมกฎหมายถึงได้ระบุว่าภายหลังเดือนมีนาคม เหตุผลเพราะ - ภาษีป้ายเป็นภาษีที่เก็บล่วงหน้าทั้งปี - มีผลต่อการเสียหรือจัดเก็บภาษีของผู้เสียภาษี - ระยะเวลากาหนดให้ยื่นแบบรายการเสียภาษีป้ายเดิมไว้ภายเดือนมีนาคม - มีการกาหนดการชาระภาษีป้ายไว้ ๔ งวด งวดละ ๓ เดือน ซึ่งงวดที่ ๑ จะอยู่ในช่วงเวลา มกราคมถึงมีนาคม ซึ่งเสียภาษี ๑๐๐ % หลังจากนั้นก็ลดลงเป็น ๗๕ , ๕๐ และ ๒๕ % ตามลาดับ มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๑) ให้เสียภาษีป้ายตามมาตรา ๗ อธิบาย ตามที่ได้อธิบายมาแล้ว ตามมาตรา ๗ กล่าวคือ ในหนึ่งปีหนึ่งๆมีการกาหนดแบ่งช่วง ระยะเวลาการจัดเก็บภาษีป้ายไว้ ๔ ช่วง ช่วงระยะเวลาละ ๓ เดือน โดยเริ่มจากมกราคม ถึง มีนาคม เป็นช่วงแรก ที่จะมีการจัดเก็บภาษีเต็มจานวน หากติดตั้งหลังจากนี้ก็จะคิดภาษีตามช่วงระยะเวลาการติดตั้งดังนี้ ป้ายที่ติดตั้งงวดที่หนึ่งระหว่างเดือน มกราคม - มีนาคม คิดภาษีป้าย ๑๐๐ % ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สองระหว่างเดือน เมษายน – มิถุนายน คิดภาษีป้าย ๗๕ % ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สามระหว่างเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม คิดภาษีป้าย ๕๐ % ป้ายที่ติดตั้งงวดที่สี่ระหว่างเดือน กันยายน – ธันวาคม คิดภาษีป้าย ๒๕ % หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๑) จะต้องมีลักษณะดังนี้ (๑.) เป็นป้ายใหม่ที่ติดตั้งหรือแสดงหลังเดือนมีนาคม (๒.) เป็นป้ายที่ต้องเสียภาษี หากเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้ก็จะต้องเสียภาษีตามระยะเวลาที่ติดตั้งดังกล่าว มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๒) ให้ได้รับยกเว้นภาษีเฉพาะปีที่ติดตั้งหรือแสดงป้าย อธิบาย ภาษีป้ายเป็นภาษีที่จัดเก็บล่วงหน้าเป็นระยะเวลา ๑ ปี หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๒) จะต้องมีลักษณะดังนี้ ๑. ได้เสียภาษีป้ายแล้ว ๒. ติดตั้งหรือแสดงป้ายใหม่แทนป้ายเดิม ๓. มีพื้นที่ ข้อความ ภาพ และเครื่องหมายอย่างเดียวกับป้ายเดิม ๔. การเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องไม่ทาให้เสียภาษีเพิ่ม หากเข้าเงื่อนไขดังกล่าวก็ไม่ต้องเก็บภาษีป้ายอีก (หลักความเป็นธรรมของกฎหมาย)
  • 44. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๒- มาตรา ๑๔ ทวิ ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เสียภาษีตาม (๕) ของบัญชีอัตราภาษีป้ายท้าย พระราชบัญญัตินี้ ถ้าเป็นป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ภาพ และเครื่องหมายทั้งหมดให้เสียภาษีป้ายตาม มาตรา ๗ อธิบาย มาตรา ๑๔ ทวิ ที่ได้กาหนดไว้ป้ายตามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เสียภาษีตาม (๕) ของบัญชีอัตรา ภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้ ถ้าเป็นป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ภาพ และเครื่องหมายทั้งหมดให้เสียภาษี ป้ายตามมาตรา ๗ ได้มีการแก้ไขโดย กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ข้อ (๕) ความว่า ป้ายที่ แก้ไขเปลี่ยนแปลงตามมาตรา ๑๔ (๑๓) ให้คิดอัตราภาษีตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี และให้เสียเฉพาะ จานวนภาษีที่เพิ่มขึ้น หลักกฎหมาย ป้ายที่จะได้เข้าเงื่อนไขมาตรา ๑๔ (๓) ที่ได้กาหนดให้เสียภาษีเพิ่มเฉพาะ จานวนภาษีที่เพิ่มขึ้น จะต้องมีลักษณะดังนี้ ๑. ได้เสียภาษีป้ายไปแล้ว ๒. เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ ภาพ หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้าย ๓. การเปลี่ยนแปลงตาม ๒. นั้นเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นภาษีรายได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หรือเก็บใน กรณีอื่นๆ รวมทั้งภาษีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บนั้นเป็นการจัดเก็บภาษีจากการกระทาหรือประกอบ กิจการที่สุจริตแล้วต้องเสียภาษี กฎหมายจึงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษี ในการจัดเก็บ ภาษีป้ายก็เช่นกัน ที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษี จึงได้กาหนดไว้ในตามมาตรา ๑๔ ทวิ ว่าถ้าเป็นกรณีอย่างนี้แล้วให้จัดเก็บ ภาษีป้ายอย่างใด ปัจจุบันหลายพื้นที่อาจจะพบโครงสร้างป้ายที่ให้เช่าพื้นที่ป้ายเพื่อโฆษณา ปัญหา คือผู้มาเช่า ป้ายนั้นอาจจะเป็นทั้งเจ้าของผู้ประกอบการค้าและเป็นนักการเมืองด้วย ไม่ว่านักการเมืองระดับชาติ หรือท้องถิ่น ได้มีการเช่าโครงสร้างป้ายนั้นแล้วโฆษณาการค้า ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้เช่าป้ายซึ่งเป็นนักการเมืองได้มี การลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้เปลี่ยนข้อความป้ายที่โฆษณาสินค้าบนโครงสร้างป้ายนั้นใหม่ทั้งหมดโดย เปลี่ยนเป็นป้ายประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงของตนหรือพรรคการเมืองของตน เมื่อการเลือกตั้งนั้นผ่านพ้นไป แล้ว ได้โฆษณาสินค้านั้นใหม่บนโครงสร้างนั้น โดยลบข้อความที่ประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงออก ดังนี้เก็บภาษี ป้าย ตาม มาตรา ๑๔ ประกอบมาตรา ๑๔ ทวิ ได้หรือไม่อย่างไร ประเด็นที่ต้องพิจารณา ๑. ป้ายโฆษณาที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ที่ถูกลบแล้วมีป้ายประชาสัมพันธ์ใน การหาเสียงมาแทนนั้น มีสภาพเป็นเช่นไร ๒. เมื่อมีการจัดทาป้ายโฆษณาที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ขึ้นมาใหม่บน โครงสร้างเดิมนั้น จะถือว่าเป็นป้ายที่ติดตั้งใหม่หรือไม่อย่างไร ความเห็นของผู้เขียนเห็นว่า ในกรณีดังกล่าวดังนี้ ๑. สภาพป้ายที่ใช้ในการประกอบการค้าเพื่อหารายได้ที่ถูกลบแล้วนั้นจะไม่มีสภาพป้าย เดิมที่มีการแก้ไขข้อความป้าย ตามมาตรา ๑๔ เพราะข้อความประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงใหม่นั้นไม่ได้เป็นป้าย
  • 45. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. -๔๓- ตาม มาตรา ๖ ที่จะต้องเสียภาษีป้าย และไม่ใช่เป็นป้ายที่เกิดการเสียหาย หรือชารุดแล้วสร้างป้ายใหม่ทดแทน ป้ายเดิม กรณีนี้เป็นการสมัครใจที่จะยกเลิกป้ายเดิม ๒. เมื่อป้ายเดิมได้สิ้นสภาพป้ายไม่ได้เข้าเงื่อนไขตามมาตรา ๑๔ แล้ว จึงถือว่าเป็นการติดตั้ง ป้ายใหม่ หากป้ายนั้นเข้าองค์ประกอบตามมาตรา ๖ ก็ต้องเสียภาษีป้ายตามระยะเวลาติดตั้งป้ายในปีนั้นๆ มาตรา ๑๕ ให้เจ้าของป้ายหรือผู้ซึ่งเจ้าของป้ายมอบหมายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ดังต่อไปนี้ (๑) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ในเขต ราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (๒) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งการจดทะเบียนยานพาหนะได้กระทา ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (๓) สถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นกาหนด โดยประกาศหรือโฆษณาให้ทราบเป็นเวลาไม่น้อย กว่าสามสิบวันนับแต่วันประกาศหรือโฆษณา หลักกฎหมาย ในการชาระภาษีป้ายนั้นกฎหมายได้วางหลักแนวทางปฏิบัติไว้ดังนี้ ๑ เจ้าของป้าย หรือผู้ได้รับมอบหมาย มีหน้าที่จะต้องไปยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๒ สถานที่ยื่นแบบ (๑) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่ในเขต ราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (๒) สานักงานหรือที่ว่าการของราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งได้มีการจดทะเบียนยานพาหนะ เขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (๓) สถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นได้กาหนด (๔) กรณีตามข้อ (๓) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องประกาศหรือโฆษณาให้ ประชาชนทราบเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันประกาศหรือโฆษณา อธิบาย จากหลักกฎหมายดังกล่าวจะมีประเด็นก็คือผู้ได้รับมอบหมาย นั้นคือใคร ได้รับมอบหมาย จากใคร ซึ่งตามมาตรา ๑๕ นี้ได้กาหนดหลักไว้คือเจ้าของป้ายหรือผู้ได้รับมอบหมาย ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้ที่ได้รับ มอบหมายจะต้องได้รับมอบหมายจากเจ้าของป้ายนั้นเอง แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาประกอบกับมาตรา ๑๒ และ ๑๓ เรื่องผู้จัดการมรดก ผู้แทน ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ฯลฯ บุคคลดังกล่าวนี้สามารถมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแบบแทน ได้หรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ว่าไม่ให้บุคคลตาม มาตรา ๑๒ และ ๑๓ มอบหมายให้ผู้อื่นยื่น แบบแสดงรายการเสียภาษีแทน ดังนั้น กรณีกฎหมายไม่ได้บัญญัติห้ามไว้และเพื่อประโยชน์ของในการชาระภาษี ป้ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเห็นว่าบุคคลดังกล่าวสามารถมอบหมายบุคคลอื่นได้เช่นกัน มาตรา ๑๖ ในกรณีที่มีการโอนป้าย ให้ผู้รับโอนแจ้งการรับโอนเป็นหนังสือต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันรับโอน หลักกฎหมาย ผู้รับโอนป้ายจะต้องแจ้งการรับโอนป้ายโดย ๑. ทาเป็นหนังสือแจ้งการรับโอนป้ายยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
  • 46. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๔- ๒. ต้องแจ้งภายในสามสิบวัน อธิบาย การโอนป้ายจะต้องมีเอกสารเป็นหนังสือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการโอนป้ายสิ่งที่พนักงาน เจ้าหน้าที่ต้องดาเนินการภายหลังการรับแจ้งการโอนคือ การตรวจสอบว่าป้ายนั้นได้มีการชาระภาษีแล้วหรือไม่ หากไม่ได้ชาระภาษี ก็จะต้องแจ้งให้ผู้รับโอนดาเนินการมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ในกรณีมีการโอน ภายหลังเดือนมีนาคม แล้วผู้โอนเดิมยังไม่ได้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี เมื่อผู้รับโอนมายื่นภายหลังจะต้อง เสียเงินเพิ่มเนื่องจากมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเกินกาหนดเวลาที่กฎหมายกาหนด ดังนั้นในการโอนป้าย หากมีภาระภาษีผูกพัน ผู้รับโอนจะต้องให้ผู้โอนมาชาระภาษีแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนจะทาสัญญาโอน ป้าย หมวด ๓ การประเมินภาษีป้ายและการชาระภาษีป้าย ............................................. มาตรา ๑๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินภาษีป้ายตามหลักเกณฑ์การคานวณภาษีป้ายที่ กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ (๗) ท้ายพระราชบัญญัตินี้และตามอัตราภาษีป้ายที่กาหนดใน กฎกระทรวง แล้วแจ้งการประเมินเป็นหนังสือไปยังเจ้าของป้าย หลักกฎหมาย ๑. การประเมินภาษีเป็นอานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ๒. การคานวณภาษีป้ายตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกาหนดบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ(๗) หรือ ๓. ตามอัตราป้ายที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวง ๔. ต้องแจ้งการประเมินเป็นหนังสือ อธิบาย พนักงานเจ้าหน้าที่กฎหมายได้กาหนดไว้ในมาตรา ๑๐ ที่ได้กาหนดให้ผู้บริหารท้องถิ่นมี อานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดังนี้ (๑) การส่งคาสั่งเป็นหนังสือ (๒) ทาหนังสือแจ้งการประเมิน หรือ (๓) มีหนังสือส่งให้แก่บุคคลอื่น โดยมีหลักว่า - ส่งในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก - หรือในเวลาทาการของผู้รับ - ให้ส่ง ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ - หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ โดยจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (๔) ถ้าไม่พบผู้รับ ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่อาศัยของผู้รับ ให้ส่งแก่ผู้บรรลุนิติภาวะแล้วที่อยู่หรือทางาน ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่ อยู่อาศัยของผู้นั้น
  • 47. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๕- (๕) ให้ปิดหนังสือนั้นไว้ในที่เห็นได้ง่าย ณ สถานการค้า สถานประกอบกิจการ หรือที่อยู่ อาศัยของผู้นั้น (๖) ลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยสองฉบับ (๗) ระยะเวลาได้ล่วงพ้นไปไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ดาเนินการตาม (๕) และ (๖) ให้ถือ ว่าบุคคลนั้นได้รับหนังสือนั้นแล้ว สาหรับมาตรานี้กาหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ประเมินภาษี เมื่อมีการประเมินภาษี แล้วก็จะต้องแจ้งการประเมินภาษี ในการแจ้งการประเมินภาษี หากผู้เสียภาษีจะชาระภาษีในวันที่มายื่นแบบ แสดงรายการภาษีก็ให้ส่งใบแจ้งการประเมินภาษีให้กับผู้มายื่นแบบแสดงการเสียภาษีในวันนั้นๆ แต่หากไม่มีการ ชาระภาษีในวันนั้น จะต้องแจ้งการประเมินภาษีตามแนวทาง (๓) ถึง (๗) หลักในการคานวณภาษีป้ายที่กาหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีป้าย ได้อธิบายรายละเอียดไว้แล้ว ในมาตรา ๗ มาตรา ๑๘ ในกรณีที่ปรากฏแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการสาหรับภาษี ป้ายใด เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ป้าย ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือ แสดงอยู่ เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลาดับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษีป้ายเป็นหนังสือไป ยังบุคคลดังกล่าว ได้อธิบายไว้แล้วในมาตรา ๗ มาตรา ๑๙ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ที่ได้ยื่น แบบแสดงรายการภาษีป้ายไว้ หรือ ณ สถานที่อื่นใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่กาหนด ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันนับแต่ วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน และให้ถือว่าวันที่ชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นวันชาระภาษีป้าย การชาระภาษีป้ายจะกระทาโดยวิธีการส่งธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินของธนาคารที่สั่งจ่ายเงิน ให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ไปยังสถานที่ตามวรรคหนึ่ง โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือส่งโดยวิธีอื่น ตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดแทนการชาระต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ และให้ถือว่าวันที่ได้ทาการส่งดังกล่าวเป็น วันชาระภาษีป้าย หลักกฎหมาย ได้กาหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องปฏิบัติดังนี้ ๑. การชาระภาษีป้ายต้องชาระภาษีป้ายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๒. สถานที่ระภาษีป้าย - สถานที่ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายไว้ - สถานที่อื่นใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่กาหนด ๓. ต้องชาระภาษีภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ๔. วันที่ชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นวันชาระภาษีป้าย วิธีการชาระภาษี สามารถชาระได้ดังนี้ ๑. วิธีการส่งธนาณัติโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ๒. ตั๋วแลกเงินของธนาคารโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ๓. ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
  • 48. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๖- ๔. ส่งโดยวิธีอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด ๕. วันที่ได้ทาการส่ง ตาม ข้อ ๑ – ๒ เป็นวันชาระภาษีป้าย อธิบาย การชาระภาษีป้ายนั้นทาได้หลายวิธีนอกจากการชาระภาษีโดยตรงต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ได้ยื่นแบบรายการแสดงภาษีป้าย หรือสถานที่เจ้าพนักงานกาหนด แล้วยังสามารถชาระด้วยการส่งเงินทางธนาณัติโดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ตั๋วแลกเงินของธนาคาร โดยสั่งจ่ายเงินให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น การส่งเงินดังกล่าวนั้นต้องลงทะเบียน วันที่ได้ส่งคือวันชาระภาษี ข้อสังเกต กฎหมายได้กาหนดให้ชาระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่ชาระแก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ มาตรา ๑๙ ทวิ ถ้าภาษีป้ายที่ต้องชาระมีจานวนตั้งแต่สามพันบาทขึ้นไป ผู้มีหน้าที่เสียภาษี ป้ายจะขอผ่อนชาระเป็นสามงวด งวดละเท่า ๆ กันก็ได้ โดยแจ้งความจานงเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ก่อนครบกาหนดเวลาชาระภาษีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง การชาระภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ชาระงวดที่หนึ่งก่อนครบกาหนดเวลาชาระภาษีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง งวดที่สองภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง และงวดที่สามภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง ถ้าผู้ขอผ่อนชาระภาษีไม่ชาระภาษีป้ายงวดหนึ่งงวดใดภายในกาหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ หมดสิทธิที่จะขอผ่อนชาระภาษี และให้นามาตรา ๒๕ (๓) มาใช้บังคับสาหรับงวดที่ยังมิได้ชาระ หลักกฎหมาย การผ่อนชาระภาษีมีหลักเกณฑ์ดังนี้ ๑. ต้องมีเงินภาษีที่จะชาระตั้งแต่ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นไป ๒. ผู้เสียภาษีต้องมีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอผ่อนชาระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๓. ระยะเวลาการยื่นหนังสือตามข้อ ๒ ต้องดาเนินก่อนวันครบกาหนดการชาระภาษี ( ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน) ๔. ผ่อนชาระเงินภาษีได้สามงวด งวดละเท่าๆกัน ๕. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๑ ภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ๖. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๒ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง ๗. การชาระเงินภาษีงวดที่ ๓ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง ๘. ผู้เสียภาษีป้ายต้องเสียภาษีป้ายตามกาหนดในแต่ละงวด ๙. ผู้เสียภาษีป้ายไม่ชาระภาษีป้ายในงวดหนึ่งงวดใดภายในเวลาที่กาหนดแต่ละงวดจะหมด สิทธิ์ที่จะต้องขอผ่อนชาระ ๑๐. ผู้เสียภาษีป้ายที่หมดสิทธิ์ในการผ่อนชาระภาษีป้ายจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อ เดือนของจานวนเงินภาษีที่ยังไม่ได้ชาระ อธิบาย ตามหลักกฎหมายในมาตรานี้แยกได้เป็น ๒ กรณี ๑. หลักแห่งสิทธิ์การขอผ่อนชาระภาษีป้าย ๒. หลักการระงับแห่งสิทธิผ่อนชาระภาษีป้าย
  • 49. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๗- ๑. หลักแห่งสิทธิ์การขอผ่อนชาระภาษีป้าย กฎหมายได้กาหนดให้มีการแบ่งเบาภาระแก่ผู้ชาระภาษีป้ายด้วยการให้ผ่อนชาระโดยมี เงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติว่าต้องมีเงินภาษีที่ต้องชาระตั้งแต่สามพันบาทขึ้นไปและให้ทาหนังสือขอผ่อนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ สามารถผ่อนชาระภาษีป้ายได้สามงวด จานวนเงินภาษีที่ต้องชาระแต่ละงวดจะแบ่งเท่าๆกัน การชาระภาษีป้าย งวดแรกภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน งวดที่ ๒ และ ๓ ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันสุดท้ายที่ต้องชาระแต่ละงวด ประเด็นข้อกฎหมายในวรรคนี้ มีปัญหาที่จะต้องทาความเข้าใจ ๓ ประเด็นหลักดังนี้ ๑. การคิดระยะเวลาชาระภาษีคิดอย่างไร ๒. การนับระยะเวลาในแต่ละงวดเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ในประเด็นปัญหาดังกล่าวข้างต้นมีความเห็นในการพิจารณาดังนี้ ๑. การคิดระยะเวลาชาระภาษีคิดอย่างไรซึ่งกฎหมายกาหนดว่าภายในหนึ่งเดือนภายหลัง จากการชาระภาษีแต่ละงวดคาว่าหนึ่งเดือนนั้นคิดอย่างไรเนื่องจากหนึ่งเดือนตามปีปฏิทินนั้นต่างกันเดือน กุมภาพันธ์ มี ๒๘ วัน เดือนที่ลงท้ายด้วยคาว่า “ยน” มี ๓๐ วัน เดือนที่ลงท้ายด้วยคาว่า “คม” มี ๓๑ วัน หนึ่งปี มี ๑๒ เดือน หรือ ๓๖๕ หรือ ๓๖๖ วัน ดังนี้แล้วเมื่อกฎหมายกาหนดว่าภายในหนึ่งเดือนนั้นจะนับกี่วันเป็น หนึ่งเดือน ในเรื่องดังกล่าวนี้หากไปคิดตามเดือนต่างๆอาจจะเกิดปัญหาได้ในทางปฏิบัติ จึงให้นับไปจนถึงวันที่ถึง กาหนดในเดือนถัดไป หรือวันชนวัน เช่นกาหนดชาระวันสุดท้ายของงวดที่ ๑ คือวันที่ ๑๔ เดือนเมษายน และผู้ เสียภาษีได้นาเงินมาชาระในวันที่ ๑๔ เมษายน ระยะเวลาชาระงวดที่ ๒ คือภายในหนึ่งเดือนนับจากวันสุดท้าย ของการชาระงวดที่ ๑ ดังนั้น จานวนระยะเวลาหนึ่งเดือนของงวดที่สองจะถึงกาหนดครบหนึ่งเดือนคือวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒. การนับระยะเวลาในแต่ละงวดจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด กฎหมายกาหนดว่า การชาระภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ชาระงวดที่หนึ่งก่อนครบกาหนดเวลา ชาระภาษีตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง งวดที่สองภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง และงวดที่ สามภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่สอง การชาระภาษีป้ายงวดแรก กฎหมายกาหนดว่าต้องชาระภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับการ แจ้งประเมิน เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในระยะเวลาการชาระซึ่งกฎหมายกาหนดให้ชาระภายในเวลาที่กาหนด แต่ละงวด จึงขอยกตัวอย่างให้เห็นดังนี้ นาย ก. ต้องเสียภาษีป้ายจานวน ๙,๐๐๐ บาท ได้มีหนังสือขอผ่อนชาระภาษีต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ และนาย ก ได้รับใบแจ้งการประเมินภาษีวันที่ ๕ มีนาคม ซึ่งกฎหมายกาหนดว่าต้องมาชาระภายใน ๑๕ วัน นับจากวันได้รับการแจ้งประเมินภาษีป้าย ดังนั้นนาย ก จะต้องมาชาระภาษีระหว่างวันที่ ๖ ถึง ๒๐ มีนาคม วันครบกาหนดชาระภาษีป้ายคือ ๒๐ มีนาคม (หากเสียภายหลังวันที่ ๒๐ มีนาคม จะต้องเสียเงินเพิ่ม) ถ้าหากนาย ก มาชาระภาษีงวดแรก ใน ๑๕ มีนาคม ดังนี้แล้วการนับระยะเวลางวดที่สองของนาย ก คือวันที่๒๐ มีนาคม (นับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชาระงวดที่หนึ่ง) ไม่ได้นับจากวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒. หลักการระงับแห่งสิทธิผ่อนชาระภาษีป้าย เมื่อผู้ขอผ่อนชาระภาษีป้ายผิดนัดไม่ชาระภาษีป้ายในงวดหนึ่งงวดใด จะมีผลดังนี้ - สิทธิ์ที่ได้รับผ่อนชาระภาษีป้ายจะสิ้นสุดลง
  • 50. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๘- - ผู้ขอผ่อนชาระภาษีป้ายจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนตามจานวนเงินภาษีที่ยัง ไม่ได้ชาระ มาตรา ๑๙ ตรี ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยใน สถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการ หลักกฎหมาย ผู้ที่เสียภาษีป้ายจะต้องแสดงหลักฐานการเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยในสถานที่ ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการกิจการอื่น อธิบาย กฎหมายมาตรานี้เป็นการบังคับให้ผู้เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐานการเสียภาษี หลักฐานการเสียภาษีในที่นี้คือ ใบเสร็จรับเงินภาษีป้าย โดยปิดไว้ในที่เปิดเผย มาตรา ๒๐ ภาษีป้ายจานวนใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งการประเมินแล้วถ้ามิได้ชาระ ภายในเวลาที่กาหนด ให้ถือเป็นภาษีป้ายค้างชาระ หลักกฎหมาย ๑. พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมินภาษี ๒. ผู้ต้องชาระภาษีป้ายไม่ชาระภาษีภายในกาหนดเป็นภาษีค้างชาระ อธิบาย หลักการสาคัญของภาษีป้ายค้างชาระคือจะต้องมีการประเมินภาษีและแจ้งการ ประเมินภาษีเสียก่อน หากไม่มีการแจ้งการประเมินยังไม่ถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ และเมื่อได้รับแจ้งการประเมิน แล้วไม่ไปชาระภาษีป้ายตามกาหนด ๑๕ วัน นับจากวันได้รับใบแจ้งการประเมิน ตัวอย่าง นาย ก. ได้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้ายแล้ว แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ประเมิน ภาษีป้ายของนาย ก ถึงแม้นว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานเท่าใดก็ตาม ยังไม่ถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ และไม่ต้องเสีย เงินเพิ่ม แต่หากนาย ก ได้รับใบแจ้งการประเมินแล้วไม่ไปชาระภาษีภายใน ๑๕ วัน นับจากวันได้รับ ใบแจ้งการประเมิน จึงถือว่าเป็นภาษีค้างชาระ มาตรา ๒๑ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ยึดหรืออายัดและขาย ทอดตลาดทรัพย์สินของผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่ค้างชาระ เพื่อนาเงินมาชาระค่าภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมและ ค่าใช้จ่ายโดยมิต้องขอให้ศาลสั่งหรือออกหมายยึด ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนด การยึดทรัพย์สินจะกระทาได้ต่อเมื่อได้ส่งคาเตือนเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระ ภาษีป้ายที่ค้างชาระภายในกาหนดไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่รับหนังสือนั้น การขายทอดตลาดทรัพย์สินจะกระทามิได้ในระหว่างระยะเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ หรือมาตรา ๓๓ เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะเป็นของเสียง่าย วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน เพื่อให้ได้รับภาษีป้ายที่ค้างชาระ ให้นาวิธีการ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
  • 51. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๔๙- หลักกฎหมาย ๑. ผู้มีอานาจการออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินคือ ผู้บริหารท้องถิ่น ๒. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายค้างภาษีป้าย ๓. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ส่งคาเตือนเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายชาระภาษี ป้ายที่ค้างชาระภายในกาหนดไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่รับหนังสือ ๔. ในระหว่างระยะเวลาอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ หรือมาตรา ๓๓ จะ ขายทอดตลาดทรัพย์สินไม่ได้ เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะเป็นของเสียง่าย ๕. วิธีการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ดาเนินการประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๑ และแก้ไขเพิ่มเติม อธิบาย การยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างชาระภาษีป้ายนั้น มีความหมายว่า อย่างไร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้กาหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยึด อายัด และขายทอดตลาด ทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๑ และแก้ไขเพิ่มเติม ได้กาหนดคาจากัดดังกล่าวไว้ว่า “ยึด” หมายความว่า การกระทาใด ๆ ต่อทรัพย์สินของผู้ค้างภาษี เพื่อให้ทรัพย์สินนั้นได้เข้า มาอยู่ในความดูแลหรือครอบครองของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ได้รับมอบหมาย “อายัด” หมายความว่า การสั่งให้ผู้ค้างภาษีหรือบุคคลภายนอกมิให้จาหน่าย จ่ายโอนหรือ กระทานิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องที่ได้สั่งอายัดไว้ รวมตลอดถึงการสั่งบุคคล ภายนอก มิ ให้นาส่งทรัพย์สินหรือชาระหนี้แก่ผู้ค้างภาษี และให้ส่งมอบหรือชาระหนี้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแทน “ขายทอดตลาด” หมายความว่า การนาเอาทรัพย์สินของผู้ค้างภาษีออกขายโดยวิธีให้สู้ราคา กันโดยเปิดเผย ในการดาเนินการยึด อายัด และขายทรัพย์สินทอดตลาดนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้อง ดาเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯดังกล่าว โดยเฉพาะการมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้มีหน้าที่ค้างชาระภาษีมาเสียภาษีภายในกาหนดเวลาไม่ น้อยกว่า ๗ วัน นับแต่วันได้รับหนังสือนั้น ข้อควรคานึงในการยึด อายัดทรัพย์สินของบุคคลผู้ค้างชาระภาษีป้ายนั้น ถ้าหากบุคคลนั้นมี ทรัพย์สินหลายรายการจะต้องพิจารณา ยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่เพียงพอต่อการชาระภาษีที่ค้างชาระ เท่านั้น มาตรา ๒๒ เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ให้หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด หรือขายทอดตลาด เหลือเท่าใดให้ชาระเป็นค่าภาษีป้าย ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์สินนั้น หลักกฎหมาย เงินที่ได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินได้ดาเนินการดังนี้
  • 52. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๐- ๑. จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการยึด อายัด หรือขายทอดตลาด เป็นอันดับแรก ๒. จ่ายเป็นค่าภาษีป้าย ๓. หากมีเงินเหลือส่งคืนเจ้าของ ตามหลักกฎหมายนี้เป็นการแจกแจงการนาเงินที่ขายทอดตลาดมาจ่ายโดยกาหนดให้ใช้จ่าย เป็นลาดับคือ จ่ายในการดาเนินการยึด อายัด หรือขายทอดตลาด จ่ายเป็นเงินภาษีป้าย ส่วนที่เหลือคืนเจ้าของ ป้าย มาตรา ๒๓ เมื่อได้มีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ตามมาตรา ๒๑ วรรคหนึ่งแล้ว ถ้าได้มีการ ชาระภาษีป้ายที่ค้างชาระ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินโดยครบถ้วนก่อนการขาย ทอดตลาด ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรืออายัดนั้น หลักกฎหมาย ๑. ได้มีการยึด อายัดทรัพย์สินไว้แล้ว ๒. ยังไม่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินยึด อายัดไว้ ๓. ผู้ค้างชาระภาษีป้ายได้นาเงินมาชาระภาษีที่ค้างชาระ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการ ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ๔. ได้ชาระเงินครบถ้วน ๕. ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรืออายัด เป็นกรณีที่ผู้ค้างภาษีป้ายได้นาเงินมาชาระค่าภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการยึด หรืออายัดทรัพย์สินมาชาระครบถ้วนแล้วให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสั่งถอนการยึดหรือ อายัดทรัพย์สินที่ยึด อายัดไว้ มาตรา ๒๔ ผู้ใดเสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียหรือเสียเกินกว่าที่ควรต้องเสีย ผู้นั้นมี สิทธิได้รับเงินคืน การขอรับเงินคืน ให้ยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายภายใน หนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย ในการนี้ให้ผู้ยื่นคาร้องส่งเอกสาร หลักฐานหรือคาชี้แจงใด ๆ ประกอบคาร้องด้วย เมื่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายเห็นว่าผู้ยื่นคาร้องมีสิทธิได้รับเงินคืน ให้สั่งคืนเงินให้โดยเร็ว และแจ้งให้ผู้ยื่นคาร้องทราบเพื่อมาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง การกระทาใด ๆ เพื่อให้เสียภาษีป้ายน้อยลงกว่าที่ได้เสียไปแล้ว ให้มีผลเมื่อเริ่มต้นปีภาษีป้าย หลักกฎหมาย สิทธิรับคืนภาษี ๑. เสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่เสีย ๒. เสียเกินกว่าที่ควรจะเสีย ๓. ผู้ชาระภาษีเกินต้องยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย ๔. ระยะเวลาในการยื่นคาร้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย
  • 53. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๑- ๕. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องแจ้งการได้คืนภาษีป้ายให้ผู้ยื่นคาร้องทราบถึง ๖. มาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง อธิบาย การขอคืนเงินภาษีป้ายที่ชาระไปแล้วคืนมีสองกรณี ซึ่งในกรณีดังนี้ ๑. กรณีเสียภาษีป้ายโดยไม่มีหน้าที่เสีย ซึ่งกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะหลักการ จัดเก็บภาษีป้ายนั้นเก็บจากเจ้าของป้าย และพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทราบเจ้าของป้ายก่อนถึงจะมีการเก็บภาษี จัดและกระบวนการจัดเก็บภาษีนั้นเจ้าของจะต้องมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี มีการประเมินภาษี การจัดเก็บ ภาษีหรือเสียภาษีออกใบเสร็จรับเงิน ซึ่งในระหว่างอยู่ในกระบวนการจัดเก็บภาษี ผู้นั้นสามารถโต้แย้งได้ว่าตนไม่มี ป้ายที่จะต้องเสียภาษี ๒. กรณีเสียเกินกว่าที่ควรจะเสียอาจจะเกิดได้หลายกรณีตัวอย่างเช่น กรณีวินิจฉัยประเภท ภาษีผิดเพราะปัจจุบันมีการจัดทาข้อความป้ายเพื่อหลีกเลี่ยงประเภทภาษีที่สูงกว่าโดยเฉพาะประเภทที่สองและ ประเภทที่สาม ข วิธีปฏิบัติในการขอคืนภาษีป้าย ๑. ให้ยื่นคาร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย ๒. ต้องยื่นคาร้องภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่เสียภาษีป้าย ๓. ให้ผู้ยื่นคาร้องส่งเอกสาร หลักฐานหรือคาชี้แจงใด ๆ ประกอบคาร้อง ๔. ผู้ขอรับเงินภาษีคืนจะต้องมารับเงินภาษีคืนภายในหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งให้ไปรับ เงินภาษีคืน หมวด ๔ เงินเพิ่ม ................................................ มาตรา ๒๕ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายเสียเงินเพิ่มนอกจากเงินที่ต้องเสียภาษีป้ายในกรณีและ อัตรา ดังต่อไปนี้ (๑) ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของ จานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้ายเว้นแต่กรณีที่เจ้าของป้ายได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ จะได้แจ้งให้ทราบถึงการละเว้นนั้นให้เสียเงินเพิ่มร้อยละห้าของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย (๒) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ทาให้จานวนเงินที่จะต้องเสียภาษีป้ายลด น้อยลง ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของภาษีป้ายที่ประเมินเพิ่มเติม เว้นแต่กรณีที่เจ้าของป้ายได้มาขอแก้ไขแบบ แสดงรายการภาษีป้ายให้ถูกต้องก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน (๓) ไม่ชาระภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนของจานวนเงิน ที่ต้องเสียภาษีป้าย เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน ทั้งนี้ ไม่ให้นาเงินเพิ่มตาม (๑) และ (๒) มาคานวณเป็นเงิน เพิ่มตามอนุมาตรานี้ด้วย หลักกฎหมาย ผู้เสียภาษีจะต้องเสียเงินเพิ่ม ในกรณีดังนี้
  • 54. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๒- ๑. ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด - เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย - กรณีที่เจ้าของป้ายได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้แจ้ง ให้ทราบให้เสียเงินเพิ่มร้อยละห้าของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย ๒. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้องเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายลดน้อยลง - เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของภาษีป้ายที่ประเมินเพิ่มเติม ข้อยกเว้น เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหากได้ขอแก้ไขแบบแสดงรายการภาษีป้ายให้ ถูกต้องก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน ๓. ไม่ชาระภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนด - ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนของจานวนเงินที่ต้องเสียภาษีป้าย - เศษของหนึ่งเดือนให้คิดเป็นหนึ่งเดือน ๔. ไม่ให้นาเงินเพิ่มกรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กาหนดและยื่นแบบ แสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้องมาคิดเป็นกรณีไม่ชาระภาษีภายในเวลาที่กาหนดเพื่อคิดเงินเพิ่มร้อยละสอง มาตรา ๒๖ เงินเพิ่มตามมาตรา ๒๕ ให้ถือว่าเป็นภาษีป้าย หมวด ๕ พนักงานเจ้าหน้าที่ ........................................... มาตรา ๒๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจดังต่อไปนี้ (๑) เข้าไปในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของผู้มีหน้าที่เสีย ภาษีป้าย หรือบริเวณที่ต่อเนื่องกับสถานที่ดังกล่าว หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีป้ายในระหว่างพระ อาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทาการ เพื่อตรวจสอบว่าผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายได้ปฏิบัติการถูกต้อง ตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ (๒) ออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคาหรือให้ส่งบัญชีหรือเอกสาร เกี่ยวกับภาษีป้ายมาตรวจสอบภายในกาหนดเวลาอันสมควร หลักกฎหมาย เป็นการกาหนดวิธีในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดังนี้ ๑. การเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการของผู้ประกอบการที่เสียภาษีป้ายจะต้องเข้าไป สถานที่นั้นๆ ๑.๑ ในเวลาระหว่างอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ๑.๒ ในเวลาทาการประกอบการนั้น ๒. มีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคา ๓. มีอานาจออกคาสั่งเป็นหนังสือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายส่งบัญชีหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษี ป้ายมาตรวจสอบ
  • 55. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๓- ตามหลักกฎหมายนี้เป็นการกาหนดอานาจให้เจ้าพนักงานที่ได้รับคาสั่งแต่งตั้งมีอานาจเข้าไป ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับป้าย เวลาปกติ คือระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ในกรณีการประกอบกิจการบาง ประเภทดาเนินการในเวลากลางคืน กฎหมายจึงให้อานาจเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้ในเวลาทาการ นั้น ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการกลางคืน จะมีป้ายลักษณะเป็นกล่องพลาสติก สี่เหลี่ยมระบบไฟฟ้า ติดตั้งบนขาเหล็กมีล้อเลื่อนสามารถลากเคลื่อนย้ายได้ ในเวลากลางวันไม่ได้ประกอบการก็จะ เก็บไว้ เวลากลางคืนประกอบการก็จะนามีติดตั้งไว้หน้าสถานประกอบการ ดังนี้จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่สามารถจะเข้าไปตรวจสอบในเวลากลางคืนซึ่งประกอบการได้ มาตรา ๒๘ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจาตัวเมื่อ บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องร้องขอ บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง หลักกฎหมาย ต้องการให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีการแสดงหลักฐานบัตรประจาตัวต่อผู้เสียภาษี ในการเข้า ไปตรวจสอบ เมื่อผู้ประกอบการขอให้แสดงตน มาตรา ๒๙ เมื่อปรากฏว่าเจ้าของป้ายมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย หรือยื่นแบบแสดง รายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจแจ้งการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน หลักกฎหมาย ๑. เจ้าของป้ายมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ๒. เจ้าของป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ๓. พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจแจ้งการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปี คาอธิบาย ในกรณีดังกล่าวนี้เป็นการให้อานาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการแจ้งการประเมินให้เสียภาษี ป้ายย้อนหลังได้ แต่การประเมินจะย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่แจ้งการประเมิน กฎหมายภาษีป้ายได้กาหนดระยะเวลาการประเมินย้อนหลังได้ไม่เกินห้าปี ซึ่งการที่ พระราชบัญญัติป้ายได้กาหนดในเรื่องระยะเวลานี้ไว้เป็นการเฉพาะ นั้นอาจเกี่ยวเนื่องจากอายุความตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้มีการกาหนดอายุความทั่วไปเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี หมวด ๖ การอุทธรณ์ ...................................................... มาตรา ๓๐ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษีป้ายแล้วเห็นว่าการประเมิน นั้นไม่ถูกต้อง มีสิทธิอุทธรณ์การประเมินต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายได้ภายในสามสิบ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
  • 56. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๔- การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการชาระภาษีป้าย เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้บริหารท้องถิ่น หลักกฎหมาย การอุทธรณ์ภาษีป้ายได้จะต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายดังนี้ ๑. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายจะต้องได้รับแจ้งการประเมินภาษีป้าย ๒. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง ๓. การอุทธรณ์ต้องอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายได้ ๔. ระยะเวลาในการอุทธรณ์ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ๕. การยื่นอุทธรณ์ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ๖. การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการชาระภาษีป้าย ๗. เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้บริหารท้องถิ่น อธิบาย การอุทธรณ์ภาษีป้ายมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ภาษีป้ายเมื่อเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งการ อุทธรณ์นั้นต้องอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย การอุทธรณ์ต้องยื่นภายใน ๓๐ วัน โดยยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ปัญหาในการปฏิบัติผู้เสียภาษีจะเข้าใจว่าเมื่อตนยื่นอุทธรณ์แล้ว การชาระภาษีก็ชะลอไปด้วย กล่าวคือคิดว่าจะไปชาระภาษีเมื่อได้มีคาอุทธรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในกรณีดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเมื่อ ได้รับคาร้องยื่นอุทธรณ์จากผู้เสียภาษีป้ายแล้วจะต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า การอุทธรณ์นี้ไม่เป็นเหตุให้มีการ ชะลอการชาระภาษี การชาระภาษีจะต้องชาระภายในกาหนดเวลา ๑๕ วันนับจากวันได้รับแจ้งการประเมิน ถ้า หากระหว่างรอการพิจารณาอุทธรณ์เมื่อถึงกาหนดชาระภาษีป้ายก็จะต้องชาระ มิเช่นนั้นแล้วจะต้องเสียเงินเพิ่ม ร้อยละสองต่อเดือนของเงินที่ต้องชาระภาษี แต่เมื่อชาระภาษีตามกาหนดแล้วในเวลาต่อมาหากผู้บริหารท้องถิ่น พิจารณาอุทธรณ์แล้วมีการพิจารณาลดค่าภาษีให้ในภายหลังก็สามารถขอคืนภาษีได้ แต่กฎหมายพระราชบัญญัติ ป้ายนี้ก็ได้ตัดสิทธิ์ผู้เสียภาษีป้ายเลยที่เดียว ยังให้สิทธิ์ผู้เสียภาษีที่จะยื่นคาร้องขอชะลอการชาระภาษีไว้ แต่การ ชะลอการชาระภาษีป้ายได้ต่อเมื่อผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติ นอกจากนี้แล้วในการอุทธรณ์ภาษีป้ายนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องชี้แจงวิธีการอุทธรณ์ตามแบบ ภป. ๔ และหน้าที่ที่ผู้อุทธรณ์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้เข้าใจ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาจจะมีผลให้ผู้บริหารยก คาร้องอุทธรณ์ได้ และควรให้ผู้อุทธรณ์จัดทาแบบอุทธรณ์ ปภ. ๔ จานวนสองฉบับเพื่อเก็บไว้เป็นสาเนาหนึ่งฉบับ สาหรับพนักงานเจ้าหน้าเมื่อได้รับคาร้องอุทธรณ์แล้วจะต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับโดยเร็ว มาตรา ๓๑ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาอุทธรณ์ ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น มอบหมายอาจมีหนังสือเรียกผู้อุทธรณ์มาให้ถ้อยคาเพิ่มเติมหรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อ ประกอบการพิจารณาได้ ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในสามสิบวันตามมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง ไม่ปฏิบัติตามหนังสือ เรียก ไม่ยอมให้ถ้อยคา หรือไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจยกอุทธรณ์นั้นเสียได้
  • 57. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๕- หลักกฎหมาย ในการพิจารณาอุทธรณ์ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจดังนี้ ๑. เรียกผู้อุทธรณ์มาให้คาเพิ่มเติม ๒. ให้ผู้อุทธรณ์ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้ ๓. กรณีผู้อุทธรณ์ - ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก - ไม่ยอมให้ถ้อยคา - ไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายมีอานาจยกอุทธรณ์ได้ อธิบาย ตามหลักกฎหมายเป็นการกาหนดอานาจของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น มอบหมายไว้ว่าในการพิจารณาอุทธรณ์นั้น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายสามารถเรียกให้ผู้ อุทธรณ์หรือผู้ที่จะต้องเสียภาษีมาให้ถ้อยคาเพิ่มเติม หรือส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้ แต่ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์ - ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก - ไม่ยอมให้ถ้อยคา - ไม่ยอมส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีเหตุอันสมควร ผลของการไม่ปฏิบัติตามนี้กฎหมายให้อานาจผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายยกอุทธรณ์นั้นได้ มาตรา ๓๒ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ และแจ้งคาวินิจฉัยพร้อมด้วยเหตุผลเป็นหนังสือไปยังผู้อุทธรณ์และ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทาการประเมินโดยเร็ว หลักกฎหมาย เป็นการกาหนดเวลาในการดาเนินพิจารณาอุทธรณ์ไว้หกสิบวัน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและ เมื่อมีการพิจารณาอุทธรณ์แล้วจะต้องแจ้งคาวินิจฉัยอุทธรณ์นั้นพร้อมเหตุผลเป็นหนังสือไปยังผู้อุทธรณ์และ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทาการประเมินโดยเร็ว ปัญหาเวลาในการส่งคาวินิจฉัยใช้คาว่า “โดยเร็ว” คือภายในกี่วัน ไม่ได้กาหนดให้ชัดเจนเหมือนกับระยะเวลาการวินิจฉัยอุทธรณ์ มาตรา ๓๓ ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คาวินิจฉัยของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่น มอบหมายโดยฟ้องเป็นคดีต่อศาลภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคาวินิจฉัยอุทธรณ์เว้นแต่ในกรณีที่เป็นการ ยกอุทธรณ์ตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง การฟ้องคดีตามวรรคหนึ่งจะกระทาได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐ แล้ว
  • 58. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๖- หลักกฎหมาย ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คาวินิจฉัยของผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมาย โดย ๑. ยื่นฟ้องคดีต่อศาล ๒. ยื่นฟ้องภายในกาหนดเวลา ๓๐ วัน ๓. จะต้องมีการยืนอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นแล้ว ๔. ผู้บริหารท้องถิ่นมีคาวินิจฉัยแล้ว อธิบาย การดาเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลในกรณีนี้จะเป็นกรณีที่ผู้เสียภาษีป้ายได้มีการยื่นการ อุทธรณ์การประเมินภาษีป้ายแล้วและไม่พอใจคาวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นก็สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาล ได้ การฟ้องคดีต่อศาลผู้เสียภาษีจะต้องดาเนินการภายใน ๓๐ วัน แต่การที่ผู้เสียภาษีป้ายจะฟ้องคดีต่อศาลได้นั้น ผู้เสียภาษีป้ายจะต้องปฏิบัติตามมาตรา ๓๐ คือยื่นอุทธรณ์การประเมินภาษีป้ายต่อผู้บริหารท้องถิ่นแล้วภายใน ๓๐ วันแล้ว และจะต้องให้ความร่วมมือใน ขั้นตอนของการวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๓๑ กล่าวคือ ๑. ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหนังสือเรียกในขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร ๒. ให้ความร่วมมือในการให้ถ้อยคาในขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร ๓. ให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องขั้นตอนการวินิจฉัยของผู้บริหาร ตามเหตุอันสมควร เหตุที่ต้องให้ความร่วมมือดังกล่าว เพราะหากผู้เสียภาษีป้ายไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นเหตุให้ ผู้บริหารท้องถิ่นยกคาร้องอุทธรณ์ภาษีป้ายได้ จะไม่สามารถนาคดีฟ้องต่อศาลได้ ข้อสังเกต การฟ้องคดีต่อศาลได้จะต้องมีกระบวนดาเนินการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในขั้นตอน การยื่นคาอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่น ต้องให้ความร่วมมือในขั้นตอนการวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้บริหารท้องถิ่นและ ผู้บริหารท้องถิ่นได้มีการวินิจฉัยการอุทธรณ์นั้นแล้วเป็นหลักสาคัญ มาตรา ๓๓ ทวิ ในกรณีที่มีคาวินิจฉัยอุทธรณ์ถึงที่สุดให้คืนเงินค่าภาษีป้ายให้แก่ผู้อุทธรณ์ ให้ ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบโดยเร็วเพื่อมาขอรับเงินคืนภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หลักกฎหมาย ๑. การรับเงินคืนผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายต้องแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ (ผู้ เสียภาษีป้าย)ทราบโดยเร็ว ๒. ผู้อุทธรณ์ต้องมารับเงินคืนภายใน ๑ ปี อธิบาย กรณีศาลมีคาวินิจฉัยอุทธรณ์ถึงที่สุดให้คืนเงินภาษี ให้ผู้บริหารท้องถิ่น แจ้งให้ผู้อุธรณ์ทราบ และได้มีการกาหนดว่าผู้อุทธรณ์จะต้องมารับเงินคืนภายใน ๑ ปีนับตั้งแต่วันได้รับแจ้งให้มารับเงินคืน
  • 59. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. -๕๗- เนื่องจากกฎหมายกาหนดระยะเวลาในการรับเงินภาษีคืน ดังนั้นในการปฏิบัติการแจ้งนี้นั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องมีหลักฐานการแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบ เพื่อใช้เป็นการนับระยะเวลาในการมารับ เงินภาษีคืน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรที่จะส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ จะได้มีหลักฐานการรับแจ้งจากผู้อุทธรณ์ แต่การส่งทางไปรษณีย์นี้ กฎหมายได้กาหนดไว้ว่าให้สามารถส่งให้กับบุคคลที่บรรลุนิติภาวะได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ผู้ อุทธรณ์อาจจะไม่รับการแจ้งก็ได้ หมวด ๗ บทกาหนดโทษ .......................................... มาตรา ๓๔ ผู้ใดโดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ให้ถ้อยคาเท็จ ตอบ คาถามด้วยถ้อยคาอันเป็นเท็จ หรือนาพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสีย ภาษีป้าย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ หลักกฎหมาย ๑. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ๒. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจให้ถ้อยคาเท็จ ๓. รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจตอบคาถามด้วยถ้อยคาอันเป็นเท็จ ๔. นาพยานหลักฐานเท็จมาแสดง ๕. เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีป้าย อธิบาย การที่บุคคลใดกระทาการตามหลักกฎหมายดังกล่าวมานั้นตามข้อ ๑ – ๔ ประกอบกับข้อ ๕ ก็จะมีความผิดต้องรับโทษ ทั้งนี้ โทษดังกล่าวเป็นบทกาหนดโทษทางความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมี โทษร้ายแรงถึงขั้นจาคุก มาตรา ๓๕ ถึง มาตรา ๓๙ เป็นบทกาหนดโทษในกรณีต่างๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ป้าย ซึ่งมีโทษหนักเบาแตกต่างกันไป เช่น มาตรา ๓๕ ผู้ใดจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาท ถึงห้าหมื่นบาท มาตรา ๓๕ ทวิ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗ วรรคสาม คือ ป้ายที่ติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ ของบุคคลอื่นและมีพื้นที่เกินสองตารางเมตรต้องมีชื่อและที่อยู่ของเจ้าของป้ายเป็นตัวอักษรไทยที่ชัดเจนที่มุมขวา ด้านล่างของป้ายและให้ข้อความดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีป้าย ต้องระวางโทษปรับวันละหนึ่งร้อยบาทเรียงรายวัน ตลอดระยะเวลาที่กระทาความผิด มาตรา ๓๖ ผู้ใดไม่แจ้งการรับโอนป้ายตามมาตรา ๑๖ (คือให้ผู้รับโอนแจ้งการรับโอนเป็น หนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายในสามสิบวันนับแต่วันรับโอน) หรือไม่แสดงการเสียภาษีป้ายตามมาตรา ๑๙ ตรี (คือให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายแสดงหลักฐาน การเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการ)
  • 60. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๘- ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท มาตรา ๓๗ ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ (๑) (คือเข้าไป ในสถานที่ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย หรือบริเวณที่ต่อเนื่อง กับสถานที่ดังกล่าว หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีป้ายในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทาการ เพื่อตรวจสอบว่าผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายได้ปฏิบัติการถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่) หรือไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ๒๗ (๒) (คือออกคาสั่งเป็นหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่ เสียภาษีป้ายมาให้ถ้อยคาหรือให้ส่งบัญชีหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษีป้ายมาตรวจสอบภายในกาหนดเวลาอันสมควร) ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ มาตรา ๓๘ ในกรณีมีผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่ง ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายเห็นว่าเป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษจาคุกหรือปรับและโทษจาคุกไม่ เกินหกเดือน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ในกรณีดังต่อไปนี้ (๑)ในเขตกรุงเทพมหานครให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร มอบหมาย เป็นผู้มีอานาจเปรียบเทียบ (๒) ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นยกเว้นเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ซึ่ง ผู้บริหารท้องถิ่นมอบหมายของแต่ละเขต เป็นผู้มีอานาจเปรียบเทียบ เมื่อผู้ต้องหาได้ชาระเงินค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ เปรียบเทียบ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับภายใน กาหนด เวลาดังกล่าว ให้ดาเนินคดีต่อไป หลักกฎหมาย ๑. เป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว ๒. มีโทษจาคุกหรือปรับและโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน ๓. เมื่อผู้ต้องหาได้ชาระเงินค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ เปรียบเทียบ ๔. ผู้บริหารท้องถิ่นมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ ๕. ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อธิบาย ในกรณีนี้เป็นการให้อานาจผู้บริหารมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ ถ้าหากว่าเป็น ความผิดที่มีบทลงโทษตามข้อ ๑ - ๒ และผู้ต้องหาชาระค่าปรับมีอานาจเปรียบเทียบสถานเดียวได้ และเมื่อได้ ดาเนินการในกรณีนี้ครบถ้วนแล้วให้คดีเลิกกัน แต่ในกรณีผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับ ภายในกาหนด เวลาดังกล่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะให้ดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป มาตรา ๓๙ เงินค่าปรับตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
  • 61. นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ นายถวัลย์ชัย ถึงถิ่น นิติกรชานาญการ สถ. - ๕๙- หลักกฎหมาย เงินค่าปรับการกระทาความผิดภาษีป้ายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดก็จะเป็นรายได้ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา ๓๙ ทวิ11 ในกรณีที่ผู้กระทาความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติ บุคคล กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทาความผิดของนิติบุคคลนั้น หลักกฎหมาย ๑. นิติบุคคลกระทาความผิด ๒. ผู้ต้องรับโทษคือกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้น ๓. ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทาความผิดของนิติบุคคล อธิบาย นิติบุคคลเป็นบุคคลตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อนิติบุคคลกระทาความผิดกฎหมายจึงต้อง กาหนดให้มีผู้รับผิดชอบในความผิดนั้น หากพิจารณาตามบุคคลดังกล่าวที่รับผิดตามบทบัญญัตินี้ก็คือผู้บริหารของ นิติบุคคลนั้นเอง .............................................................